วันเสาร์ที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2564

มุมมองต่อเรื่องวัคซีนโควิด ในสายตานักมานุษยวิทยา โดย นัฐวุฒิ สิงห์กุล

 ว่าด้วยเรื่องวัคซีน...เราฉีดเพื่อใคร เราไม่ได้แค่พูดเรื่องความรู้แต่มันคือเรื่องของความรู้สึกด้วย..

การระบาดใหญ่ของ COVID-19 เมื่อเปรียบเทียบกับการแพร่ระบาดครั้งก่อนๆของโลก ล้วนมีความเกี่ยวข้องกับความรู้สึกกลัว และวิตกกังวล (Blakey & Abramowitz 2017; Wheaton et al 2012)
Holingue et al แสดงให้เห็นในการศึกษากลุ่มประชากรของผู้ใหญ่ในสหรัฐอเมริกา พบว่าความกลัวและความวิตกกังวลในการติดเชื้อและเสียชีวิตจาก COVID-19 นั้นสัมพันธ์กับความทุกข์ทางจิตที่เพิ่มขึ้น (Holingue et al 2020) นอกจากนี้ มาตรการป้องกันสุขอนามัยส่วนบุคคลที่ดำเนินการเฉพาะบุคคลเพื่อหลีกเลี่ยงการแพร่เชื้อไปยังผู้อื่นได้เพิ่มความน่าจะเป็นที่จะเกิดความทุกข์ทางจิตใจ การหมกมุ่นกับการล้างมือ ฉีดเจลแอลกอฮอล์ รวมถึงการจองวัคซีน(Holingue et al 2020) ในช่วงการระบาดใหญ่ของ COVID-19 ผู้คนใช้แหล่งข้อมูลที่หลากหลายเพื่อรับความรู้และข้อมูลด้านสุขภาพเกี่ยวกับโรค รวมถึงโทรทัศน์ วิทยุ หนังสือพิมพ์ โซเชียลมีเดีย เพื่อน เพื่อนร่วมงาน ผู้ให้บริการด้านสุขภาพ นักวิทยาศาสตร์ รัฐบาล ฯลฯ (Ali et al 2020) เนื่องจากแหล่งข้อมูลดังกล่าวสามารถกำหนดรูปแบบการยอมรับหรือการปฏิเสธวัคซีนโควิด-19 ของประชาชนได้ จึงถือเป็นสิ่งสำคัญ
การเผยแพร่ข้อมูลที่โปร่งใสและถูกต้องเกี่ยวกับความปลอดภัยและประสิทธิภาพของวัคซีนเพื่อให้ได้รับความไว้วางใจจากประชากร โดยเฉพาะผู้ที่ลังเลและสงสัย (Siegrist, & Zingg 2014) ดังนั้น การทำความเข้าใจแหล่งข้อมูลที่ผู้คนไว้วางใจมากที่สุดในการรับข้อมูลเกี่ยวกับวัคซีนป้องกันโควิด-19 จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความสำเร็จของการรณรงค์ฉีดวัคซีนระดับชาติในอนาคต
ในการศึกษาเพิ่มเติม พบว่าการยอมรับวัคซีนโควิด-19 ในหมู่นักศึกษาในเซาท์แคโรไลนา อเมริกาที่ได้รับผลกระทบจากแหล่งข้อมูลในเรื่องสุขภาพ นักเรียนส่วนใหญ่เชื่อถือนักวิทยาศาสตร์ (83%) ตามด้วยผู้ให้บริการด้านสุขภาพ (74%) และหน่วยงานด้านสุขภาพ (70%) (Qiao et al 2020)
การสำรวจจำนวนมาก การสนทนากลุ่ม การวิจัยถึงรากเหง้า แนวโน้ม และผลกระทบของปัญหาความเชื่อมั่นในวัคซีนในระดับชาติและระดับประเทศ เพื่อนำไปสู่นโยบายและกิจกรรมการสร้างความไว้วางใจในการจัดการวิกฤตในโครงการสร้างภูมิคุ้มกันต่างๆทั่วโลก
การศึกษาเหล่านี้ได้เน้นว่าปัจจัยหลายหลากที่ส่งผลต่อการตัดสินใจวัคซีน (SAGE 2014) ตัวขับเคลื่อนหลักของความเชื่อมั่นของสาธารณชนในเรื่องของวัคซีน ได้รับการระบุว่าเป็นความไว้วางใจในแง่ของความสำคัญ ความปลอดภัย และประสิทธิผลของวัคซีน ควบคู่ไปกับความเข้ากันได้ของการฉีดวัคซีนกับความเชื่อทางศาสนา (Larson et al 2015)
ญี่ปุ่นได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในประเทศที่มีความเชื่อมั่นในวัคซีนต่ำที่สุดในโลก ซึ่งอาจเชื่อมโยงกับความกลัวด้านความปลอดภัยของวัคซีนไวรัสที่ชื่อ human papillomavirus (HPV) ที่เริ่มต้นในปี 2013 และหลังจากการตัดสินใจของกระทรวงสาธารณสุข แรงงาน และสวัสดิการของญี่ปุ่นในเดือนมิถุนายน 2013 เพื่อระงับคำแนะนำเชิงรุกเกี่ยวกับการฉีดวัคซีน HPV (Simms et al 2020) อันเป็นผลมาจากความหวาดกลัวด้านความปลอดภัยของวัคซีนนี้
นอกจากนี้ ในประเทศอินโดนีเซียพบความเชื่อมั่นที่ลดลงอย่างมากในการฉีดวัคซีนระหว่างปี 2558 ถึง 2562 ซึ่งส่วนหนึ่งเกิดจากผู้นำมุสลิมตั้งคำถามถึงความปลอดภัยของวัคซีนป้องกันโรคหัด โรคคางทูม และหัดเยอรมัน (MMR) และในที่สุดก็ออกฟัตวา ซึ่งเป็นคำวินิจฉัยทางศาสนา โดยอ้างว่าวัคซีนดังกล่าวเป็นวัคซีน หะรอมและส่วนผสมที่ได้จากสุกรจึงไม่เป็นที่ยอมรับของชาวมุสลิม หมอในท้องถิ่นที่ส่งเสริมทางเลือกตามธรรมชาติของวัคซีนก็มีส่วนทำให้ความเชื่อมั่นในวัคซีนลดลง (Rochmyaningsih 2018; Yufika et al 2020) นอกจากนี้ ในเกาหลีใต้และมาเลเซีย การระดมวัคซีนออนไลน์ถือเป็นอุปสรรคสำคัญในการฉีดวัคซีน (Wong et al 2020; Chang & Lee 2019) ในเกาหลีใต้ ชุมชนออนไลน์ชื่อ ANAKI (คำย่อภาษาเกาหลีของ 'การเลี้ยงลูกโดยไม่ใช้ยา') ได้สนับสนุนอย่างแข็งขันในการต่อต้านการสร้างภูมิคุ้มกันในวัยเด็ก (Park et al 2018) อินเทอร์เน็ตเป็นแหล่งข้อมูลหลักเกี่ยวกับการฉีดวัคซีนในมาเลเซีย ซึ่งข้อมูลที่ไม่ถูกต้องได้รับการระบุว่ามีอิทธิพลต่อการไม่เต็มใจรับวัคซีนของชาวมาเลเซีย (Mohd Azizi et al 2017) ในจอร์เจีย ความกังวลด้านความปลอดภัยของวัคซีนที่ไม่มีมูลซึ่งถูกขยายความโดยสื่อสารมวลชน พบว่าส่งผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อการรณรงค์วัคซีน MMR ทั่วประเทศในปี 2551 (Khetsuriani et al 2010)
นอกจากนี้ การศึกษาอื่นๆ ในเอเชียพบว่าการรับรู้ถึงความเสี่ยงหรือการรับรู้ความอ่อนไหวต่อการติดเชื้อมีความเกี่ยวข้องกับการสนับสนุนการฉีดวัคซีนในเชิงบวก (Rajamoorthy et al 2019; Rajamoorthy et al 2018; Sundaram et al 2015) การศึกษาอื่นยังพบว่าการรับรู้เกี่ยวกับความเสี่ยงในระดับสูงเกี่ยวข้องกับการยอมรับวัคซีน COVID-19 ในหมู่สมาชิกชุมชนทั่วไปในซาอุดิอาระเบีย (Padhi & Almohaithef 2020) และการรับรู้ความเสี่ยงต่ำอาจไม่เพียงสัมพันธ์กับการยอมรับวัคซีนเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการปฏิบัติตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมและมาตรการรับมือด้านสาธารณสุขอื่นๆ ความสัมพันธ์เหล่านี้อาจซับซ้อน ตัวอย่างเช่น บุคคลที่ปฏิบัติตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมอย่างสูงอาจรับรู้ว่ามีความเสี่ยงต่ำ แต่ยังต้องการรับวัคซีน ในขณะเดียวกันการยอมรับวัคซีนที่ลดลงในกลุ่มประชากรที่เกษียณอายุอาจได้รับอิทธิพลจากการรับรู้ความเสี่ยงที่ลดลง แม้ว่าผู้สูงอายุจะมีความเสี่ยงต่อ COVID-19 มากกว่า แต่ประชากรที่เกษียณอายุส่วนใหญ่ในประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีความคล่องตัวต่ำและใช้เวลาอยู่ที่บ้านมากขึ้นด้วยการเดินทางน้อยลง พฤติกรรมเหล่านี้อาจทำให้การรับรู้ความเสี่ยงในการติดเชื้อโควิดที่ลดลง และในที่สุดอาจนำไปสู่การยอมรับวัคซีนที่ลดลง รวมถึงความเชื่อที่ว่า อายุมากแล้ว ตายไปก็ไม่ลำบากลูกหลาน อยากให้ลูกหลานปลอดภัยมากกว่าตัวเอง
นอกจากนี้ การยอมรับอาจได้รับอิทธิพลจากความรู้เกี่ยวกับโรค ข้อมูลส่วนใหญ่เกี่ยวกับโควิด-19 แพร่กระจายผ่านโซเชียลมีเดียหรือสื่อออนไลน์ ซึ่งผู้สูงอายุเข้าถึงได้ไม่บ่อยนัก ดังนั้น ผู้สูงอายุจึงอาจมีโอกาสได้รับข้อมูลเกี่ยวกับโควิด-19 น้อยลง ซึ่งอาจส่งผลต่อการกำหนดกรอบการรับรู้ความเสี่ยงของตนเอง นอกจากนี้ การใช้โซเชียลมีเดียน้อยลงอาจสัมพันธ์กับความรู้ของผู้สูงอายุน้อยลง และอาจส่งผลต่อการรับรู้ความเสี่ยงและการยอมรับวัคซีน
ปัจจัยกำหนดการรับวัคซีนทั่วโลกมีความสอดคล้องกันอย่างมาก พฤติกรรมการแสวงหาข้อมูลเชิงบวกและความไว้วางใจผู้ปฏิบัติงานด้านการดูแลสุขภาพมากกว่าแหล่งอื่นๆ เช่น วงสังคมสำหรับคำแนะนำทางการแพทย์และสุขภาพสัมพันธ์กับโอกาสในการรับที่เพิ่มขึ้น ผลลัพธ์จากการสำรวจของเราสามารถบอกถึงความจำเป็นในการวิจัยเพิ่มเติม เพื่อสำรวจว่าเหตุใดบางประเทศจึงอาจมีความมั่นใจเพิ่มขึ้นหรือลดลงอย่างกะทันหัน
จากงานวิจัยย้อนมาที่ประเทศไทย แม้ว่าวัฒนธรรมในบางภูมิภาคอาจจะเป็นส่วนหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับวัคซีน หากแต่ทว่าความเป็น choice being ของมนุษย์กำหนดการับไม่รับวัคซีนที่แตกต่างกัน รวมถึงการรับรู้ ความรู้สึกอารมณ์ต่อสถานการณ์ปัจจุบันที่เชื่อมโยงกับความต้องการวัคซีนที่มากขึ้นหรือน้อยลง (อยากฉีดใากทำทุกวิถีทาง หรือทำยังไงก็ไม่ได้ฉีดอย่างนั้นช่างหัวมัน )และระดับความเชื่อมั่นต่อวัคซีนที่แตกต่างกัน (วัคซีนตัวไหนดี ไม่ดี สร้างภูมิต่างกัน) สิ่งเหล่านี้อาจสะท้อนและทำให้เรามองเห็นถึง เรื่องของการบริหารจัดการของรัฐ ปัญหาเรื่องข้อมูลข่าวสาร ความแตกต่างทางชนชั้น การมีต้นทุนทางเศรษฐกิจที่ต่างกัน ความสามารถเข้าถึงทางเลือกที่แตกต่างกัน แต่การรอวัคซีนอาจทำให้ความคิดต่อการรับวัคซีนได้เช่นเดียวกัน
โดยส่วนตัวของผมเองตอนแรกไม่อยากฉีดวัคซีน เพระคิดว่าดูแลตัวเองดี และไม่คิดว่าโควิดน่ากลัว และก็ไม่ได้คิดว่าจะต้องฉีดทางเลือกอะไร แต่เมื่อต้องทำงานและออกภาคสนามบ่อยๆ เริ่มมีการรับรู้ถึงภาวะความเสี่ยงที่ตัวเองอาจติดและนำไปสู่ครอบครัว การตัดสินใจฉีดจึงไม่ได้คำนึงถึงข้อมูลใดๆทั้งสิ้น เป็นตัวไหนก็ได้ก่อนเพื่อความอุ่นใจ แค่มีใบรับรองยืนยันการฉีดเมื่อไปทำงาน....ได้ตัวไหนฉีดตัวนั้นก่อน ก่อนที่ปัจจุบันจะรู้สึกว่าการฉีด AZ ของตัวเอง เป็นผลดีต่อการทำงานของตัวเองมาก เพราะแค่เข็มเดียวสามารถเดินทางข้ามจังหวัดไปลงสนามได้ ในขณะที่เป็นชิโนแวคต้องฉีดครบสองเข็ม ตามประกาศที่แตกต่างกันไปตามจังหวัด บางจังหวัดต้องมีผลตรวจ. มีการกักตัวด้วย..ในขณะเดียวกันพฤติกรรมสุขอนามัย เช่นการใส่หน้ากาก การล้างมือ กดเจลแอลกอฮอล์กลายเป็นสิ่งหนึ่งในชีวิตประจำวันผมโดยไม่รู้ตัว และเริ่มตระหนักถึงความปลอดภัยต่อสังคมและคนที่เราเข้าไปมีปฎิสัมพันธ์ด้วย
ในขณะที่แฟนของผมเอง ก็ไม่เคยคิดอยากจะฉีดเพราะสุขภาพของเธอไม่ดี กลัวจะเป็นเหมือนเหตุการณ์ที่สื่อประโคมข่าวรายวันถึงความน่ากลัวแม้จะมีตัวเลขแค่ส่วนน้อยเท่านั้นที่ถูกยืนยันว่ามาจากการฉีดวัคซีนของทางการ แต่ในปัจจุบันเพราะเธอเห็นตัวเลขผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตจากโควิดที่เพิ่มมากขึ้นทุกวัน ก็เลยตัดสินใจที่จะฉีด แต่เมื่อลงทะเบียนจองวัคซีนของทางจังหวัด ต้องรอคิวในอันดับหลักหมื่น จึงต้องยอมตัดสินใจจองวัคซีนทางเลือกที่ไม่รู้ว่าจะได้ฉีดเมื่อไหร่ หรือต้องรอป่วยที่บ้านแล้วรอความช่วยเหลือ รอเตียง รอการรักษา รอคิว รอฉีดยา...และก็รอร๊อรอรอต่อไป ..แค่ขอให้มีขีวิตรอดในสถานการณ์ แต่เธอก็พร้อมจะทำเพื่อลูกสาว
ดังนั้นตัวแปร ตัวกำหนดในพฤติกรรมการรับวัคซีน มีความซับซ้อน มีบริบทที่แตกต่างกัน มีการให้ความหมายและทะท้อนความรู้สึกต่อวัคซีนที่แตกต่างกัน บางคนกลัวอดตายมากกว่าโควิด บางคนกลัวโควิดพอๆกับอดตาย บางคนมองว่าวัคซีนเป็นความเสี่ยง รวมถึงการเดินทางไปฉีดวัคซีนด้วย บางคนคิดว่าโควิดมันมองไม่เห็นเป็นเรื่องอนาคต แต่ความหิวมันคือสิ่งที่สัมผัสรับรู้ได้ในปัจจุบัน
“ลุงอยู่ในสวนยางตลอด อายุ 70ปีแล้ว ไม่ติดอะไรหรอก ไม่ได้สุงสิงใคร ดูข่าวมันน่ากลัวคนฉีดก็ตาย บางคนจองวัคซีนแล้วยังไม่ได้ฉีดเลย ก็แล้วแต่เวรแต่กรรมแล้วกัน ตอนนี้ขอแค่ได้ทำงาน มีข้าวกินไปวันๆพอ เราเป็นคนตัวเล็ก ตีนช้างเหยียบปากนก จะไปหวังให้เขามาช่วยอะไรเราได้”
บทสนทนาระหว่างคุณลุงกับผมที่ประจวบคีรีขันธ์ มันสะท้อนหลายอย่างจริงๆในสังคมไทยเรา เราไม่ได้แค่พูดเรื่องความรู้ แต่เป็นเรื่องของความรู้สึก รวมทั้งปัจจัยทางสังคม วัฒนธรรม เศรษฐกิจและการเมืองด้วยที่เป็นปัจจัยเงื่อนไขของการฉีดวัคซีน..
อ้างอิง
Blakey, S. M., & Abramowitz, J. S. (2017). Psychological Predictors of Health Anxiety in Response to the Zika Virus. J Clin Psychol Med Settings, 24 (3), 270-8
Holingue, C., Kalb, L. G., Riehm, K. E., Bennett, D., Kapteyn, A., & Veldhuis, C. B. (2020). Mental Distress in the United States at the Beginning of the COVID-19 Pandemic. Am J Public Health, 110 (11), 1628-34.
Padhi, B. K., & Almohaithef, M. A. (2020). Determinants of COVID-19 vaccine acceptance in Saudi Arabia: a web-based national survey. medRxiv (Preprint).
Rajamoorthy, Y., Radam, A., Taib, N. M., Rahim, K. A., Wagner, A. L., & Mudatsir, M. (2018). The relationship between perceptions and self-paid hepatitis B vaccination: a structural equation modeling approach. PLoS One, 13:e0208402.
Siegrist, M., & Zingg, A. (2014). The role of public trust during pandemics: Implications for crisis communication. Eur Psychol, 19 (1), 23-32.
SAGE Working Group on Vaccine Hesitancy. Report of the SAGE working group on vaccine hesitancy. Oct 1, 2014. https://www.who. int/immunization/sage/meetings/2014/october/1_Report_ WORKING_GROUP_vaccine_hesitancy_final.pdf
Wheaton, M. G., Abramowitz, J. S., Berman, N. C., Fabricant, L. E., & Olatunji, B. O. (2012). Psychological Predictors of Anxiety in Response to the H1N1 (Swine Flu)
Qiao, S., Friedman, D. B., Tam, C. C., Zeng, C., & Li, X. (2020). Vaccine acceptance among college students in South Carolina: Do information sources and trust in information make a difference? medRxiv, 12.02.20242982.
Sundaram, N., Purohit, V., Schaetti, C., Kudale, A., Joseph, S., & Weiss, M. G. (2015). Community awareness, use and preference for pandemic influenza vaccines in Pune, India. Hum Vaccin Immunother, 11, 2376–88.
Wheaton, M. G., Abramowitz, J. S., Berman, N. C., Fabricant, L. E., & Olatunji, B. O. (2012). Psychological Predictors of Anxiety in Response to the H1N1 (Swine Flu) Pandemic. Cognit Ther Res, 36 (3), 210-8.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

สตรีนิยมกับสิ่งแวดล้อม โดย นัฐวุฒิ สิงห์กุล

Aldo Leopold(1994) เขียนหนังสือที่รวบรวมบทความของเขาชื่อ Sand Country Almanac เขาได้อธิบายถึงปรัชญาของนักสตรีนิยมสิ่งแวดล้อมว่า ผู้หญิงมีควา...