วันศุกร์ที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2560

บทความเรื่อง After the Miracle แล้วประยุกต์กับแนวคิดเรื่องจิตวิทยาสุขภาพ (Health Psychological)

บทความเรื่อง After the Miracle  แล้วประยุกต์กับแนวคิดเรื่องจิตวิทยาสุขภาพ (Health Psychological) กับการอธิบายเกี่ยวกับปรากฏการณ์มหัศจรรย์ (Miracle phenomenon) ว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร
                 
                ในบทความเรื่อง After the Miracle ชิ้นนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับ Chitra ผู้หญิงชาวอินเดียอายุ 32 ปีที่อพยพมาอาศัยอยู่ในเมืองนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา  เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเธอพบว่ามีก้อนเนื้อบริเวณหน้าอกข้างซ้ายของเธอ และเธอก็ได้ไปหาหมอและได้รับการวินิจฉัยว่าก้อนเนื้อนั้นเป็นเนื้อร้าย รวมทั้งตรวจพบว่ามะเร็งได้เริ่มลุกลามไปยังปอดของเธอแล้ว  หลังจากนั้นเธอได้รับการรักษาโดยการตัดเต้านมและเนื้อเยื่อที่อยู่รอบๆออกไป แพทย์ได้ใช้วิธีการรักษาจิตราด้วยการฉายรังสีและรักษาด้วยวิธี Chemotherapy ซึ่งเป็นขั้นตอนมาตรฐานสำหรับการรักษามะเร็งเต้านมทั่วไปเพื่อรักษาชีวิตของผู้ป่วย  โดยความมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้นในชีวิจของเธอสัมพันธ์กับการรักษาโรคด้วยสองวิธีการที่แตกต่างแต่มีเป้าหมายเดียวกันคือการรักษาเยียวยาให้หายจากความเจ็บป่วย ที่นำไปสู่ความมหัศจรรย์ในชีวิตของเธอที่เซลล์มะเร็งหายไปจากร่างกายของเธอ
                ผู้ตอบคำถามขอใช้วิธีคิดเรื่อง Biomedical Model และ Bio-Psycho-social Model นำมาใช้อธิบายปรากฏการณ์ความมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้นกับผู้ป่วยโรคมะเร็งเต้านมในบทความชิ้นนี้
                ความเจ็บป่วยไม่ใช่เพียงแค่เรื่องของร่างกายตามคำอธิบายชีวะการแพทย์ แต่มีเรื่องที่เกี่ยวข้องกับ ชีวะ จิตและสังคมด้วย ดังเช่นในบทความ ผู้เขียนบทความซึ่งเป็นหมอที่ดูแลจิตรา ได้เฝ้าติดตามและสังเกตพฤติกรรมของเธอจนพบว่าจิตตรามีความวิตกกังวลและเครียดมาก ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่เธอจะต้องตายแต่เธอเป็นกังวลว่าสามีของเธอจะอยู่คนเดียวและต่อไปแต่งงานใหม่กับผู้หญิงอเมริกันซึ่งเป็นเรื่องที่เธอทำใจยอมรับไม่ได้ แม้ว่าดูภายนอกเธอจะดูมีสุขภาพที่แข็งแรงแต่จริงๆแล้วเธอซ่อนความเจ็บป่วยของเธอจากผู้อื่นเช่นญาติของเธอซึ่งเธอกลัวว่าพวกเขาจะมองเธอด้วยสายตาที่สงสารว่าเธอกำลังใกล้จะตาย ทั้งๆที่เธอได้รับความทุกข์ทรมานจากความเจ็บป่วยอย่างมาก  โอกาสมีชีวิตรอดของเธอเกินกว่า5 ปีมีน้อยกว่า 10 เปอร์เซ็นต์ จนกระทั่งนายแพทย์ได้เสนอแนวทางการรักษาใหม่ที่ควบคู่ไปกับการทำเคมีบำบัดสำหรับจิตรา ซึ่งก็คือวิธีการแบบอายุรเวช (Ayuraveda)  ซึ่งแม้ว่าจิตราจะเติบโตในสังคมอินเดีย แต่เธอก็มีความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้น้อยมาก มีเพียงปู่ของเธอซึ่งเป็นเจเนอเรชั่นสุดท้ายที่รู้เรื่องเหล่านี้พร้อมกับการเติบโตของการแพทย์สมัยใหม่ในอินเดีย ดังนั้นความเจ็บป่วยของจิตราจึงไม่ใช่แค่เรื่องของร่างกายแต่สัมพันธ์กับมิติทางด้านจิตใจ ความวิตกกังวล รวมถึงเรื่องสังคมที่สัมพันธ์กับบุคคลที่เธอรักและครอบครัว
                การรักษาความเจ็บป่วยไม่สามารถรักษาแค่เพียงร่างกายอย่างเดียวแต่สัมพันธ์กับเรื่องของจิตใจและสังคม ทั้งความเชื่อมั่นในการรักษา การยอมรับการรักษา รวมถึงการบรรเทาความวิตกกังวลหรือความกลัวที่บุคคลเผชิญกับความเจ็บป่วย ดังเช่นในบทความ หมอต้องการดึงจิตรามาเข้าสู่กระบวนการรักษาแบบอายุรเวช เพราะความเจ็บป่วยด้วยโรคมะเร็งของจิตราได้เกี่ยวข้องกับลักษณะทางกายภาพหรือร่างกายเท่านั้นแต่ยังเกี่ยวพันกับสิ่งอื่นๆแบบเป็นองค์รวม (Holistic) แม้ว่าจิตราจะรับรู้ว่าเธอป่วยเป็นมะเร็งและรู้สึกถึงความทุกข์ทรมานจากโรคนี้ ทั้งจากการตรวจเนื้อเยื่อที่ปอดของเธอและรู้ว่าเซลล์มะเร็งมีการแพร่กระจายมากขึ้น รวมถึงอาการปวดหน้าอกของเธอที่ทำให้เธอตั้งนั่งพักและหายใจลำบาก ที่สะท้อนให้เห็นสัญญาณของโรคที่เกี่ยวข้องกับร่างกาย ความรู้สึกเจ็บปวดอารมณ์ซึมเศร้า หดหู่ ความวิตกกังวล ที่สมองของจิตราตอบสนองต่อสิ่งเหล่านี้
                ดังนั้นวิธีการแบบองค์รวม (Holistic) จึงเป็นวิธีการรักษาที่เกี่ยวข้องสัมพันธ์ระหว่างร่างกาย (Body)กับจิตใจ (Mind) เข้าด้วยกัน โดยเปรียบเทียบให้เห็นว่าถ้าปัจจุบันจิตตราอยู่ในบอมเบย์ อินเดีย ย่าของเธออาจจะจัดเตรียมอาหารที่เฉพาะให้เธอ  การนวดน้ำมันเพื่อให้ร่างกายผ่อนคลายและทำความสะอาดร่างกายให้เธอหรือซื้อยาสมุนไพรจากร้านขายยาอายุรเวชและให้หล่อนนอนพักอยู่บนเตียงนอน ซึ่งวิธีการรักษาแบบอายุรเวชจึงเป็นสิ่งที่ปะทะกับบางสิ่งที่ลึกในธรรมชาติ และเป็นความรู้ที่เป็นรากเหง้าซึ่งไม่ใช่เทคนิควิทยาการสมัยใหม่แต่เป็นภูมิปัญญา (Wisdom) ในขณะที่แพทย์แบบสมัยใหม่ (Modern Medicine) มียุทธศาสตร์อยู่ที่การปะทะโจมตีทางด้ายกายภาพในโรคมะเร็งของผู้ป่วย แม้ว่าวิธีการทั้งสองอย่างจะเหมือนกันตรงที่ให้ความสำคัญกับร่างกาย โดยอายุรเวช เน้นที่การบำบัดฟื้นฟูตัวเองของร่างกาย ขณะที่การแพทย์สมัยใหม่จัดการกับร่างกายโดยเครื่องมือทางการแพทย์สมัยใหม่ ทั้งยา รังสี เอ๊กเรย์ ในขณะที่การทำสมาธิ การฝึกจิตเป็นเรื่องของจิตใจที่ถูกเชื่อมโยงเข้ามาในการรักษาที่หลากหลายของจิตรา
                ความมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้นกับการรักษาด้วยวิธีการทั้งสองรูปแบบร่วมกัน สะท้อนให้เห็นความสัมพันธ์ของกระบวนทางชีวะวิทยา จิตวิทยาและสังคมที่ทำให้อาการเจ็บป่วยของจิตราหายไป ดังเช่นในบทความพบว่า จิตราได้เข้ารับการรักษาที่คลินิกของหมอ เธอนอนพักรักษาตัวอยู่หลายสัปดาห์เพื่อเข้ารับการรักษาและการรักษาตัวที่บ้าน ด้วยวิธีการเปลี่ยนแปลงอาหาร การกินยาสมุนไพรตามตำราอายุรเวช  การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการออกกำลังกาย เช่น การเล่นโยคะ วิธีการดังกล่าวเหมือนการฟื้นฟูซ่อมแซมร่างกายที่เชื่อในความสามารถของการดูแล รักษา ฟื้นฟูตัวเอง เพื่อให้อวัยวะต่างๆกลับมาสู่ความสมดุล จิตตราเชื่อมั่นกับโปรแกรมการรักษาและกลับมาทุก 6 สัปดาห์ ในขณะเดียวกันเธอก็ยังคงรักษาด้วยวิธีการเคมีบำบัดด้วยกับหมอที่นิวยอร์ก ประมาณปีหนึ่งเมื่อได้ติดตามความก้าวหน้าของจิตรา จากการเอ็กซเรย์ปอดก็ยังคงแย่เหมือนเดิม หายใจลำบากและดูเหมือนเธอจะอ่อนแอลง จนกระทั่งหมอสงสัยว่าเธอจะมีอาการติดเชื้อ มีไข้สูงมากและไม่อนุญาตให้เธอออกจากโรงพยาบาล หมอตัดสินใจเอ็กซเรย์ปอดของเธออีกครั้ง จนกระทั่งพบว่าปอดของเธอไม่มีเซลล์มะเร็งแล้วและเธอสามารถฟื้นฟูตัวเองขึ้นมาได้อย่างน่าอัศจรรย์ ไม่ว่าจะเกิดจาการรักษาด้วยเคมีบำบัดหรืออายุเวชก็ตาม
แต่จิตราก็ยังมีความกังวลว่าเซลล์มะเร็งจะกลับมาอีกครั้ง เธอจึงเข้ามาคุยกับผู้เขียนบทความว่าจะทำอย่างไรดี เพราะหมอที่รักษาด้วยเคมีบำบัดก็บอกว่าเธอดีขึ้นเพราะเคมีบำบัดและควรรักษาด้วยวิธีการนี้ต่อ แม้ว่าผู้เขียนจะเชื่อมั่นในวิธีการรักษาแบบอายุรเวชก็ตามแต่ไม่มีเหตุผลที่ดีมากเพียงพอที่จะให้เธอเลิกรักษาด้วยเคมีบำบัดแล้วมารักษาด้วยอายุรเวชอย่างเดียว เพราะไม่สามารถรับประกันได้หากเธอกลับมาเป็นอีกครั้งและตายใน6 เดือนถัดไป แต่ผู้เขียนก็ขอให้เธอรักษาแบบเคมีบำบัดควบคู่กับอายุรเวชด้วย จนกระทั่งหลายเดือนจิตราก็หายจากโรคนี้ แต่เธอก็ยังคงสงสัยถึงความมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้นในชีวิตของเธอเกี่ยวกับโรคภัยไข้เจ็บที่หายไป
ในทางการแพทย์พยายามจะทำความเข้าและอธิบายด้วยหลักการของQuantum หรือภาวการณ์ก้าวกระโดด (เช่นเดียวกับภาวะใกล้ตายหรือป่วยหลักไปสู่การหายจากความเจ็บป่วย) หรือพลังงาน เป็นที่รับรู้กันในหมู่นักฟิสิกส์แม้จะยังไม่มีการใช้ในทางคลินิกแต่ก็มีการพยายามเชื่อมโยงวิธีคิดนี้กับการรักษาแบบอายุรเวช ในกรณีของจิตราคือ Quantum Healing ที่มีการเคลื่อนไหวจากภายนอก วิธีการที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงไปยังแกนกลางที่ลึกที่สุดของระบบร่างกายและจิตใจ ที่เป็นแกนกลางของการรักษา ดังเช่นการผสมกลมกลืนระหว่างอายุรเวชกับวิธีการรักษาสมัยใหม่เช่น เคมีบำบัดหรือรังสีที่สะท้อนให้เห็นการแต่งงานหรือการเชื่อมโยงระหว่างสองวัฒนธรรมที่พยายามนำไปสู่คำตอบที่เป็นหนึ่งเดียวคือการรักษาโรค ถ้าเรารู้ว่าสมองของมนุษย์ทำหน้าที่อะไรสัมพันธ์กับความคิด อารมณ์ ความรู้สึกและกระตุ้นการเคลื่อนไหวของร่างกายการรักษาความเจ็บป่วยก็ย่อมสามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้น การรักษาโดยเน้นทางร่างกายโดยการให้ยา ผ่าตัด มากกว่าการเชื่อมโยงทางด้านจิตใจร่างกายเข้าด้วยกันที่จะทำให้เกิดการรักษาที่มีประสิทธิภาพและเกิดความมหัศจรรย์ขึ้นกับชีวิตของเธอได้

ดังนั้นการทำความเข้าใจสุขภาพอย่างเป็นองค์รวมว่ามีความสัมพันธ์กับเรื่องของกาย จิตและสังคม เป็นการผสมผสานระหว่างความคิดแบบตะวันตก ที่มองความเจ็บป่วยเป็นเรื่องของเชื้อโรค พันธุกรรม ยีนส์ และร่างกายแบบการแพทย์เชิงชีวะ ที่ยังมีข้อจำกัดในการอธิบายและทำความเข้าใจเกี่ยวกับความเจ็บป่วยและสุขภาพ ที่สมบูรณ์ กับการมองความเจ็บป่วยด้วยเรื่องของจิตใจและสังคมก็เป็นสิ่งที่สำคัญ  ปาฎิหาริย์ที่เกิดขึ้นในบทความไม่ว่าจะเกี่ยวข้องกับการหายจากอาการป่วยจากโรคร้าย หรือตัวอย่างที่ผู้เขียนยกมาประกอบ เช่น กระดูกหักที่สามารถผสานกันได้ด้วยจากสภาวะที่ความรู้สึกสั่งการให้เกิดขึ้น หรือผู้ป่วยเอดส์ที่มีชีวิตอยู่ได้ยืนนาน ที่สัมพันธ์กับการรักษาโดยอาศัยพลังของศรัทธา จึงเป็นสิ่งที่สัมพันธ์กับกระบวนการทางจิตวิทยา ความมุ่งมั่นที่จะมีชีวิตรอด การตระหนักในศักยภาพแห่งตน (Self Efficacy) ที่เชื่อมั่นในการรักษาและการดูแลสุขภาพ รวมถึงความคิดและทัศนคติในเชิงบวกต่อความเจ็บป่วยของตัวเอง ซึ่งทั้งหมดล้วนสัมพันธ์กับเรื่องของจิตวิทยาและสังคมและมีความสำคัญมากขึ้นในงานวิจัยและงานศึกษาเกี่ยวกับสุขภาพและความเจ็บป่วยในปัจจุบัน

2 ความคิดเห็น:

  1. สวัสดีฉัน aM clinton nancy หลังจากที่ได้มีความสัมพันธ์กับแอนเดอร์สันมานานหลายปีแล้วเขาเลิกกับฉันฉันทำทุกอย่างเพื่อให้เขากลับมาได้ แต่ทั้งหมดก็ไร้ผลฉันต้องการให้เขากลับมามากเพราะความรักที่ฉันมีต่อเขา, ฉันขอร้องเขาด้วยทุกสิ่งทุกอย่างฉันทำสัญญา แต่เขาปฏิเสธ ฉันอธิบายปัญหาของฉันกับเพื่อนของฉันและเธอบอกว่าฉันควรจะติดต่อล้อสะกดที่สามารถช่วยฉันโยนคาถาเพื่อนำเขากลับมา แต่ฉันเป็นประเภทที่ไม่เคยเชื่อในการสะกดฉันไม่มีทางเลือกกว่าที่จะลองฉัน ส่งคาถลลวงและเขาบอกผมว่าไม่มีปัญหาใด ๆ ที่ทุกอย่างจะเรียบร้อยก่อนสามวันที่อดีตของฉันจะกลับมาหาฉันก่อนสามวันเขาได้ให้การสะกดและในวันที่สองก็แปลกใจคือประมาณ 4 โมงเย็น อดีตของฉันเรียกฉันว่าฉันประหลาดใจมากฉันตอบสายและสิ่งที่เขาพูดก็คือเขาเสียใจมากสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาต้องการให้ฉันกลับไปเขาว่าเขารักฉันมาก ฉันมีความสุขมาก ๆ และไปหาเขานั่นคือสิ่งที่เราเริ่มใช้ชีวิตร่วมกันอย่างมีความสุขอีกครั้ง ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาฉันได้สัญญาว่าใครที่ฉันรู้ว่ามีปัญหาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ฉันก็จะช่วยคนดังกล่าวโดยการแนะนำให้เขาเป็นครูผู้ชำเถียงในการสะกดเฉพาะที่แท้จริงและทรงพลังที่ช่วยฉันด้วยปัญหาของตัวเอง อีเมล์: drogunduspellcaster@gmail.com คุณสามารถส่งอีเมลถึงเขาได้หากคุณต้องการความช่วยเหลือในความสัมพันธ์หรือกรณีอื่น ๆ

    1) รักคาถา
    2) Lost Love Spells
    3) การหย่าร้าง
    4) เวทมนตร์สมรส
    5) มัดสะกด
    6) คาถา Breakup
    7) ขับไล่คนที่ผ่านมา
    8. ) คุณต้องการได้รับการเลื่อนตำแหน่งในการสะกดของสำนักงาน / สลากกินแบ่งของคุณ
    9) ต้องการที่จะตอบสนองความรักของคุณ
    ติดต่อคนที่ยิ่งใหญ่นี้หากคุณมีปัญหาใด ๆ สำหรับโซลูชันที่ยั่งยืน
    ผ่าน DR ODOGBO34@GMAIL.COM

    ตอบลบ
  2. ฉันต้องการบอกให้โลกรู้อย่างรวดเร็วว่ามีลูกล้อคาถาออนไลน์ที่ทรงพลังและเป็นของแท้มากชื่อของเขาคือดร. edede เขาช่วยให้ฉันรวมตัวกับความสัมพันธ์ของฉันกับ hubby ที่ทิ้งฉันเมื่อไม่นานมานี้เมื่อฉันติดต่อดร. edede เขาได้สะกดความรักให้ฉันและ hubby ของฉันก็โทรหาฉันหลังจากผ่านไป 2 วันและเริ่มขอร้องให้ฉันกลับมาในชีวิต ... เรากลับมาแล้วในตอนนี้ด้วยความรักและการเอาใจใส่มากมาย วันนี้ฉันดีใจที่จะให้คุณทุกคนรู้ว่าลูกล้อสะกดนี้มีอำนาจในการคืนค่าความสัมพันธ์ที่หักกลับมาเพราะตอนนี้ฉันมีความสุขกับ hubby ของฉัน ... หากมีใครออกมีที่อ่านบทความนี้และต้องการความช่วยเหลือใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ ปัญหาด้านล่างนี้ยังสามารถติดต่อดร. edede เพื่อขอความช่วยเหลือในปัญหาดังต่อไปนี้: (1) การรักษาโรคทุกประเภท (2) คดีในศาล (3) คาถาการตั้งครรภ์ (4) การป้องกันทางจิตวิญญาณ (5) การรักษาโรคมะเร็ง (6) สำหรับโรคเริม (7) รักษาโรคเอดส์และอื่น ๆ อีกมากมาย ... คุณสามารถติดต่อเขาทางอีเมลของเขา: ededetemple@gmail.com หรือโทร / WhatsApp ด้วยหมายเลขโทรศัพท์มือถือของเขาที่ +38972751056

    ตอบลบ

สตรีนิยมกับสิ่งแวดล้อม โดย นัฐวุฒิ สิงห์กุล

Aldo Leopold(1994) เขียนหนังสือที่รวบรวมบทความของเขาชื่อ Sand Country Almanac เขาได้อธิบายถึงปรัชญาของนักสตรีนิยมสิ่งแวดล้อมว่า ผู้หญิงมีควา...