ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ดิโอฬารโปรเจ็ค เพลงร็อคในตำนาน

วงดนตรีแนวร็อคเมทัลของไทยอีกวงหนึ่ง ที่ประกอบด้วยสมาชิกนักดนตรีที่มีฝีีมือ อย่างโอฬาร พรหมใจ  ปฐมพงษ์ สมบัติพิบูลย์ พิทักษ์ ศรีสังข์ ซึ่งเพลงของพวกเขาหลายเพลงเป็นที่คุ้นหู ในอัลบั้มต่างๆ เช่นกุมภาพันธ์ 2528  ชุดหูเหล็ก ชุดลิขิตแห่งดวงดาว ชุดดิโอฬารโปรเจ็ค The Rain และมาโนช พุฒตาล จนกระทั่งมาถึงชุดดิโอฬารคลาสสิค
อัลบั้มที่ผมชอบคงจะเป็นอัลบั้มแรก กุมภาพันธ์ 2528 มีหลายเพลงใด เช่น อย่างหยุดยั้ง แทนความห่วงใย ไฟปรารถนา  หนทางของคุณ ซึ่งฟังทีไรรู้สึกถึงพลังและความหมายของเพลงเหล่านี้ โดยเฉพาะเสียงร้องของพี่โป่ง ปฐมพงษ์ ถือว่าสุดยอด ชุดต่อมาก็มีเพลงเพราะๆ เช่น เพราะรัก เหนือคำบรรยาย ลองฟังกันดูครับ

เพลงแทนความห่วงใย

"สุดไกลตาฟ้ากว้างใหญ่เพียงใด ส่งดวงใจถึงกัน  อยู่แห่งหนใดของเพียงบทเพลงนี้แทนถ้อยคำจากหัวใจ เพลงเอยเจ้าจงเป็นตัวแทนความห่วงใยนำไป ให้คนที่ไกลกัน ฝากความรักและความสุขบอกคิดถึงกัน..."








เพลงเหนือคำบรรยาย
"ยินเสียงเพลงกล่อม หยาดนมที่เคยลิ้ม ใครเล่าใครเลี้ยงดูเรามาจนโตใหญ่ หากแม้นสามารถเรียงร้อยดาวและเดือนด้วยสายรุ้งได้ดังใจเพื่อลูกทุกสิ่งมอบให้ ใครเล่าจะห่วงห่วงเราเท่าเทียมฟ้า ใครเล่าใครรักเรามากกว่าผืนนำ้ทะเลกว้างใหญ่ พระคุณพ่อคุณแม่ใหญ่หลวง ๆ ข้าเชิดชูเหนือคำบรรยายลูกกราบน้อมบูชา





เพลงอย่าหยุดยั้ง

"อย่าไปแคร์ถึงเรื่องราวในครังก่อน อย่ามัวนอนเศร้าโศกศัลย์เมื่อช้ำใจ ก็ลองคิดใคร่ครวญมันคุ้มกันหรือเปล่า ตัดอกตัดใจบ้างเถิดหนาคนดี แต่เธอบางคนยังยึดมั่นภายในใจ ซ่อนเก็บความเจ็บไว้มีใครบ้างไหมเข้าใจเธอ..."

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Biomedical Model และ Bio-Psycho-social Mode

(1)        อะไรคือ Biomedical Model และ Bio-Psycho-social Model ? แนวคิดแบบจำลองทางชีวะการแพทย์ ( Biomeaical Model ) เริ่มต้นในช่วงกลางศตวรรษที่ 19 ที่ความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์และการแพทย์มีการพัฒนาอย่างเติบโตรวดเร็วและกว้างขวาง การค้นพบเครื่องมือทางการแพทย์ที่ทันสมัยอย่างกล้องจุลทรรศน์ ทำให้มนุษย์ได้เห็นสิ่งที่ไม่เคยเห็น แม้แต่สิ่งที่เล็กที่สุดในร่างกายของมนุษย์ รวมถึงเชื้อโรคหรือสิ่งแปลกปลอมต่างๆที่เข้าสู่ร่างกายของมนุษย์ ซึ่งเป็นสิ่งที่แพทย์ใช้วินิจฉัยสาเหตุของโรคและความเจ็บป่วย แบบจำลองนี้ ดังนั้นแบบจำลองนี้เสนอว่า โรคหรือความผิดปกติทางกาย( Physiology )ซึ่งเกิดจากการบาดเจ็บ ความผิดปกติของพันธุกรรม ( Abnomal Genetics ) ความไม่สมดุลทางชีวะเคมี ( Biochemistry ) เรื่องของพยาธิวิทยา ( Pathology )   แบคทีเรีย หรือไวรัส หรือสิ่งอื่นๆที่คล้ายคลึงกันที่นำไปสู่การติดเชื้อและความเจ็บป่วยของมนุษย์ ซึ่งแนวคิดดังกล่าวนี้ไม่ได้อธิบายบทบาทของปัจจัยทางสังคม( The role of Social factors )หรือความคิดของปัจเจกบุคคล  ( Individual Subjectivity ) โดยแบบจำลองทางชีวะการแพทย์ เน้นอยู่ที่ปัจจัยทางชีววิทยาเพ

การนอน มานุษยวิทยาและนักมานุษยวิทยา โดย นัฐวุฒิ สิงห์กุล

 เข้านี้หลังจากตื่นนอน อยากเขียนการนอนในมิติทางมานุษยวิทยากับนักมานุษยวิทยา...    ผมเริ่มต้นกับการลองตั้งคำถามเพื่อหาความรู้เกี่ยวกับการนอนว่า อะไรคือการนอน ทำไมต้องนอน นอนที่ไหน นอนเมื่อไหร่ นอนอย่างไร นอนกับใคร นอนเพื่ออะไรและอื่นๆ..เพื่อจะได้รู้ความสัมพันธ์ของการนอนในมิติต่างๆ การนอนของสิ่งมีชีวิตชนิดอื่นๆแตกต่างจากมนุษย์หรือไม่    หากเปรียบเทียบการนอนของ มนุษย์กับสัตว์สปีชี่ส์อื่นมีการนอนต่างกันหรือเหมือนดันอย่างไร ตัวอย่างเช่น ยีราฟจะนอนครั้งละ 10 นาที รวมระยะเวลานอนทั้งหมด 4.6 ชั่วโมงต่อวัน สัตว์จำพวกค้างคาว และเม่นมีการนอนมากกว่าสัตว์อื่นๆเพราะใช้เวลานอน 17-20ชั่วโมงต่อวัน    สำหรับมนุษย์ การนอนคือส่วนสำคัญอย่างหนึ่งในประสบการณ์ของมนุษย์ การสำรวจการนอนข้ามวัฒนธรรมน่าจะทำให้เราเข้าใจความหมายและปฎิบัติการของการนอนที่มีความซับซ้อนมากขึ้น..     การนอนอาจจะเป็นเรื่องของทางเลือก แต่เป็นทางเลือกที่อาจถูกควบคุมบังคับ โดยโครงสร้างทางสังคมวัฒนธรรม นอนเมื่อไหร่ นอนเท่าไหร่ นอนที่ไหน นอนอย่างไร และนอนกับใคร..     ในสังคมตะวันตก อุดมคติเกี่ยวกับการนอนเป็นสิ่งที่ถูกทำให้เป็นเรื่องส่วนตัว(priv

เฟอร์ดิน็องต์ เดอร์ โซซูร์

เฟอร์ดิน็องต์ เดอร์ โซซูร์ (1857-1923) นักภาษาศาสตร์ชาวสวิสเซอร์แลนด์ เป็นผู้มีบทบาทอย่างสำคัญในประวัติศาสตร์ของพวกโครงสร้างนิยม   ที่มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาสัญวิทยาในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 และช่วงต้นศตวรรษที่ 20 โดยเฉพาะการเคลื่อนไหวของ เลวี่ สเตร๊าท์ (Levi-Strauss) ชาร์ค ลากอง (Jacques Lacan) และ โรล็องต์ บาร์ธ (Roland Barthes) รวมถึง มิเชล ฟูโก้ (Micheal Foucault) ที่ได้กลับมาวางรางฐานและปฎิเสธเกี่ยวกับโครงสร้างนิยม ภายใต้ทิศทางใหม่ของหลังโครงสร้างนิยม (Post-Structuralism) ในคำบรรยายเริ่มแรกของเขาที่มหาวิทยาลัยเจนีวา ในช่วงปี 1906-1911 และการตีพิมพ์โครงร่างงานของเขาที่เขียนไว้ และคำบรรยายของเขาที่ลูกศิษย์ได้รวบรวมไว้ ภายหลังการมรณกรรมของเขาเมื่อปี 1915-1916   ภายใต้ชื่อ Course de linguistique   Generale ซึ่งถูกแปลเป็นภาษาอังกฤษและเผยแพร่ในยุโรป ภายใต้ชื่อ Course in general linguistic ในปี 1960 เขาได้นำเสนอความคิดว่า การศึกษาภาษาศาสตร์ในปัจจุบัน สามารถศึกษาได้อย่างเป็นวิทยาศาสตร์ ซึ่งน่าจะได้รับอิทธิพลจากอีมิล เดอร์ไคม์ (Emile Derkhiem ในหนัง