5. แนวคิดทฤษฎีมานุษยวิทยาการแพทย์เชิงวิพากษ์ (Critical Medical Anthropology Approach) นัฐวุฒิ สิงห์กุล
แนวคิดมานุษยวิทยาเชิงวิพากษ์ พัฒนามาจากการวิพากษ์จุดอ่อนของมานุษยวิทยาการตีความ
ซึ่งเน้นอยู่ที่การมองระบบวัฒนธรรมสุขภาพในลักษณะดุลยภาพในองค์ประกอบที่ก่อร่างเป็นวัฒนธรรมสุขภาพ
โดยละเลยความสัมพันธ์ในเชิงของอำนาจที่ดำรงอยู่ในความจริงทางการแพทย์ที่ถูกประกอบสร้างขึ้นมารวมทั้งขาดการพิจาณาการดำรงอยู่ของการครอบงำอุดมการณ์ทางการแพทย์ในสังคม
เพราะอำนาจและความสัมพันธ์เชิงอำนาจในระบบวัฒนธรรมสัมพันธ์กับโครงสร้างที่กำหนดให้กลุ่มหรือสถาบันในสังคมมีอำนาจแตกต่างกัน
(โกมาตร,2549:27) ดังเช่นที่ Bear (1997) ยืนยันถึงการขาดความใส่ใจในการพิจารณาโครงสร้างเชิงสังคมของประสบการณ์และการตีความหมายที่เป็นปัญหาในการอธิบายของ
Good การมองที่ยึดมั่นความเป็นองค์ประธานของความรู้ (Subject
of Knowledge) มากกว่าที่จะมองว่าความเจ็บป่วยเป็นสิ่งที่ถูกประกอบสร้างให้มีสถานะเป็นวัตถุแห่งความรู้
(Object of Knowledge)และขุมขังเอาไว้ในประสบการณ์ของมนุษย์
ที่ทำให้การตีความการเจ็บป่วยมีลักษณะของประสบการณ์การตีความภายในตัวขององค์ประธานหรือตัวผู้ป่วยเอง(Inter-Subjectivity
Interpreted Experience) ดังนั้นมุมมองเชิงวิพากษ์จึงมีความน่าสนใจในการเชื่อมโยงจุดบกพร่องของการศึกษาแนวการตีความและเน้นถึงบทบาทหรือพลังอำนาจทางสังคม
และความสัมพันธ์เชิงโครงสร้าง เศรษฐกิจ
การเมืองที่กำหนดความเป็นไปได้ต่างๆที่สร้างความหมาย และกำหนดเงื่อนไขให้กับประสบการณ์ร่วมของสมาชิกในสังคมในเรื่องสุขภาพ
อนามัยและความเจ็บป่วย (พิมพวัลย์,2555:17)
วิธีการแบบวิพากษ์
ในมานุษยวิทยาการแพทย์ถูกแนะนำโดย Sohier
Morsy ในบทความของเขาเรื่อง “The Missing link in medical anthropology:the political Economy and
health”ในช่วงปี 1979 ที่เป็นความพยายามเริ่มแรกในการนำการวิเคราะห์เกี่ยวกับเศรษฐศาสตร์การเมืองของสุขภาพไปยังมิติทางมานุษยวิทยา
มานุษยวิทยาการแพทย์แนววิพากษ์
เน้นย้ำเกี่ยวกับการเชื่อมโยงประเด็นทางด้านสุขภาพที่สัมพันธ์กับกฏเกณฑ์ทางเศรษฐกิจและอิทธิพลทางสังคม(The
economic Order and Social Force)
รวมทั้งการเน้นย้ำอยู่บนปัจเจกบุคคล ที่เชื่อมโยงการกระทำของปัจเจกบุคคล (Individual
Action) กับสังคมหรือโครงสร้าง (Social /Structural) เสมือนการถูกกำหนดทางวัฒนธรรมในปฎิสัมพันธ์ระหว่าง ผู้กระทำทางสังคม (Socail
Actor)และความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจการเมือง (Morsy,1979:22) ดังนั้น
วัฒนธรรมหรือค่านิยมที่สังคมสร้างขึ้นมีลักษณะในเชิงของอำนาจที่ซ่อนตัวอยู่ในวิถีชีวิตของผู้คนโดยมองว่าสิ่งเหล่านั้นเป็นเรื่องปกติธรรมดา
โดยไม่ถูกตั้งคำถามเช่นเดียวกับสุขภาพและความเจ็บป่วยที่ถูกทำให้เป็นปัญหาทางการแพทย์
(Medicalization) มากกว่าจะทำความเข้าใจเรื่องความไม่เป็นธรรม
การกดขี่หรือความไม่เท่าเทียมกันทางเศรษฐกิจ การเมือง (โกมาตร,2545:30) มุมมองในเชิงวิพากษ์จึงเป็นมุมมองที่ต้องตั้งคำถามและสงสัยในอำนาจเหล่านี้
เพื่อให้เห็นประเด็นทางวัฒนธรรม การควบคุมเรื่องอำนาจ การต่อต้านขัดขืน
และท้าทายประเด็นทางสุขภาพ ความเจ็บป่วยและการรักษาในชีวิตประจำวันของมนุษย์ (Morsy,1979:23)
Merrill Singer และ Hans Baer
ได้ให้แนวคิดสำคัญเบื้องต้นในการนำมิติทางทฤษฎีมานุษยวิทยากรแพทย์เชิงวิพากษ์ไปใช้
ตรวจสอบความหมายดั้งเดิมในสังคมเกี่ยวกับโรคและความเจ็บป่วยทางสุขภาพ
การวิเคราะห์โนโยบายด้านสุขภาพ การจัดสรรทรัพยากรทางสุขภาพ
และบทบาทของรัฐในเรื่องสุขภาพและการดูแลรักษาสุขภาพ สำรวจความสัมพันธ์ทางสังคมระหว่างปฎิสัมพันธ์ของรูปแบบการแพทย์ในระดับชาติและระดับนานาชาติ
วิเคราะห์ความสัมพันธ์ของระบบการแพทย์กับบริบททางเศรษฐกิจและการเมือง การค้นหาประสบการณ์ของผู้ทุกข์ทรมานภายในกรอบความคิดเกี่ยวกับการครอบงำและการต่อต้านขัดขืน
(Singer and Baer,1995:61) โดยเขาเสนอการวิเคราะห์ในแบบมานุษยวิทยาการแพทย์เชิงวิพากษ์
ที่เกี่ยวข้องกับระดับที่แตกต่างที่เริ่มจากระดับความสำนึกรู้ของคนไข้ (Consciousness
of the patient) ระดับการจัดการของชุมชน (Community
organization) ระดับขอบเขตทางเศรษฐกิจและการเมือง (regional
political and economy) ระดับการรวมตัวของอำนาจในระดับสากล (International
coporate power) ขยายความได้ว่าเขาเสนอให้พิจารณาผลกระทบของความสัมพันธ์เชิงอำนาจต่อบริการสุขภาพนั้นๆ
ที่ดำรงอยู่ในระดับที่ต่างกันในสังคมทุนนิยมทั้งประเทศกำลังพัฒนา
ประเทศที่พัฒนาแล้วหรือประเทศสังคมนิยมก็ตาม
ซึ่งแต่ละระดับมีความแตกต่างกันตั้งแต่ระดับปัจเจกบุคคล (Individual
Level) เป็นเรื่องของผู้ป่วยและประสบการณ์ของผู้ป่วย ระดับจุลภาค (Micro-social
level) เป็นความสัมพันธ์ระหว่างแพทย์กับผู้ป่วย ระดับกลาง (Intermidiate-Social
Level) คือบริบทของโรงพยาบาลและสถาบันทางการศึกษา และระดับมหภาค (Macro-Social
Level) เป็นเรื่องของชนชั้น ระบบจักรวรรดินิยมและทุนนิยมโลก
โดยที่ระดับต่างๆไม่ได้แยกขาดออกจากกันเด็ดขาดแต่มีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์กันในลักษณะของอำนาจ
ทั้งตัวของระบบทุนนิยมโลก โรงพยาบาล
แพทย์และผู้ป่วยต่างสะท้อนให้เห็นการครอบงำของอำนาจและการต่อต้านขัดขืนต่อรองจากอำนาจระดับต่างๆดังกล่าว
นอกจากนี้แนวคิดมานุษยวิทยาการแพทย์เชิงวิพากษ์ยังได้นำเอาแนวความคิดของ
Michel Foucault มาใช้วิเคราะห์เกี่ยวกับอำนาจและการต่อต้านอำนาจ
เพราะอำนาจผลิตความรู้ ความจริง ดังนั้นหน้าที่ของเราคือการค้นหา และรื้อสร้าง
ความไม่เท่าเทียม รวมถึงอำนาจหรือบรรทัดฐานบางอย่างที่มีเพียงมิติเดียวเพื่อให้เห็นความแตกต่างหลากหลายและความสัมพันธ์ในเชิงอำนาจ
โดยเฉพาะความหลากหลายของวัฒนธรรมทางการแพทย์และสุขภาพที่มี การปะทะ ประสาน
การต่อรอง และประนีประนอมระหว่างกันของระบบการแพทย์แบบต่างๆในสังคม
[1]
แนวความคิดเรื่องแกนสัญลักษณ์
(Core Symbol)ของ
Byron Good คล้ายกับคำอธิบายของวิกเตอร์
เทอเนอร์ (Victor Turner)
ที่พูดถึงสัญลักษณ์หลัก (Dominant Symbol) ที่จัดการความหมายของพิธีกรรมในสังคมก่อนอุตสาหกรรม
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น