ชมรมอนุรักษ์ภูผาป่าไม้
อ.สุวรรณคูหา จังหวัดหนองบัวลำภู
ในพื้นที่ภูผายา ผาจันไดและผาโขง ตำบลดงมะไฟ อำเภอสุวรรณคูหา จังหวัดหนองบัวลำภู
ชมรมอนุรักษ์ภูผาป่าไม้
ตำบลดงมะไฟ อำเภอสุวรรณคูหา จังหวัดหนองบัวลำภู เกิดขึ้นเนื่องจากพื้นที่ภูผายา
ผาจันได ผาโขง ที่ตั้งอยู่บริเวณบ้านผาช่องหมู่ที่7 บ้านโชคชัย8
หมู่ที่12 ตำบลดงมะไฟ อำเภอสุวรรณคูหา
จังหวัดหนองบัวลำภู มีลักษณะภูมิประเทศอุดมสมบูรณ์ เป็นภูเขาหินปูน
และมีความสูงจากระดับน้ำทะเลบานกลาง 260-330 เมตร บริเวณใกล้เคียงมีลำห้วยปูน ห้วยสาวโฮและห้วยคะนาน ที่ชาวบ้านใช้ในการอุปโภคบริโภคในการทำการเกษตรและเลี้ยงสัตว์
และเป็นพื้นที่ที่มีป่าไม้เบญจพรรณที่อุดมสมบูรณ์ จนกระทั่งปีพ.ศ.2536 มีกระแสข่าวเกิดขึ้นว่า ภูผายา ภูผาโขง ในพื้นที่ตำบลดงมะไฟ
จะถูกขอสัมปทานและประทานบัตรเพื่อสำรวจและทำเหมืองแร่ จึงได้เริ่มทำการคัดค้านโครงการดังกล่าว
จนทำให้นายบุญรอด ด้วงโคตะและนายสนั่น สุขสุวรรณ แกนนำคัดค้าน ถูกยิงเสียชีวิต
จนกระทั่งปีพ.ศ.2537 บริษัทศิลาโชคชัยภัทรจำกัด
ได้ยื่นขอประทานบัตรเหมืองแร่ โดมิติกไลม์สโตน ในเนื้อที่ 200 ไร่ ซึ่งอยู่ในพื้นที่ป่าสงวน ป่าเก่าลอยและป่านากลาง ในตำบลดงมะไฟ
และได้เปลี่ยนการขอสัมปทานเป็นเหมืองหินอุตสาหกรรมชนิดหินปูนเพื่ออุตสาหกรรมการก่อสร้าง
พื้นที่บริเวณตำบลดงมะไฟจึงถูกประกาศโดยกระทรวงอุตสาหกรรม
เรื่องกำหนดพื้นที่แหล่งอุตสาหกรรมฉบับที่12 (3 กันยายน 2541) และกำหนดแหล่งเพิ่มเติมที่ผาจันได
ตำบลดงมะไฟ อำเภอสุวรณคูหา เพิ่มเติม
แม้ว่าในช่วงปีพ.ศ.
2542
ชาวบ้านจะได้มีหนังสือคัดค้านการทำสัมปทาน
แต่ทางบริษัทยังคงดำเนินการรังวัดโดยไม่สนใจฟังเสียงคัดค้านของชาวบ้าน
แต่ในเวลาเดียวกันบริษัทก็ขอใช้ประโยชน์จากพื้นที่ป่าสงวนซึ่งเป็นที่ตั้งประทานบัตรและขอใช้พื้นที่เพิ่มขึ้นอีก
50 ไร่ ในเขตป่าสงวนแห่งชาติรอบพื้นที่ขอประทานบัตรเดิม
ทำให้การต่อสู้คัดค้านของชาวบ้านทวีความรุนแรงมากขึ้น
และชาวบ้านได้รวบรวมตัวกันกว่า 1,700 คน จัดตั้งกลุ่ม
ชมรมอนุรักษ์ภูผาป่าไม้ อำเภอสุวรรณคูหา โดยมีนายสมพงษ์ ชินแสง เป็นประธาน
เพื่ออนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและยืนบันการคัดค้านการขอประทานบัตรของกลุ่มทุนและยื่นรายชื่อคัดค้านการทำโรงโม่หิน
ในช่วงปีพ.ศ.2542 นายทองม้วน คำแจ่ม
กำนันตำบลดงมะไฟและแกนนำสำคัญได้ถูกยิงเสียชีวิต
ทำให้ชาวบ้านแห่ศพประท้วงที่ศาลากลางจังหวัด การคัดค้านของชาวบ้านจึงมีอย่างต่อเนื่อง
ปีพ.ศ.2544 นายเอกชัย ศรีพุทธาและกลุ่มชาวบ้าน
ยืนถวายฎีกาต่อในหลวง
ซึ่งทางสำนักเลขาธิการส่งหนังสือถึงคณะรัฐมนตรีและผู้ว่าราชการจังหวัด
แต่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆเกิดขึ้น
และทางราชการก็ได้อนุมัติประทานบัตรให้กับทางบริษัทเรียบร้อย
กระบวนการต่อสู้ของชาวบ้าน
มีการยื่นหนังสือเรียกร้องกับองค์กรต่างๆ เช่นคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
ในปีพ.ศ.2547
มีคำสั่งศาลจังหวัดนครราชสีมา
ให้ระงับการทำเหมืองจนกว่าศาลจะมีคำสั่งเป็นออย่างอื่น
ซึ่งศาลมีความเห็นว่ายังไม่ได้ข้อสรุปที่แน่ชัดเกี่ยวกับการวิเคราะห์ผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมจากการทำเหมืองแร่ในพื้นที่ประทานบัตรโดยเฉพาะแหล่งน้ำซับบริเวณภูผาจันได
ที่อยู่ในสภาวะความเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดความเสียหายอันเนื่องมาจากแรงสั่นสะเทือน
และศาลปกครองชั้นต้นมีคำสั่งให้ยุติการดำเนินการของเหมืองหรือกิจกรรมใดๆในบริเวณที่มีการสัมปทานจนกว่าคดีจะถึงที่สุดขณะนี้อยู่ในขั้นศาลปกครองสูงสุด
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น