โซซูร์
ได้พัฒนาแนวคิดเรื่องความสัมพันธ์สองด้าน (Dyadic) ในชุดของ
รูปสัญญะ(signifiant/signifier) กับความหมายสัญญะ(signifie/signified)
ระบบกฎเกณฑ์(langue)กับการเปล่งเสียง(speech/parole)
นามธรรม(abstract)กับรูปธรรม(concrete)
สังคม(Social)กับปัจเจกบุคคล(individual) ความคิด(concept)กับจินตภาพแห่งเสียง(sound-image/acoustic-image) ที่เป็นเสมือนกับสองด้านของความสัมพันธ์ซี่งสามารถทำการแยกศึกษาได้
ความแตกต่างของ
Parole
หรือด้านของปัจเจกบุคคล ที่เกี่ยวกับการใช้ถ้อยคำ
ที่ไม่ได้ดำรงอยู่อย่างเป็นรูปธรรมในตัวของมันเอง
นอกจากเป็นการแสดงแต่ละชิ้นส่วนของถ้อยคำที่สามารถจะจัดหาได้ มนุษย์จึงเป็นเช่นเดียวกับสิ่งมีชีวิตที่ถูกจัดวาง
วางแผน และลงทุนในภาษาซึ่งเป็นระบบที่ซับซ้อน
หรือโครงสร้างที่สอดคล้องระหว่างสัญญะและความคิดที่แตกต่าง
ภายใต้ความสัมพันธ์อันหลากหลาย
เครื่องมือทางเสียง( The Vocal Apparatus) ได้กลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนทางภาษา
โดยกระบวนการทำให้เป็นความจริงในรูปธรรม
บนโลกที่แท้จริงของการติดต่อสื่อสารในสังคม(Hawkes:1977) ซึ่งนำไปสู่คำถามที่สำคัญว่า
อะไรคือธรรมชาติของมนุษย์ ที่ไม่ใช่ถ้อยคำที่เกี่ยวข้องกับปากหรือการพูด
แต่เป็นความสามารถเกี่ยวกับการสร้างภาษา ซึ่งเป็นระบบของความแตกต่างทางสัญญะที่ตอบสนองกับความแตกต่างทางความคิดของมนุษย์
โดยที่Langue เป็นผลผลิตทางสังคม ในความสามารถทางถ้อยคำ คำพูด และการรวบรวมสะสม
ธรรมเนียม แบบแผน กฎเกณฑ์สำคัญ
ซึ่งเป็นที่ยอมรับโดยกลุ่มทางสังคมหรือชุมชนทางภาษากับการยินยอม
อนุญาตของแต่ละปัจเจกบุคคล ที่เกี่ยวกับการใช้
ที่เป็นความสามารถที่ติดตัวมาของมนุษย์
Parole
เป็นส่วนที่เล็กที่สุด ที่อยู่ในหน่วยทางภาษา(Langue) ที่เป็นมวลสารที่ใหญ่ที่สนับสนุนส่งเสริมมัน และเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับมัน
ทั้งโดยผู้พูด ผู้ฟัง แต่ไม่เคยปรากฎตัวของมันเอง ภาษาเป็นวัตถุเชิงนามธรรม ที่เราไม่สามารถจับได้
และไม่เคยปรากฎทั้งหมดของมัน
รูปแบบความสัมพันธ์ที่เป็นคู่ระหว่างรูปสัญญะและความหมายสัญญะ
มันค่อนข้างจะเป็นความสัมพันธ์ที่เกี่ยวข้องกับความเป็นธรรมชาติน้อยมาก
เพราะมันเป็นส่วนหนึ่งที่มาจากการกำหนดให้เป็น(Arbitrary) ซึ่งเป็นการเชื่อมโยงระหว่างจิตภาพของเสียง
(Sound-image) และความคิด(Concept) เช่นเดียวกับรูปสัญญะ(Signifier)
และความหมายสัญญะ(Signified) เช่นคำศัพท์ว่า TREE
(ต้นไม้) ที่เป็นตัวอย่างของโซซูร์
ซึ่งเป็นรูปสัญญะ และเป็นความหมายสัญญะในเรื่องของความคิดเกี่ยวกับต้นไม้
ลักษณะความจริงทางกายภาพของต้นไม้ที่เจริญเติบโตในพื้นดิน คำศัพท์คำว่า “TREEหรือต้นไม้” ไม่ได้เป็นธรรมชาติหรือคุณสมบัติที่เท่าเทียมกันกับต้นไม้จริงๆ
ซึ่งโซซูร์ก็ไม่ได้สนใจกับความจริงที่อยู่พ้นขอบเขตหรือนอกเหนือเรื่องของภาษา
ที่อยู่ภายใต้การรับรองเกี่ยวกับมันเท่านั้น
ดังนั้นการถูกกำหนดให้เป็นของสัญญะ
(The
Arbitrary of sign)เป็นเสมือนสิ่งที่ป้องกันรักษาภาษาจากความพยายามที่จะเปลี่ยนแปลงมัน (Saussure:1966,P.73) ดังที่โซซูร์กล่าวว่า
“คำศัพท์ การกำหนดให้เป็น(Arbitrary) เป็นสิ่งที่กล่าวสำหรับการวิจารณ์แนะนำด้วย
ชุดคำที่ไม่เกี่ยวข้องสัมพันธ์
ซึ่งทางเลือกของรูปสัญญะเป็นสิ่งที่ออกมาอย่างค่อนข้างสมบูรณ์ กับผู้พูด (เราจะเห็นว่า ปัจเจกบุคคล ไม่มีอำนาจที่จะเปลี่ยนแปลงสัญญะในหนทางอื่นๆมากมาย
ที่มันได้กลายเป็นการถูกจัดตั้งในชุมชนทางภาษา) ฉันหมายถึง
มันเป็นสิ่งที่ไม่ถูกเคลื่อนย้าย/เคลื่อนไหว
เป็นการกำหนดให้เป็น
ที่มันไม่ได้เชื่อมต่ออย่างเป็นธรรมชาติที่แท้จริงกับความหมายสัญญะ”(Saussure:1966,P.68-69)
การถูกกำหนดให้เป็น
จึงไม่ใช่เหตุผลหรือธรรมชาติ ที่เชื่อมโยงระหว่าง2ส่วนของสัญญะ
ที่ถูกทำให้เป็นหนึ่งเดียวภายใต้รูปแบบกฎเกณฑ์ที่ยอมรับร่วมกันในชุมชนทางภาษา
ที่สัมพันธ์เกี่ยวข้องภายในตัวของปัจเจกบุคคล
รูปสัญญะที่แตกต่างหลากหลายของคำศัพท์
เกี่ยวกับต้นไม้ Arbre ,Baum Arbor และTree ไม่มีอะไรเลยที่จะเหมาะสมกว่าหรือมีเหตุผลกว่าสิ่งอื่นๆ
แต่ทั้งหมดอยู่ภายใต้การรักษาและการันตี จากโครงสร้าง
ธรรมชาติของระบบที่เกิดขึ้นในชุดคำที่แน่นอน คำศัพท์ของต้นไม้
จึงมีความหมายถึงลักษณะทางกายภาพเกี่ยวกับใบ สิ่งที่เจริญเติบโตในดิน
เพราะว่าโครงสร้างของภาษาได้สร้างความหมายของมันและทำให้มันถูกต้อง
ซึ่งสะท้อนให้เห็นอิทธิพลทางภาษาในการสร้างความเข้าใจของมนุษย์
เกี่ยวกับโลกและสิ่งต่างๆรอบตัว สำหรับโซซูร์แล้ว สัญญะทางภาษาศาสตร์
เป็นสิ่งที่กำหนด นิยามความสัมพันธ์ของรูปสัญญะและความหมายสัญญะ
วัตถุเป็นสิ่งที่ถูกกีดกันจากความสัมพันธ์นี้
เพราะมันเป็นสิ่งที่ระบุหรือกำหนดการอ้างอิง(Referent) ซึ่งภาษาไม่เกี่ยวข้องกับการอ้างอิง
มันเป็นความสนใจในความสัมพันธ์ของรูปสัญญะและความหมายสัญญะเท่านั้น(Kristeva:1989,P.14)
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น