การเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมการบริโภคในสังคมสมัยใหม่ ที่เคลื่อนตัวจากการบริโภคสิ่งต่างๆเพื่อประโยชน์ใช้สอย เช่น กินอาหารเพื่ออิ่มท้อง สวนเสื้อผ้าเพื่อให้ความอบอุ่น เป็นต้น แต่ในสังคมปัจจุบันการบริโภคมีความหมายมากกว่าการบริโภคเพื่อคุณค่าเชิงใช้สอย (Use Value) แต่เป็นการบริโภคเพื่อสร้างและสื่อความหมายบางสิ่งบางอย่าง เช่น สถานะของเรา ตัวตนของเรา รสนิยม ความชอบของเรา ภาพพจน์ของเราที่เรียกว่าการบริโภคเชิงสัญญะ(Sign value)
นักคิดชาวฝรั่งเศสอย่างJeans Baudrillard ตั้งคำถามเกี่ยวกับการวิเคราะห์และหาคำตอบแบบเดิมที่อยู่ภายใต้อิทธพลของความรู้ ความคิด ภาษาแบบมาร์กซิสต์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการผลิตของสังคม การมองปัญหาเรื่องของการผลิตในสังคม ที่เริ่มวิตกและหวาดกลัวเกี่ยวกับกระบวนการผลิตที่จะไม่เพียงพอกับกาารบริโภคในช่วงศตวรรษที่18-19 จนกระทั่งศตวรรษที่20-21 ที่ความกลัวของมาร์กซ์ไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นจริงอีกต่อไป เพราะพลังของระบบทุนนิยมและการผลิตก้าวหน้าอย่างสูงสุด จนนำไปสู่การผลิตที่เหลือกินเหลือใช้ เกินความต้องการบริโภค ปัญหาจึงเคลื่อนจากการผลิตมาสู่การบริโภค ที่มองว่าแล้วจะบริโภคสินค้าที่ผลิตขึ้นมาอย่างมากมายอย่างไร การกระตุ้นให้คนต้องการบริโภคอย่างมากมายและรวดเร็ว รวมถึงการพยายามสร้างมูลค่าให้กับสินค้าที่บริโภค ผ่านการสร้างความแตกต่าง ระดับของสินค้า คุณภาพของสินค้า ของแท้ ของเทียม ของพรีเมี่ยม ของที่มีจำนวนจำกัด ของหายาก ของสะสมเป็นต้น
สิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นจึงเป็นเรื่องของการพยายามสร้างตัวสินค้า(วัตถุ)เชื่อมโยงกับสัญญะของสินค้า ซึ่งเป็นเรื่องของความหมาย คุณค่า สัญญะของสินค้าทำหน้าที่กำกับ กำหนด นำทางของเขตหรือพื้นที่ทางวัฒนธรรม (ชนชั้น รสนิยม คุณลักษณะและคุณภาพของผู้ใช้ ) ของการบริโภคสินค้า เช่น การถอดกางเกงยีนส์ขาบานมิ่้งไป ไม่ช่เพราะว่ามันไม่สามารถสวมใส่หรือขาดคุณค่าในเชิงใช้สอย แต่เนื่องจากว่ามูลค่าเชิงสัญลักษณ์ได้สิ้นสุดหรือหมดไป เพราะความล้าสมัย ตกยุค ดังนั้นเราจึงพบเห็นปรากฏการณ์การเปลี่ยนแปลงของแวดวงแฟชั้นที่รวดเร็วมากจนกระทั่งเราตามไม่ทัน ดังนั้นการบริโภคความหมายหรือการบริโภคเชิงสัญญะจึงเป็นเครื่องมืออย่างหนึ่งในระบบทุนนิยมที่พยายามแก้ปัญหาสินค้าที่ถูกผลิตออกมาอย่างมากมายเหลือคณานับ
แนวคิดในการวิเคราะห์แบบแผนหรือรุปแบบการบริโภคของมนุษย์ในยุคปัจจุบัน ที่เป็นเรื่องของการบริโภคเชิงสัญญะ ที่สะท้อนความสัมพันธ์ระหว่างคนกับสินค้าในรูปแบบของการใช้สอยและความพึงพอใจ โดยสินค้าเหล่านี้จะถูกเปลี่ยนใหป็นสัญญะก่อนที่จะถูกบริโภค ภาวใต้การใส่รหัสต่างๆทางวัฒนธรรม เช่น ความเชื่อ ลำดับชั้น เกรดของสินค้า สินค้าส่งออกนำเข้า สินค้าเหล่านี้เชื่อมโยงกับศักดิ์ศรี เกียรติยศและสถานภาพ เช่นเดียวกับการจัดโครงสร้างทางสังคมของมนุษย์
การบริโภคในยุคปัจจุบันจึงไม่ใช่การบริโภคความเหมือนแต่เป็นการบริโภคความแตกต่าง (Logic of difference) ที่การบริโภคสินคา ทำใหู้้บริโภคมีเอกลักษณ์แตกต่างจากคนอื่นๆ ความหมายและหลากหลายของสัญญะนำไปสู่การบริโภคที่ไม่สิ้นสุดของมนุษย์
นักคิดชาวฝรั่งเศสอย่างJeans Baudrillard ตั้งคำถามเกี่ยวกับการวิเคราะห์และหาคำตอบแบบเดิมที่อยู่ภายใต้อิทธพลของความรู้ ความคิด ภาษาแบบมาร์กซิสต์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการผลิตของสังคม การมองปัญหาเรื่องของการผลิตในสังคม ที่เริ่มวิตกและหวาดกลัวเกี่ยวกับกระบวนการผลิตที่จะไม่เพียงพอกับกาารบริโภคในช่วงศตวรรษที่18-19 จนกระทั่งศตวรรษที่20-21 ที่ความกลัวของมาร์กซ์ไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นจริงอีกต่อไป เพราะพลังของระบบทุนนิยมและการผลิตก้าวหน้าอย่างสูงสุด จนนำไปสู่การผลิตที่เหลือกินเหลือใช้ เกินความต้องการบริโภค ปัญหาจึงเคลื่อนจากการผลิตมาสู่การบริโภค ที่มองว่าแล้วจะบริโภคสินค้าที่ผลิตขึ้นมาอย่างมากมายอย่างไร การกระตุ้นให้คนต้องการบริโภคอย่างมากมายและรวดเร็ว รวมถึงการพยายามสร้างมูลค่าให้กับสินค้าที่บริโภค ผ่านการสร้างความแตกต่าง ระดับของสินค้า คุณภาพของสินค้า ของแท้ ของเทียม ของพรีเมี่ยม ของที่มีจำนวนจำกัด ของหายาก ของสะสมเป็นต้น
สิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นจึงเป็นเรื่องของการพยายามสร้างตัวสินค้า(วัตถุ)เชื่อมโยงกับสัญญะของสินค้า ซึ่งเป็นเรื่องของความหมาย คุณค่า สัญญะของสินค้าทำหน้าที่กำกับ กำหนด นำทางของเขตหรือพื้นที่ทางวัฒนธรรม (ชนชั้น รสนิยม คุณลักษณะและคุณภาพของผู้ใช้ ) ของการบริโภคสินค้า เช่น การถอดกางเกงยีนส์ขาบานมิ่้งไป ไม่ช่เพราะว่ามันไม่สามารถสวมใส่หรือขาดคุณค่าในเชิงใช้สอย แต่เนื่องจากว่ามูลค่าเชิงสัญลักษณ์ได้สิ้นสุดหรือหมดไป เพราะความล้าสมัย ตกยุค ดังนั้นเราจึงพบเห็นปรากฏการณ์การเปลี่ยนแปลงของแวดวงแฟชั้นที่รวดเร็วมากจนกระทั่งเราตามไม่ทัน ดังนั้นการบริโภคความหมายหรือการบริโภคเชิงสัญญะจึงเป็นเครื่องมืออย่างหนึ่งในระบบทุนนิยมที่พยายามแก้ปัญหาสินค้าที่ถูกผลิตออกมาอย่างมากมายเหลือคณานับ
แนวคิดในการวิเคราะห์แบบแผนหรือรุปแบบการบริโภคของมนุษย์ในยุคปัจจุบัน ที่เป็นเรื่องของการบริโภคเชิงสัญญะ ที่สะท้อนความสัมพันธ์ระหว่างคนกับสินค้าในรูปแบบของการใช้สอยและความพึงพอใจ โดยสินค้าเหล่านี้จะถูกเปลี่ยนใหป็นสัญญะก่อนที่จะถูกบริโภค ภาวใต้การใส่รหัสต่างๆทางวัฒนธรรม เช่น ความเชื่อ ลำดับชั้น เกรดของสินค้า สินค้าส่งออกนำเข้า สินค้าเหล่านี้เชื่อมโยงกับศักดิ์ศรี เกียรติยศและสถานภาพ เช่นเดียวกับการจัดโครงสร้างทางสังคมของมนุษย์
การบริโภคในยุคปัจจุบันจึงไม่ใช่การบริโภคความเหมือนแต่เป็นการบริโภคความแตกต่าง (Logic of difference) ที่การบริโภคสินคา ทำใหู้้บริโภคมีเอกลักษณ์แตกต่างจากคนอื่นๆ ความหมายและหลากหลายของสัญญะนำไปสู่การบริโภคที่ไม่สิ้นสุดของมนุษย์
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น