โพสต์โมเดิร์น(Postmodern approach) กับการศึกษาประเด็นว่าด้วยผู้หญิงและการขายบริการทางเพศ (Sex workers) โดยนัฐวุฒิ สิงห์กุล
โพสต์โมเดิร์น(Postmodern approach) กับการศึกษาประเด็นว่าด้วยผู้หญิงและการขายบริการทางเพศ
(Sex workers)
วิธีคิดแบบโพสต์โมเดิร์นในการมองอัตลักษณ์
ตัวตนของผู้หญิงลาวอพยพที่เข้ามาขายบริการ ต้องทำความเข้าใจว่าสิ่งเหล่านั้นถูกประกอบสร้างขึ้นอย่างหลากหลาย
ที่สัมพันธ์กับประสบการณ์ของชีวิต การนำเสนอตัวตนหรือการเปิดเผยความจริงบางส่วนรวมทั้งความจริงที่ไม่ปรากฏหรือไม่เปิดเผย
ที่อยู่ภายใต้การครอบงำของความรู้ อำนาจและวาทกรรมชุดต่างๆที่ไหลเวียนอยู่ในสังคม วาทกรรมเหล่านี้จะถูกประกอบสร้าง
ถูกให้ความหมายและถูกตีความอย่างแตกต่างหลากหลายในบริบททางประวัติศาสตร์
การเมืองและสังคมและสะท้อนผ่านทางภาษา ดังนั้นแนวความคิดแบบโพสต์โมเดิร์นจึงต้องถอดรื้อ
(Deconstruction) วิพากษ์ (Critical) ตัวบท (Text)ภาษา(Language/Dialogue)และวาทกรรม (Discourse)ที่ผลิตความรู้และอำนาจ
ซึ่งกดทับ ปิดปังซ่อนเร้นตัวตนของผู้หญิงเหล่านี้
กระแสแนวคิดสตรีนิยมแบบโมเดิร์น
ให้คำอธิบายว่าทำไมผู้หญิงต้องถูกกดทับ ขูดรีด
มองความสัมพันธ์ของเพศสภาพที่ค่อนข้างมั่นคงซึ่งมองแบบวัตถุวิสัย (Objectivity) สตรีนิยมแบบโพสต์โมเดิร์น
มองความเป็นอัตวิสัย (Subjectivity) ที่ความสัมพันธ์ของเพศสภาพเกี่ยวข้องกับความรู้
อำนาจและการปฏิบัติที่มีความเลื่อนไหล ซับซ้อน ขัดแย้งหรือย้อนแย้งกัน
ตัวตนของ Sex Worker จึงมีสถานะของการเป็นทั้งการเป็นผู้กระทำและถูกกระทำไปพร้อมกัน
ดังเช่นการมอง Sex worker เช่นเดียวกับ ผู้กระทำการ (Agency) ซึ่งเป็นผลลัพธ์และทางเลือกภายใต้การครอบงำของระบบเศรษฐกิจ
การแสวงหาความมั่นคงให้กับตัวเองและครอบครัวผ่านการขายเรือนร่างในระบบตลาดและอุตสาหกรรมการขายบริการที่ทำให้ทุกอย่างเป็นสินค้า
มีมูลค่ามีราคาสามารถซื้อขายแลกเปลี่ยนได้
และมีความหมายที่เชื่อมโยงสัมพันธ์กันภายใต้ปฏิสัมพันธ์ของตัวตนของSex
Worker กับระบบตลาด ระบบทุนนิยมและผู้ซื้อบริการที่มีความต้องการ ที่สร้างความหมายต่อการเป็น
Sex worker คือคนที่ให้บริการทางเพศ (Sexual Services) กับผู้บริโภค (Consumer) อีกทั้ง Sex
worker รวมถึงกลุ่มคนที่ถูกว่าจ้างในเรื่องทางเพศทั้งนักแสดงหนังโป๊
นักระบำเปลื้องผ้า ผู้ให้บริการเซ็กส์โฟนและโสเภณี (Dank,1999)
โดยในประเด้็นที่ผู้เขียนสนใจ คือการใช้คำว่า
Sex Worker ให้เฉพาะเจาะจงลงไปโดยอ้างถึงผู้หญิงผู้ซึ่งมีส่วนร่วมในการติดต่อเกี่ยวข้องกับเรื่องของเพศสัมพันธ์ในรูปแบบของการซื้อขาย(ให้ค่าจ้างตอบแทน)
รวมทั้งSex worker คือ
ผู้หญิงผู้ซึ่งเลือก(Chosses) ที่จะขายบริการทางเพศ (Sell
Sexual Services)กับผู้ชายอย่างฉับพลันทันทีและแลกเปลี่ยนกับเงินโดยตรง
หรือยาเสพติด อาหารหรือสิ่งของในการดำรงชีพอื่นๆ
การสร้างทางเลือกที่วางอยู่บนพื้นฐานทางเศรษฐกิจและสังคมที่อยู่ภายใต้อิทธิพลของอำนาจ
Agency ซึ่งหมายถึง
การใช้ทางเลือกภายใต้ตำแหน่งที่อยู่ต่ำกว่า (Subordinate position) ผู้หญิงมีทางเลือกในเรื่องของอาชีพ Sex workerจึงมีลักษณะของ
Agency เพราะว่าพวกเธอเลือกหรือสมัครใจที่จะทำอาชีพนี้ ที่ทำให้ผู้หญิงเลือกอาชีพ
sex work บนพื้นฐานของเหตุผลที่หลากหลายของสภาวการณ์
ความพึงพอใจ เงื่อนไขข้อจำกัดและสภาพแวดล้อมของแต่ละปัจเจกบุคคล
ผู้หญิงเหล่านี้มีประสบการณ์ที่หลากหลายทั้งประสบการณ์ชีวิตความเป็นแม่
ลูกสาว ภรรยา การเข้าสู่การเป็น Sex worker รวมถึงประสบการณ์ทางด้านสุขภาพและความเจ็บป่วยที่สัมพันธ์กับการขายบริการทางเพศ
แม้กระทั่งความเจ็บป่วยดังกล่าวยังสัมพันธ์กับเรื่องของระบบสุขภาพ นโยบายสุขภาพที่ทำให้พวกเขากลายเป็นคนป่วย
หรือร่างกายที่เจ็บป่วย เชื้อโรคที่ต้องควบคุมป้องกัน
วาทกรรมแบบโพสต์โมเดิร์น (Postmodern discourse)
แนวความคิดแบบโพสต์โมเดิร์น
คือความพยายามถอดรื้อ ตั้งคำถาม สงสัย เกี่ยวกับความเชื่อ ที่สัมพันธ์กับความจริง
ความรู้ อำนาจ ตัวตน (The Self) และภาษา โดยเฉพาะสิ่งที่เป็น
Representation ที่อ้างว่าสะท้อนความจริง โดยเฉพาะเสียงจากผู้มีอำนาจที่ผูกขาดความรู้ความจริง
เช่น เสียงของแพทย์ที่ยืนยันอยู่บนหลักการทางวิทยาศาสตร์
เสียงของราชการหรือรัฐที่ผูกโยงกับเรื่องของกฎหมาย การเมือง ความมั่นคง เสียงของนักเศรษฐศาสตร์ที่อ้างถึงระบบตลาดและระบบทุนนิยมที่ครอบงำ
และเสียงที่กดทับอื่นๆ
โดยการเปิดพื้นที่ให้เสียงเล็กเสียงน้อยได้เล็ดลอดและเปิดเผยตัวตนออกมา
เช่นเสียงของผู้หญิง เสียงของคนชายขอบ เสียงของคนดำ เสียงของผู้ถูกกดขี่ เป็นต้น
เสียงของผู้ขายบริการ (Voice of the sex worker)
การสร้างวาทกรรมทางเลือกที่สะท้อนหรือสร้างความหมายที่นำไปสู่การใช้ประโยชน์เกี่ยวกับเรื่องของภาษา
ทั้งภาษาพูด ภาษาเขียน ซึ่งแนวคิดแบบโมเดิร์น
ที่มีวิธีคิดแบบคู่ตรงกันข้ามที่แยกอย่างชัดเจนระหว่างความสูงความต่ำ ความดำความขาว
ความดีและความเลว
จนไม่มีพื้นที่ตรงกลางหรือพื้นที่ก้ำกึ่งระหว่างคู่ตรงกันข้ามดังกล่าว
หรือลักษณะที่เป็นทั้งสองขั้วรวมกัน ในขณะที่วิธีคิดแบบโพสต์โมเดิร์นเป็นการมองพ้นไปจากคู่ตรงกันข้ามดังกล่าว
เช่น คู่ตรงกันข้ามระหว่างตัวเอง (Self ) กับคนอื่น (Other) ที่จัดวางผู้หญิงให้กลายเป็นอื่นกับผู้ชายและสร้างอัตลักษณ์ของผู้หญิงที่ค่อนข้างมั่นคงแข็งตัวไม่ยืดหยุ่น
เช่นความเป็นผู้หญิง, Heterosexual หรือ
ถูกกดทับ รวมถึงมุมมองว่าผู้หญิงอ่อนแอและพาหะนำโรค ดังนั้นวิธีคิดแบบโพสต์โมเดิร์นต้องการถอดรื้อ
ความหมายที่สร้างความเป็นอื่นเหล่านี้
เปิดเผยความซับซ้อนที่คนมองไม่เห็นหรือเสียงที่ไม่เคยได้ยิน ดังนั้นวาทกรรมทางเลือก
การสร้างความหมายที่หลากหลายผ่านภาษา ตัวอย่างเช่น งานของ Laurie Bell (1987) ที่มองกระบวนการกลายเป็นชายขอบของ
Sex worker และ Prostitute ในการสร้างชุดของคู่ตรงกันข้ามหรือความเป็นอื่น
ในความเป็นผู้หญิงเลวซึ่งเป็นคู่ตรงกันข้ามของวาทกรรมผู้หญิงดีและผู้หญิงเลว
(การแบ่งแยกความคิดเรื่อง Self กับ Other)
การประกอบสร้างความหมายของความเป็นผู้หญิงดีและผู้หญิงเลวที่เกี่ยวข้องกับบริบท
เช่น ความเป็นผู้หญิง แม่และภรรยาของเธอที่บ้าน ที่ใช้ชีวิตกับลูกและสามี
ในความสัมพันธ์แบบผัวเดียวเมียเดียว
กับการกลายเป็นผู้หญิงเลวหรือการเป็นอื่นซึ่งเกิดจากความสัมพันธ์แบบขายบริการทางเพศกับผู้ชายแปลกหน้ามากมาย
การถูกครอบงำด้วยวาทกรรมทางศีลธรรมและข้อปฏิบัติของเพศวิถี ภายใต้การหันเหเบี่ยงเบนทางเพศวิถี
การเคลื่อนย้ายความหมายของผู้หญิงไปยัง
sex work กับ การค้ามนุษย์ผู้หญิงไปยัง prostitution
ของผู้หญิงประเทศกำลังพัฒนาที่สะท้อนให้เห็นสิ่งที่เรียกว่า Agency
และ Victimatization ซึ่งทำให้เห็นความซับซ้อนที่มากกว่าการมองภายใต้ความคิดแบบโมเดิร์นที่มองเรื่องดังกล่าวว่าเป็นผลมาจากระบบทุนนิยมที่ผู้ชายเป็นผู้ครอบงำ
โดยมองความเป็น subjectivity
ที่สามารถปรับเปลี่ยนแปลงอัตลักษณ์ของทั้ง sex worker และ prostitutes
ที่เลื่อนไหลมากกว่าที่จะคงที่ตายตัว
การวิเคราะห์ผู้หญิงที่เคลื่อนย้ายหรืออพยพจากลาวไปยังประเทศไทยเพื่อมาเป็น
sex work โดยมองจากจุดยืนแบบPostmodernและตั้งคำถามเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างโครงสร้างอำนาจที่สนับสนุนค้ำจุน
ความรู้ที่ประกอบสร้างความจริงของสิ่งเหล่านี้และความหมายที่ผลิตออกมา
งานเขียนเกี่ยวกับประสบการณ์ของSex worker ที่เน้นย้ำอยู่บนพื้นฐานและอัตลักษณ์ความเป็น
sex worker มากกว่าที่จะมองว่าพวกเธอเป็นผู้หญิง แม่ ลูกสาว
พี่สาว น้องสาว พลเมืองและแรงงานอพยพที่ถูกกฎหมายและผิดกฎหมาย แนวคิดแบบโพสต์โมเดิร์น
เปิดพื้นที่ให้กับอัตลักษณ์ที่เลื่อนไหลหลากหลายของผู้หญิงกลุ่มนี้รวมถึงเพศวิถีที่หลากหลายด้วย
รวมทั้งการสร้างและสะสมทุนผ่านร่างกายในระบบเศรษฐกิจแบบทุนนิยมที่ทำให้เข้าใจการประกอบสร้างความเป็นหญิงขายบริการที่หลากหลาย
งานเขียนที่เกี่ยวข้องกับการสรุปเหมารวมและการมองประเด็นเรื่องโสเภณีกับการค้ามนุษย์
ได้ถอดหรือเปลื้องความเป็นผู้กระทำการ(Agency)ของผู้หญิงเหล่านี้ออกไป ดังนั้นเราต้องกลับมาฟังเสียงของผู้หญิงเหล่านี้ที่หลากหลาย
(Multi voice มากกว่า Single Voice) ผ่านการสะท้อนประสบการณ์ของพวกเธอเอง
ตัวอย่างเช่น
เสียงของผู้หญิงและSex worker ในประเทศที่พัฒนาแล้ว
ประเทศกำลังพัฒนา เสียงของผู้หญิงผิวดำ ผิวขาว เสียงของผู้หญิงกลุ่มชาติพันธุ์
เสียงของผู้หญิงแรงงานอพยพลาว กัมพูชา พม่า
เสียงของผู้หญิงแรงงานอพยพที่ผิดกฎหมายและถูกกฎหมาย
ผู้หญิงที่สมัครใจขายและถูกบังคับให้ขาย ซึ่งเป็นเสียงของความพึงพอใจและความเจ็บปวด
(Pleasure and pain) ดังเช่นเสียงของsex workers อาจจะสะท้อนความระทมจากการถูกกดทับภายใต้ระบบเศรษฐกิจแบบทุนนิยม
โครงสร้างทางสังคม วัฒนธรรม การเมือง เสียงของ sex workers อาจสะท้อนความต้องการ
ความปรารถนา
ความพึงพอใจที่บ่อยครั้งมักจะไม่ปรากฏในทฤษฎีหรือชุดของวาทกรรมที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาผู้หญิงเหล่านี้
รวมทั้งเสียงของ sex worker เปิดเผยประสบการณ์ อารมณ์
ความรู้สึก ตัวตน ร่างกายและความจริงของพวกเขา
งานศึกษาเกี่ยวกับผู้หญิงขายบริการส่วนใหญ่จะเน้นเปรียบเทียบSex workerในประเทศที่พัฒนาแล้วกับประเทศกำลังพัฒนาหรือประเทศโลกที่สาม
แต่ในความเป็นจริงระหว่างประเทศโลกที่สามหรือประเทศกำลังพัฒนาด้วยกันก็มีความแตกต่าง
เช่น Sex worker ลาว พม่า กัมพูชา กับ
ไทยที่มีสถานะที่ไม่เท่าเทียมกันก็เป็นประเด็นที่น่าสนใจ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น