ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

บทความ

บ้าน วิถีชีวิต และวัฒนธรรม โดย นัฐวุฒิ สิงห์กุล

     แรงบันดาลใจ จากการอ่านเรื่องโลกของการนอน ที่บรรยายชีวิตจองขนเผ่า ที่บ้านเป็นที่หลับนอนตอนกลางคืน ตอนกลางวันก็จะนอนข้างนอกบ้าน ตามสุมทุมพุ่มไม้ ต้นไม้บ้าง  ยางเผ่านอนอยู่ข้างกองไฟ ทีเต็มไปด้วยเขม่าไฟ ผงดินและกองขี้เถ้า เพื่อจะเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ เพื่อให้ร่างกาย  สัมผัส ดิน น้ำ ลมไฟ  เพื่อสร้างพลังให้หับชีวิต ผมว่านี่คือเสน่ห์ของงานทางมานุษยวิทยาแบบพวกเรา ในการตีความ  การให้ความสำคัญกับบริบททางสังคมวัฒนธรรม ในความหมายของสิ่งที่เรียกว่าบ้าน        เมื่อผมลองสำรวจมโนทัศน์ว่าด้วยบ้านในสังคมต่างๆทั่วโลก รวมถึงเห็นการสร้างบ้านของชาวกะเหรี่ยงในสนามที่อุทัยธานี ทำให้ผมนึกถึงหนังสือที่เกี่ยวกับชาติพันธุ์และการสร้างบ้านในทางมานุษยวิทยา ที่ชื่อ Shelter, Sign & Symbol เขียน โดย Paul Oliver หนังสือเล่มนี้ศึกษาเกี่ยวกับบ้านและที่อยู่อาศัยของชนเผ่าพื้นเมืองต่าง ๆ โดยเน้นความเชื่อมโยงระหว่างรูปแบบการสร้างบ้านกับวัฒนธรรม ความเชื่อ และสัญลักษณ์ที่สะท้อนถึงอัตลักษณ์ของกลุ่มชาติพันธุ์    หนังสือ  Shelter, Sign & Symbol โ...
โพสต์ล่าสุด

มานุษยวิทยาเมือง โดย นัฐวุฒิ สิงห์กุล

 “ถ้านายรักฉัน ..นายไม่ต้องทำอะไร …นายทำงาน" (อ.ศิลป์ พีระศรี)    ประเด็นเรื่องของมานุษยวิทยาเมือง (วิชาการเปลี่บนแปลงทางสังคมและวัฒนธรรม ที่ตัวเองหันมาสนใจอยากทำความเข้าใจเรื่องนี้มากขึ้น ว่าเรานักมานุษยวิทยาจะศึกษาเมืองอย่างไรและเราจะทำงานในแนวข้ามศาสตร์ ร่วมศาสตร์อย่างไรในการแก้ปัญหาเมืองหรือออกแบบเมือง ภายใต้จุดแข็งของเรา    ทศวรรษ 1960s - 1970s  โดยมานุษยวิทยาเมืองนั้นได้รับอิทธิพลอย่างมากจากการศึกษาทางสังคมวิทยา โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถาบันสังคมวิทยาเมืองแห่งชิคาโก (Chicago School of Urban Sociology) ที่ทำให้เกิดความแตกต่างพื้นฐานระหว่างวิชาการทางสังคมวิทยากับมานุษยวิทยาคือ การมองว่าสังคมวิทยานั้นศึกษาสังคมอารยะ (Civilization คือ สังคมเมือง) ส่วนมานุษยวิทยาศึกษากลุ่มคนไร้อารยะ หรือกลุ่มคนพื้นเมือง Primitive หรือกลุ่มคนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ชนบท (Rural) สังคมชาวไร่นา สิ่งหนึ่งที่เห็นพัฒนาการของการศึกษามานุษยวิทยาเมืองก็คือ ความคิดของการแบ่งแนวทางการศึกษาระหว่างมานุษยวิทยาและสังคมวิทยา การศึกษาเกี่ยวกับ “อารยธรรมตะวันตก” และโลกอุตสาหกรรม หรือโลกสมัยใหม่ถูกสงว...

พรรคกับขบวนการเคลื่อนไหว : ความเข้มแข็ง และความอ่อนแอ ในการเปลี่ยนแปลงสังคมไทย โดย นัฐวุฒิ สิงห์กุล

  ฝนตกพรำ ๆ แบบรถติดมาก ๆ นั่งคิดถึงความเป็นไปของสังคม แบะในฐานะที่ตัวเองก็เคยเป็นทำงานเชิงเคลื่อนไหวเมื่อก่อน….     ผมเห็นด้วยกับความคิดในแง่ที่ชี้ให้เห็นว่าการดึงคนขบวนเข้าสภาอาจทำให้ขบวนอ่อนแอ และก็เห็นด้วยกับความคิดที่ว่าไม่ควรโทษพรรคเพียงฝ่ายเดียว เพราะสังคมไทยและขบวนภาคประชาชนเองก็มีส่วนทำให้หันขวาหรือยึดโยงกับอนุรักษ์นิยม      มีงานวิชาการหลายชิ้นชี้ว่า พรรคการเมืองกับขบวนการทางสังคมมักมีความสัมพันธ์แบบ กระดานหกหรือผกผัน (seesaw relationship) คือเมื่อพรรคการเมืองเข้มแข็ง ขบวนการทางสังคมจะมีพื้นที่น้อยลง …   ในขณะเดียวกันปัญหาที่เกิดในหลายประเทศ เมื่อนักเคลื่อนไหวเข้าไปรับตำแหน่งรัฐ  ก็มีความเสี่ยงจะกลายเป็นชนชั้นนำใหม่ (new elite) และทำให้เกิดความไม่พอใจจากลุ่มฐานเดิมของตัวเอง     แต่ก็ไม่ใช่ทุกประเทศที่พรรคเข้มแข็งแล้วขบวนจะอ่อนแอเสมอ ในยุโรปเหนือหลายประเทศ เช่น สวีเดน นอร์เวย์ เดนมาร์ก พรรคการเมืองสังคมประชาธิปไตยและสหภาพแรงงานทำงานควบคู่กันมายาวนาน มีความสัมพันธ์เชิงสถาบัน (institutional link) ที่ช่วยกันรักษาฐานเสียงและนโยบาย...

การแปลงร่างสู่ Art toy และ Figure model ผ่านAI ภาพสะท้อนการแสดง อัตลักษณ์ ตัวตนในทางมานุษยวิทยา โดย นัฐวุฒิ สิงห์กุล

ChatGPT สร้างโมเดล Art Toy ส่วน Gemini ก็สร้างโมเดลฟิกเกอร์ 3D ในการแข่งขันกันในโลกของ AI. ปรากฏการณ์ดังกล่าวกลายเป็นกระแสดังในโลกโซเชี่ยลที่หลายคนต่างมีโมเดล 3 D ของตัวเอง ในทางมานุษยวิทยา ปรากฏการณ์เหล่านี้ นักมานุษยวิทยาอย่างผมมองว่ามันคือ การสร้างอัตลักษณ์ใหม่ในโลกดิจิทัล คือการทดลองและเล่นกับตัวตน ที่สะท้อนการเปลี่ยนรูปแบบการสื่อสารและความสัมพันธ์ในสังคม ซึ่งทำให้เกิดวัฒนธรรมใหม่ที่ผสมผสานความจริงกับโลกเสมือนจริงเข้าด้วยกัน เพราะการทำฟิกเกอร์ 3D ของตัวเองใน Gemini ตอบโจทย์หลายมิติที่เกี่ยวข้องกับอัตลักษณ์ ความสนุก และเทรนด์ทางสังคมในยุคดิจิทัล เหตุผลที่คนชอบทำฟิกเกอร์ 3D ของตัวเอง ผมมองว่าน่าจะเกิดจาก 1. ความต้องการสะท้อนตัวตน (Identity Expression) การสร้างฟิกเกอร์ 3D ช่วยให้คนออกแบบตัวเองในแบบที่อยากให้คนอื่นเห็น เหมือนเป็นการอวตารที่สื่อถึงสไตล์ บุคลิก ความชอบ โดยไม่ต้องเปิดเผยตัวจริงมากเกินไป ซึ่งตรงกับแนวคิด self-branding ในโลกออนไลน์ ซึ่งเราสามารถควบคุมได้ว่าจะนำเสนอตัวเราแบบไหน 2. ความสนุกและการเล่น (Playfulness & Creativity) ทำให้รู้สึกเหมือนกำลังเล่นเกม ปรับทรงผม เสื้อ...

มานุษยวิทยาว่าด้วยการสูญหาย (Abthropology of Disappearance) โดย รัฐวุฒิสิงห์กุล

มานุษยวิทยาว่าด้วยการสูญหาย (An Anthropology of Disappearance) การศึกษาประเด็นนี้มีงานของนักมานุษยวิทยาที่น่าสนใจหลายท่าน โดยเฉพาะนักมานุษยวิทยาที่อยู่ในบริบทของประเทศที่ถูกกดขี่ และมีประสบการณ์ที่ถูกดขี่ และสัมผัสกับการสูญหายของผู้คนในวัฒนธรรมของตัวเอง อาทิเช่น Laura Huttunen เป็นศาสตราจารย์ด้านมานุษยวิทยาสังคมที่มหาวิทยาลัย Tampere ประเทศฟินแลนด์ ในปี 2556-2557 เธอดำเนินโครงการที่มุ่งเน้นไปที่คำถามเกี่ยวกับบุคคลสูญหายและหายตัวไปในบอสเนีย-เฮอร์เซโกวีนา ในปี 2561-2565 เธอเป็นผู้นำโครงการวิจัยที่มุ่งเน้นไปที่การหายตัวไปในบริบทการย้ายถิ่น หนังสือ An Anthropology of Disappearance โดย Laura Huttunen สำรวจปรากฏการณ์ของการหายตัวไปในบริบททางสังคมและวัฒนธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้ง การบังคับหายตัว และความรุนแรงทางการเมือง หนังสือเล่มนี้นำเสนอกรณีศึกษาจากสถานการณ์ต่าง ๆ เช่น สงคราม การกดขี่ทางการเมือง และการอพยพย้ายถิ่นฐาน โดยวิเคราะห์ว่าการหายตัวไปส่งผลกระทบต่อครอบครัว ชุมชน และสังคมอย่างไร สิ่งที่น่าสนใจคือ Huttunen นำเสนอแนวคิดว่าการหายตัวไ...

มานุษยวิทยาว่าด้วยอาหาร โดย นัฐวุฒิ สิงห์กุล

แนวคิด Anthropology of Food คือการศึกษาอาหารในบริบททางวัฒนธรรม สังคม เศรษฐกิจ และการเมือง โดยเน้นความเข้าใจว่าอาหารไม่ได้เป็นเพียงสิ่งที่รับประทานเพื่อการยังชีพเท่านั้น แต่ยังเป็นส่วนสำคัญที่สะท้อนถึงวิถีชีวิต ความเชื่อ ประวัติศาสตร์ และความสัมพันธ์ของผู้คนในสังคม โดยสาระสำคัญของ Anthropology of Food คือ 1. วัฒนธรรมอาหาร (Food Culture) การศึกษาว่าอาหารมีบทบาทอย่างไรในการกำหนดและสะท้อนอัตลักษณ์ของกลุ่มคน รวมถึงวิธีที่อาหารถูกใช้เพื่อสร้างความหมายและการแสดงออกทางวัฒนธรรม 2. การแลกเปลี่ยนทางสังคม (Social Exchange) อาหารมักเป็นส่วนหนึ่งของการแลกเปลี่ยนทางสังคม เช่น การแบ่งปันอาหารในครอบครัวหรือชุมชน ซึ่งช่วยสร้างและรักษาความสัมพันธ์ระหว่างผู้คน 3. อำนาจและการเมือง (Power and Politics) การศึกษาอาหารสามารถเปิดเผยโครงสร้างอำนาจและความไม่เท่าเทียมในสังคม เช่น การควบคุมทรัพยากรอาหาร การเข้าถึงอาหารที่ไม่เท่าเทียมกัน และการเมืองของการผลิตและการบริโภคอาหาร 4. เศรษฐกิจและการบริโภค (Economy and Consumption) วิเคราะห์วิธีที่ระบบเศรษฐกิจมีผลต่อการผลิตและการบริโภคอาหาร และผลกระทบของระบบ...

ความเชื่อเรื่องเจดีย์ และเจ้าวัด กระบวนการต่อรองท่ามกลางการเปลี่ยนแปลง โดย นัฐวุฒิ สิงห์กุล

งานเขียนนี้ตั้งใจสำรวจความหมายของ เจดีย์และลัทธิเจ้าวัดในโลกจินตนาการของชาวกะเหรี่ยง ซึ่งสะท้อนจักรวาลวิทยา ความหวังต่อพระศรีอริยะเมตไตรย์ และความเชื่อเรื่อง mìn laùng หรือผู้มีบุญผู้ปลดปล่อย เจดีย์ถูกสร้างจากวัสดุท้องถิ่น เช่น ไม้ ดิน ทราย ไผ่ และตั้งอยู่บนพื้นที่สูงหรือศูนย์กลางหมู่บ้าน ทำหน้าที่เป็นสัญลักษณ์ศักดิ์สิทธิ์ แหล่งรวมกิจกรรมศาสนา วัฒนธรรม และงานหัตถกรรม เจดีย์จึงเปรียบเหมือน “พิพิธภัณฑ์หมู่บ้าน” ที่หล่อเลี้ยงความฝัน ความหวัง และคุณค่าทางศีลธรรม การสร้างเจดีย์เชื่อมโยงกับความเชื่อจักรวาลวิทยาในหลายวัฒนธรรม ตั้งแต่คติพุทธ–ฮินดูที่มองภูเขาเป็นศูนย์กลางจักรวาล ไปจนถึงประเพณีล้านนาอย่างเจดีย์ทรายและตุงในเทศกาลสงกรานต์ ขณะเดียวกัน เจดีย์ของกะเหรี่ยงยังสัมพันธ์กับการเมือง การต่อสู้ และอัตลักษณ์ชาติพันธุ์ เช่น กรณีในพม่าและไทย ที่ศาสนา–การเมือง–เศรษฐกิจผสานกัน แม้โลกาภิวัตน์และนโยบายรัฐทำให้บางหมู่บ้านสูญเสียพื้นที่ ความเชื่อ และเจดีย์ แต่ก็มีการฟื้นฟูพิธีกรรม เช่น ลู้บ่อง ในอุทัยธานีและกาญจนบุรี แสดงถึงความทรงจำทางสังคมและความพยายามรักษาอัตลักษณ์ของชาวกะเห...