ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก 2023

แนวคิดหลังมานุษยนิยม การศึกษาสิ่งที่พ้นมนุษย์ (Posthumanism) โดยนัฐวุฒิ สิงห์กุล

Posthumanism เชิงปรัชญาของ Francesca Ferrando เริ่มต้นด้วยการกล่าวอ้างอย่างท้าทายว่า 'ลัทธิหลังหลังมนุษย์คือปรัชญาสำคัญแห่งยุคสมัยของเรา' งานเขียนของเธอเริ่มต้นกับการตั้งคำถามง่ายๆ ในหลายประเด็น เช่น 'ลัทธิหลังมนุษย์หมายถึงอะไร'; 'ลัทธิหลังมนุษย์มาจากไหน?'; ไปจนถึง 'ชีวิตคืออะไร' และพหุภพ(มาจากคำว่า Multiverse คือแนวคิดที่มีสมมติฐานว่ามีเอกภพ จำนวนมากมายนับไม่ถ้วน เกิดขึ้นและสลายไปอยู่ ตลอดเวลา) คืออะไร' เธอยืนยันถึงความเร่งด่วนของลัทธิหลังมนุษย์ที่จะต้องเกิดขึ้นเพื่อ การกำหนดนิยามใหม่อันสมบูรณ์ของความเป็นมนุษย์ ตามการพัฒนาทางพยาธิวิทยาทางการแพทย์ตลอดจนการพัฒนาทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีชีวภาพของศตวรรษที่20และ21เป็นต้นมา (2019, p.1) Ferrando มองว่าลัทธิหลังมนุษย์ในเชิงปรัชญาประกอบด้วยแนวคิดหลักสามประการ ได้แก่ ลัทธิหลังมนุษยนิยม(Post-humanism) ลัทธิหลังมานุษยวิทยา (Post-Anthropology) และหลังลัทธิทวิลักษณ์นิยม (Post-Dualism) ข้อโต้แย้งหลักของเธอเกี่ยวกับลัทธิหลังมนุษยนิยมคือว่าประสบการณ์ของมนุษย์ควรเข้าใจเป็นพหุนิยมมากกว่าในแง่ทั่วไปและเป็นสากล กา...

การประยุกต์ใช้ PDCA กับการพัฒนาตัวเอง โดย นัฐวุฒิ สิงห์กุล

มันคือความท้าทายที่เราจะเรียนรู้อะไรบางอย่างจากเครื่องมือที่เรามี …ใช้มันอย่างเข้าใจ แปลงมันให้ง่ายและไม่ต้องซับซ้อนมากเกินไป ในขีวิตผมเมื่อเข้ามาเป็นอาจารย์ ผมอบรมหลายอย่าง ทั้งในเชิงเนื้อหา เชิงแนวคิด เชิงเครื่องมือ เพราะต้องดูแลเริ่องหลักสูตร การประกันคุณภาพ การเขียนหลักสูตรและโปรแกรมหลักสูตรให้สามารถตอบผลลัพธ์การเรียนรู้ที่คาดหวังได้ ที่นำไปออกแบบคอร์สรายวิชาให้สอดคล้อง ผมนึกถึงเครื่องมือตัวหนึ่ง ที่ง่ายและกระบวนการไม่ได้ซับซ้อนมาก ก็คิอ PDCA และคิดว่าถ้าเราเอามาใข้กับการดํการเปลี่ยนแปลงของลูกเรา เราจะสามารถนำมาใช้ได้อย่างไรบ้าง ใข้ได้จริงไหม มีประโยชน์ไหม คำว่า PDCA (Plan, Do, Check, Act.) คือทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับความสามารถในการตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลง การปรับปรุงและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความสามารถ การเปลี่ยนแปลงและการเติบโตในขณะที่ดำเนินการไปข้างหน้า คำถามสำคัญคือเราจะใช้มันให้เกิดประโยชน์ในชีวิตได้อย่างไร ลูกของผมเริ่มเติบโต และเธอชอบที่จะวาดหรือเขียนสิ่งต่างๆ บันทึกสิ่งต่างๆได้แล้ว รวมถึงการทำสิ่งของต่างๆตามจินตนาการ ร แน่นอนว่าสิ่งนี้ทำให้ผม ตั้งคำถามและสงสัยเกี...

ความเจ็บป่วยและความทุกข์ทางสังคม กับความเชื่อ โดยนัฐวุฒิ สิงห์กุล

ความทุกข์ทรมานทางสังคม คือความเจ็บป่วยรูปแบบหนึ่ง และมันเชื่อมโยงกับการเยียวยาความเจ็บป่วยของตัวเองผ่านความเชื่อบางอย่าง… Paul Farmer แพทย์และนักมานุษวิทยา สนใจมองลงไปที่ความเจ็บป่วยที่ไม่ได้มีสาเหตุหรือเกิดจากตัวเชื้อโรค อย่างที่ความรู้ทางวิทยาศาสตร์การแพทย์ในเชิงกายภาพและชีววิทยา พยายามอธิบายเกี่ยวกับความเจ็บป่วยของร่างกายและอวัยวะต่างๆ ที่เรียกภาวะความผิดปกติ โดยมีเชื้อโรค ทั้งจากไวรัสและแบคทีเรีย เป็นตัวแปร สําคัญที่ทําให้เกิดภาวะการเจ็บป่วยของมนุษย์แต่เพียงอย่างเดียว.... แต่ Paul Farmer กลับมองว่า สาเหตุของโรคภัยเจ็บที่มนุษย์กําลังเผชิญอยู่ มีนัยทางเศรษฐกิจ การเมือง สังคมและวัฒนธรรมเข้ามาเกี่ยวข้องอยู่ด้วย และเป็นสาเหตุ สําคัญที่ทําให้คนตกอยู่ในสภาวะผิดปกติ มีเชื้อโรคและเกิดภาวะที่เรียกว่าความ “เจ็บป่วย” ซึ่งถือเป็นการอธิบายความเจ็บป่วยที่มีมิติทางสังคม การเมือง เศรษฐกิจและวัฒนธรรม ที่ไม่ใช่วิธีคิดแบบวิทยาศาสตร์เพียงอย่างเดียว ........ Pual Farmer กล่าวว่า คนทุกคนบนโลกรู้ว่าความทุกข์ทรมานมีอยู่จริงในชีวิตประจําวันของเรา ตัวอย่างเช่น เวลาเราปวดท้องหรือปวดหัว จนแทบทํ...

Margaret Mead and Marijuana มุมมองกับกัญชากับนักมานุษยวิทยา โดยนัฐวุฒิ สิงห์กุล

Margaret Mead and Marijuana มุมมองนักมานุษยวิทยาคลาสสิค ที่ศึกษาชนพื้นเมืองที่มีต่อเรื่องของกัญชา อย่างเช่น Margaret Mead เธอเป็นนักมานุษยวิทยาชาวอเมริกันที่เกิดในช่วงปี 1901 หนังสือชิ้นสำคัญของเธอคือ Coming of Age in Samoa งานชิ้นนี้มักถูกอ้างถึงว่ามีอิทธิพลที่ยิ่งใหญ่ในช่วงของการปฏิวัติเกี่ยวกับความรู้ทางเพศในทศวรรษ 1960 เธอสอนมานุษยวิทยาในสถาบันต่างๆ มากมาย และเป็นนักเขียนหรือผู้ร่วมเขียนหนังสือกว่า 40 เล่ม โดยเล่มที่มีชื่อเสียงจะเกี่ยวกับ ความเป็นผู้ใหญ่และการบรรลุนิติภาวะจองวัยรุ่นในซามัว นับตั้งแต่ตีพิมพ์แม้จะมีการโต้เถียงกันอยู่บ้างต่อกรณีดังกล่าว ในแวดวงวิชาการทางมานุษยวิทยาก็ยังคงถกเถียงและตั้งคำถามว่าคำอธิบายของ Mead เกี่ยวกับวัฒนธรรมซามัวนั้นถูกต้องแท้จริงหรือไม่ แต่ในช่วงต่อมา เธอได้กลายเป็นประธานสมาคมมานุษยวิทยาอเมริกัน ในช่วงทศวรรษที่ 60 เธอเป็นผู้นำสมาคม American Association for the Advancement of Science หนังสือเรื่อง Sex and Temperament in Three Primitive Societies ของ Mead ในปี 1935 อธิบายว่าพลวัตทางเพศและอำนาจของชนเผ่าพื้นเมืองในปาปัวนิวกินีขึ้นอยู่กับผู้หญิ...

ความเจ็บป่วย การดูแล และสุขภาวะทางปัญญา โดยนัฐวุฒิ สิงห์กุล

คนที่เป็นหมอ พยาบาล ผู้ปฏิบัติการทางการแพทย์ นักเทคนิคการแพทย์ มีหน้าที่ต้องดูแลรักษาคนไข้ คนไข้ที่ไม่ใช่ญาติ เป็นผู้มารับการรักษา มารับบริการ ในระบบสุขภาพ เป็นคนไข้ ลูกค้าของโรงพยาบาล เป็นการรักษาตามอาการ ตามหน้าที่ที่กำหนด ในขณะที่คนที่ใกล้ชิดกับผู้ป่วย เป็นลูก เป็นพ่อแม่ เป็นสามีภรรยา เป็นญาติพี่น้อง ที่ทำหน้าที่เป็นผู้ดูแลผู้ป่วย เป็นการดูแลผู้ป่วย ไม่ใช่แค่ตามหน้าที่ แต่เป็นความรักและความปรารถนาดีต่อผู้ใกล้ชิดหรือคนที่ตัวเองรัก ทั้งสองกรณี เขื่อมกับแนวคิดเรื่อง การดูแลและการรักษา Cure and Care ซึ่งก็น่าสนใจที่จะวิเคราะห์ต่อ เพราะคำว่า Cure คือการรักษาตามแบบ ตามระบบมีสิ่งที่กำกับภายใต้มาตรฐาน Standardization คนไข้มาต้องได้รับการรักษา1,2,3,4 เพื่อให้หายจากโรค หรือประคับประคอง บรรเทาอาการเจ็บป่วย หากรักษาตามขั้นตอนที่กำหนด ส่วนคำว่าว่า care มันคือการดูแล ที่ต้องเอาใจใส่ ต้องคำนึงถึงสิ่งที่อยู่ข้างใน ต้องมองมากกว่าร่างกายของผู้ป่วย ไม่ใช่แค่การดูแลรักษา แต่ต้องให้ผู้ป่วยมีความสุข มีความรู้สึกสบายด้วย อันนี้เป็นเรื่องที่สัมพันธ์กับเรื่องของจิตวิญาณ ที่สร้างการตระหนักถึงคุณค่า...

เวทมนตร์ขาวและเวทมนต์ดำ( White and Black Magic) โดย นัฐวุฒิ สิงห์กุล

ความแตกต่างระหว่างเวทมนตร์ขาวและเวทมนต์ดำ( White and Black Magic) แม็กซ์ เวเบอร์( Max Weber )ใช้คำว่า “เวทมนตร์” (Magic) เพื่อหมายถึงการกระทำทางศาสนาที่เชื่อกันว่าจะมีประสิทธิผลโดยอัตโนมัติ ไม่ว่าเป้าหมายนั้นจะเห็นผลในเชิงประจักษ์หรือเห็นได้ด้วยตาหรือไม่ก็ตาม ส่วนมาลินอฟสกี้ (Malinowski ) นิยามเวทมนตร์ว่าเป็นการใช้วิธีเหนือธรรมชาติ(Supernatural) เพื่อพยายามบรรลุผลบางอย่าง และเขาแยกระหว่าง "เวทมนตร์" (Magic) ออกจาก”ศาสนา”(Religion) มนต์ขาว(White Magic) ใช้เพื่อประโยชน์ของบุคคลหรือกลุ่มบุคคล สังคมหลายแห่งมีพิธีกรรมมหัศจรรย์ที่ออกแบบมาเพื่อให้แน่ใจว่าพืชผลดี การได้มาซึ่งสัตว์ป่าที่ล่า ความอุดมสมบูรณ์ของสัตว์เลี้ยง และการหลีกเลี่ยงจากโรคภัยและรักษาโรคในมนุษย์ ดังที่เราพบว่าหมอผีและหมอผีในหมู่จวงแห่งโอริสสา(Juang of Orissa ) มักจะใช้เวทมนตร์เพื่อรักษาโรค ส่วนชาวเกาะ Trobriand ถือว่าเวทมนตร์เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับการตกปลาในทะเลลึก ซึ่งมีความเสี่ยงทั้งในแง่ที่ว่าชีวิตอาจล้มตายหรือสูญหาย และในแง่ที่ว่าการเดินทางตกปลาที่มีราคาแพงอาจไม่กลับมาพร้อมกับปลาจำนวนมาก แต่ชาวเกาะไม่ได้ใช้เ...

ชาติพันธุ์พม่าและการศึกษากะเหรี่ยง ของ Mikael Gravers โดย นัฐวุฒิ สิงห์กุล

นักมานุษยวิทยา Mikael Gravers ผู้เชี่ยวชาญด้านลัทธิชาตินิยม ความขัดแย้งทางชาติพันธุ์ และสันติภาพและการปรองดอง ผู้มีประสบการณ์มากมายในการทำงานกับชุมชนกะเหรี่ยงในประเทศไทยและเมียนมาร์ เขาเป็นผู้เขียนหนังสือเกี่ยวกับพม่ทหรือเมียนมาร์หลายเล่ม เข่น Where Now?, Exploring Ethnic Diversity in Burma และ Nationalism as Political Paranoia in Burma นอกจากนี้เขายังเป็นนักวิจัยในโครงการ “Everyday Justice and Security in the Myanmar Transition” อีกด้วย เขาเล่าถึงความสนใจของเขาสนการศึกษากลุ่มชนกะเหรี่ยงในไทยและพม่าว่า “ใช่ จริงๆ แล้วฉันกำลังอ่าน Political Systems of Highland Burma ของ Edmund Leach ในขณะที่ฉันกำลังเตรียมตัวสำหรับงานภาคสนาม และนั่นเป็นแรงบันดาลใจให้ฉันมากจนตัดสินใจว่าอยากจะทำงานภาคสนามที่คล้ายกัน แต่ก็ไม่สามารถทำได้ในพม่าในเวลานั้น ฉันอยู่ที่พม่าในปี 1972 แต่นี่เป็นช่วงปีของการครอบครองอำนาจของนายพลเนวินและมันค่อนข้างยากมากกับการทำงานต่างๆ ฉันไปพบกับชาวกะเหรี่ยงโปว์คริสเตียนและเพียงไม่กี่นาทีต่อมา เจ้าหน้าที่ MI (หน่วยข่าวกรองทหาร) บนรถบัสก็หยุดฉันไว้ ฉันไม่คิดว่าจะมีอะไรเลวร้ายเ...

วัฒนธรรมของกะเหรี่ยงในพม่า โดย นัฐวุฒิ สิงห์กุล

กะเหรี่ยงในพม่า **ข้าวและอาหาร** ในวิถีของชาวกะเหรี่ยงในพม่า นอกจากข้าวที่ใช้ประกอบอาหารธรรมดาแล้ว ยังมีข้าวเหนียวอีกหลายชนิดที่หุงหรือนึ่งบนเตาสำหรับเป็นอาหารมื้อเช้าหรือในงานฉลองพิเศษ หม้อนึ่งนั้นทำเหมือนหม้อพม่า แต่มีรูเล็กๆ อยู่จำนวนหนึ่งที่ก้น สิ่งเหล่านี้จะถูกวางไว้เหนือภาชนะที่มีน้ำเดือด ซึ่งไอน้ำจะลอยขึ้นมาผ่านช่องเปิดและแทรกซึมเข้าไปในเมล็ดพืช มีคนบอกมาว่าข้าวก็จะถูกนึ่งบนภาชนะที่ใช้ต้มไก่ และข้าวก็ปรุงรสด้วยไก่ นอกจากนี้ข้าวเหนียวนึ่งบางครั้งผสมกับเมล็ดงาและโขลกในครกไม้จนกลายเป็นเนื้อเหนียว ส่วนผสมนี้เรียกว่าโตมีโตปี "to me to pi" พวกเขาหุงข้าวโดยใช้บ้องหรือกระบอกไม้ไผ่ อย่างไรก็ตาม นี่คือการปฏิบัติในปัจจุบันของพวกเขาเมื่ออยู่ในป่า นายพรานหรือนักเดินทางในป่าจะนำข้าวใส่ในลำไม้ไผ่ขนาดใหญ่ โดยยืนที่ขอบกองไฟเล็กน้อยจนข้าวเดือดพอประมาณ เปลือกไม้ไผ่แข็งที่ทนทานต่อความร้อนในการปรุงอาหารเพียงครั้งเดียว เมื่อใช้แล้ว ข้อต่อก็จะถูกทิ้งไป เนื่องจากมีอีกหลายส่วนให้ตัดตามความต้องการในโอกาสต่างๆ บางครั้งข้าวที่หุงสุกสำหรับการเดินทางก็จะถูกขนไปในข้อเดียวกับที่ต้ม ไม้ไผ่บางชนิด เช...

An Anthropology of Disappearance มานุษยวิทยาว่าด้วยการหายตัวหรือการไม่ปรากฏ โดยนัฐวุฒิ สิงห์กุล

An Anthropology of Disappearance ผู้คนทั่วโลกหายไปจากครอบครัว ชุมชน และการจ้องมองของรัฐ ในฐานะเหยื่อของระบอบการปกครองที่กดขี่ หรือขณะอพยพไปตามเส้นทางลับ หนังสือเล่มนี้รวบรวมนักวิชาการที่มีส่วนร่วมทางชาติพันธุ์วิทยากับการหายตัวไปดังกล่าวในบริบททางวัฒนธรรม สังคม และการเมืองที่หลากหลาย ใช้มุมมองทางมานุษยวิทยาเกี่ยวกับคำถามเกี่ยวกับชีวิตและความตายของมนุษย์ การหายไปและการปรากฏ พิธีกรรมและการไว้ทุกข์ ความจำกัดและโครงสร้าง ความเป็นพลเมืองและความเป็นบุคคล ตลอดจนสิทธิ์เสรีและอำนาจ บทต่างๆ เหล่านี้จะสำรวจมิติทางการเมืองของการหายตัวไป และกล่าวถึงความท้าทายด้านระเบียบวิธี ญาณวิทยา และจริยธรรมในการค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวกับการหายตัวไปและการหายตัวไป มีงานของนักมานุษยวิทยาที่น่าสนใจหลายคน โดยเฉพาะนักมานุษยวิทยาเหล่านี้ ล้วนอยู่ในบริบทของประเทศที่ถูกกดขี่ และมีประสบการณ์ที่ถูกดขี่ และสัมผัสกับการสูญหายของผู้คน เช่น Laura Huttunen เป็นศาสตราจารย์ด้านมานุษยวิทยาสังคมที่มหาวิทยาลัย Tampere ประเทศฟินแลนด์ ในปี 2556-2557 เธอดำเนินโครงการที่มุ่งเน้นไปที่คำถามเกี่ยวกับบุคคลสูญหายและหายตัวไปในบอสเนีย-เฮอ...

อาวุธของผู้อ่อนแอ weapon of the weak มุมมองต่อปรากฏการณ์การต่อสู้ของคนเล็กคนน้อย โดย นัฐวุฒิ สิงห์กุล

Weapons of the Weak เป็นงานชาติพันธุ์วรรณาที่เขียนโดย James C. Scott ที่ศึกษาผลกระทบของการปฏิวัติเขียวในชนบทของมาเลเซีย วัตถุประสงค์หลักประการหนึ่งของการศึกษาวิจัยนี้คือการโต้แย้งว่าแนวคิดเรื่องจิตสำนึกที่ผิดพลาด( false consciousness ) และการครองอำนาจนำ(hegemony ) ของลัทธิมาร์กเซียน(Marxian )และพวกกรัมเซียน (Gramscian ) นั้นไม่ถูกต้อง เขาพัฒนาข้อสรุปนี้ตลอดหนังสือทั้งเล่ม ผ่านสถานการณ์และตัวละครต่างๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่เขาทำงานภาคสนามในหมู่บ้านในมาเลเซีย ภายใต้ระยะเวลาการทำงานภาคสนามของเขาเป็นเวลา 2 ปี (ค.ศ. 1978-1980) ในชุมชนเกษตรกรรมทำนาขนาดเล็กที่มี 70 ครัวเรือนในพื้นที่ปลูกข้าวหลักของรัฐเกดาห์ในมาเลเซีย ที่ได้รับผลกระทบจากการปฏิวัติเขียวในปี ค.ศ.1976 ที่ได้ขจัดโอกาสในการรับค่าจ้างสำหรับเกษตรกรรายย่อยและแรงงานที่ไม่มีที่ดินถึง 2/3 ส่วน ที่นำไปสู่การต่อสู้ทางชนชั้นที่ตามมา โดยผูเขียนวิเคราะห์ว่าเป็นการต่อสู้ทางอุดมการณ์ในหมู่บ้านและแนวปฏิบัติในการต่อต้านซึ่งประกอบด้วย การอู้งาน การหลอกลวง การทอดทิ้งงาน การไม่ยอมตาม การฉกฉวย การแสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น การใส่ร้าย การปล้น ก...

อาหารกับเพศ โดย นัฐวุฒิ สิงห์กุล

การค้นพบอาหารใหม่ๆ เป็นความสุขแก่มนุษยชาติทั้งปวงยิ่งกว่าการค้นพบดวงดาวเสียอีก" Brillât Savarin ในหนังสือ The Physiology of Taste หรือสรีระแห่งรส ความสนใจเรื่องอาหารกับเพศ มันเกิดจากบทสนทนาที่ถามนักศึกษาในห้องเรียนวิชา Anthropology of Sex and Sexuality… ที่ผมถามว่าอยากเรียนประเด็นอะไรเพิ่มเติมบ้างจากคอร์สรายวิชาที่วางเอาไว้เบื้องต้น นักศึกษาหลายคนตอบว่าเรื่องสิทธิในเนื้อตัวร่างกาย เฟมมินิสต์ เควียร์ เพศวิถีออนไลน์ บลา บลา บลา จมกระทั่งนักศึกษาคนหนึ่งที่ชื่อสิทธิ ที่เธอชอบนั่งหน้าห้องและถามเป็นประจำ ตอบผมว่า ผมสนใจเรื่องอาหารครับ...ผมตอบว่าโอเคเดี๋ยวอาจารย์จะแทรกเรื่องนี้เข้าไปและพิจารณาดูว่ามีประเด็นอะไรที่จะเกี่ยวข้องบ้าง และอาจเป็นแรงบันดาลใจในการศึกษาหรือเขียนตำราเรื่องนี้ในอนาคต ผมเลยพยามค้นหางานและหนังสือที่เกี่ยวข้อง พบว่ามีงานของคาโรล คูนิฮาน และ สตีเวน แคปแลน เรื่อง Food and Gender: Identity and Power (เล่มนี้ผู้เขียนพยามตรวจสอบความสำคัญของกิจกรรมที่เน้นอาหารเป็นหลัก ที่เชื่อมโยงต่อความสัมพันธ์ทางเพศและการสร้างอัตลักษณ์ทางเพศข้ามในวัฒนธรรม โดยพิจารณาว่าความสัมพั...

มานุษยวิทยาเมือง โดยนัฐวุฒิ สิงห์กุล

“ถ้านายรักฉัน ..นายไม่ต้องทำอะไร …นายทำงาน" (อ.ศิลป์ พีระศรี) ประเด็นเรื่องของมานุษยวิทยาเมือง (วิชาการเปลี่บนแปลงทางสังคมและวัฒนธรรม ที่ตัวเองหันมาสนใจอยากทำความเข้าใจเรื่องนี้มากขึ้น ว่าเรานักมานุษยวิทยาจะศึกษาเมืองอย่างไรและเราจะทำงานในแนวข้ามศาสตร์ ร่วมศาสตร์อย่างไรในการแก้ปัญหาเมืองหรือออกแบบเมือง ภายใต้จุดแข็งของเรา ทศวรรษ 1960s - 1970s โดยมานุษยวิทยาเมืองนั้นได้รับอิทธิพลอย่างมากจากการศึกษาทางสังคมวิทยา โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถาบันสังคมวิทยาเมืองแห่งชิคาโก (Chicago School of Urban Sociology) ที่ทำให้เกิดความแตกต่างพื้นฐานระหว่างวิชาการทางสังคมวิทยากับมานุษยวิทยาคือ การมองว่าสังคมวิทยานั้นศึกษาสังคมอารยะ (Civilization คือ สังคมเมือง) ส่วนมานุษยวิทยาศึกษากลุ่มคนไร้อารยะ หรือกลุ่มคนพื้นเมือง Primitive หรือกลุ่มคนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ชนบท (Rural) สังคมชาวไร่นา สิ่งหนึ่งที่เห็นพัฒนาการของการศึกษามานุษยวิทยาเมืองก็คือ ความคิดของการแบ่งแนวทางการศึกษาระหว่างมานุษยวิทยาและสังคมวิทยา การศึกษาเกี่ยวกับ “อารยธรรมตะวันตก” และโลกอุตสาหกรรม หรือโลกสมัยใหม่ถูกสงวนไว้สำหรับสาขาสังคมวิทยาใ...

สำนักแฟรงเฟิร์ต กับอุตสาหกรรมวัฒนธรรม โดย นัฐวุฒิ สิงห์กุล

สำนักแฟรงเฟิร์ต กับอุตสาหกรรมวัฒนธรรม โดย นัฐวุฒิ สิงห์กุล “กิจกรรมของคนงานก็ไม่ใช่กิจกรรมของเขาเช่นกัน กิจกรรมที่ดูราวกับว่าเกิดขึ้นเอง แท้จริงมันเป็นของคนอื่น มันเป็นการสูญเสียตัวตนของเขา ด้วยเหตุนี้ มนุษย์ (คนงาน) จะรู้สึกเพียงแต่ว่าตัวเองกระตือรือร้นอย่างอิสระในหน้าที่แห่งสัตว์ของเขา เช่น การกิน การดื่ม การสืบพันธุ์ หรืออย่างน้อยที่สุดก็ในที่อยู่อาศัยและการแต่งตัวของเขา ฯลฯ และในหน้าที่ของมนุษย์ เขาก็จะไม่อีกต่อไป รู้สึกว่าตัวเองเป็นอะไรก็ได้.. สิ่งที่เป็นสัตว์กลายเป็นมนุษย์ และสิ่งที่เป็นมนุษย์กลายเป็นสัตว์”(Adorno and Horkheimer) ในยุค "Fordism" ที่สร้างระบบการผลิตจำนวนมากพร้อมๆกับการก่อตัวของระบอบการปกครองที่เป็นเนื้อเดียวกันกับทุนซึ่งต้องการผลิตความปรารถนา รสนิยม และพฤติกรรมของมวลชน ด้วยเหตุนี้ จึงเป็นยุคของการผลิตและการบริโภคจำนวนมากที่โดดเด่นด้วยความสม่ำเสมอของความต้องการ ความคิด และพฤติกรรมที่ก่อให้เกิดสังคมมวลชน และสิ่งที่สำนักแฟรงก์เฟิร์ตอธิบายว่าเป็น "จุดจบของปัจเจกบุคคล" ความคิดและการกระทำของแต่ละบุคคลไม่ได้เป็นกลไกขับเคลื่อนความก้าวหน้าทางส...