Patočka (1907–1977) เป็นนักปรัชญาชาวเช็ก ศิษย์ของ Edmund Husserl และ Martin Heidegger เขาเป็นหนึ่งในนักคิดphenomenology รุ่นหลังที่ พยายามอธิบายชีวิตมนุษย์ในฐานะการมีส่วนร่วมกับ ความหมายเชิงจิตวิญญาณ มากกว่าการดำรงอยู่เชิงชีววิทยา
ช่วงปลายชีวิต เขากลายเป็นนักคิดแนวต่อต้านระบอบเผด็จการในยุคคอมมิวนิสต์ของเช็กโกสโลวาเกีย และเสียชีวิตหลังถูกตำรวจสอบสวนจากการลงนามในแถลงการณ์สิทธิมนุษยชน Charter 77 ดังนั้น สำหรับ Derrida แล้ว Patočka ไม่ได้แค่พูดเรื่องความรับผิดชอบ แต่ มีชีวิตและตายเพื่อมัน
งานของเขาแต่ละเล่มล้วนเข้มข้น และทรงอิทธิพลต่อปรัชญายุโรปหลังสงคราม โดยเฉพาะต่อ Jacques Derrida, Paul Ricoeur, Václav Havel, และ Emmanuel Levinas
อะไรคือความรับผิดชอบต่อสิ่งที่มองไม่เห็น ในแนวคิดของ Patočka เขามองเห็นว่า ความรับผิดชอบที่แท้จริงไม่ได้เกิดจากกฎหรือศาสนา แต่มันเกิดจากความตระหนักรู้ถึงความเปราะบางของชีวิตผู้อื่น นั่นคือ เราต้องรับผิดชอบต่อสิ่งที่ไม่มีใครบังคับ และไม่มีใครเห็น นี่แหละคือความลึกลับ (mystery) ของมัน…
Patočka พูดถึงแนวคิด ชีวิตที่ถูกเขย่า เขากล่าวว่า “เพียงเมื่อเราถูกเขย่า เราจึงตื่นขึ้นจากชีวิตธรรมดาและตระหนักถึงความลึกลับของการดำรงอยู่”
Patočka ใช้คำว่า the shaken life หมายถึงช่วงเวลาที่เราถูกสะเทือนโดยบางสิ่ง เช่น ความตาย ความสูญเสีย หรือความไม่ยุติธรรม และนั่นคือสิ่งที่ทำให้เรามองชีวิตต่างไปจากเดิม ดังนั้นเราควรหยุดถามว่า “เราจะอยู่รอดได้อย่างไร?” แล้วเริ่มตั้งคำถามกับตัวเองว่า “เราจะรับผิดชอบต่อชีวิตและผู้อื่นอย่างไร?”
ในงาน Heretical Essays in the Philosophy of History (1975) Patočka อธิบายถึง ชีวิตในฐานะการ เคลื่อนไหวสามระดับ เขาแบ่งชีวิตมนุษย์ออกเป็น 3 ระดับ
1.ระดับของ การยอมรับ (Acceptance) ที่มองการมีชีวิตเพื่อตัวเอง อยู่ในวัฏจักรธรรมชาติ กิน นอน สืบพันธุ์ ตัวอย่าง สัตว์ มนุษย์ทั่วไป
2. ระดับของการปกป้อง (Defense) การเข้าสู่สังคม รักษาชีวิตตนและผู้อื่น มีหน้าที่ ความรับผิดชอบเชิงสังคม ตัวอย่างเช่น พ่อ แม่ ครู อาจารย์ ทหาร
3. ระดับของ การเปิดรับความลึกลับ (Transcendence or The Shaken Life) การตระหนักถึงความเปราะบางของชีวิตและโลก และ ยินยอมเผชิญความลึกลับ ของการดำรงอยู่ ตัวอย่างเช่น นักคิด นักศิลป์ ผู้เสียสละเพื่อผู้อื่น
ดังนั้น ระดับที่ 3 คือสิ่งที่ Patočka เรียกว่า ชีวิตเพื่อความลึกลับของความรับผิดชอบ (the life devoted to the mystery of responsibility) นั่นคือ ชีวิตที่ ยอมรับความไม่แน่นอน ความตาย และความลึกลับของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ โดยไม่หนีมัน
การสูญเสียใครสักคน คือช่วงเวลาที่ชีวิตเราถูกเขย่า (the shaken life) และนั่นทำให้เราตระหนักถึงความรับผิดชอบต่อการมีชีวิตอยู่ต่อไป
การไว้อาลัยจึงไม่ใช่เพียงการระลึกถึงผู้ตาย แต่คือการเรียนรู้ที่จะดำรงชีวิตด้วยความลึกซึ้งยิ่งกว่าเดิม
ผมชอบกระบวนการคิดของ Patocka ที่ให้ความสำคัญกับแก่นทางความคิด เรื่องความรับผิดชอบต่อความลึกลับของชีวิต การดำรงชีวิตอย่างมีสำนึกหลังถูกเขย่า และศีลธรรมคือสิ่งที่เกิดจากการยอมรับความลึกลับ ไม่ใช่กฎศาสนา รวมทั้งความสัมพันธ์กับคนอื่น คือการรับผิดชอบต่อผู้อื่นในฐานะมนุษย์ร่วมโลก
งานของเขาถือเป็นพื้นฐานสำคัญที่เชื่อมโยงกับแนวคิดGift of the death ของแดริดา ที่เขาบอกว่า ความลับนี้คือของขวัญจากความตายเพราะเมื่อเรารับรู้ว่าทุกชีวิตต้องตาย เราจะเริ่มรับผิดชอบต่อผู้อื่นในแบบที่ลึกและจริงจังที่สุด





ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น