ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ผู้หญิงกับธรรมชาติ โดยนัฐวุฒิ สิงห์กุล

 ผู้หญิงเป็นด้านของธรรมชาติ ผู้ชายเป็นด้านของวัฒนธรรม ทั้งสองอย่างเป็นแนวคิดเพศภาวะที่อยู่ภายใต้วิธีคิดแบบทวิลักษณ์นิยม หากทว่า ชายและหญิง ธรรมชาติและวัฒนธรรม ไม่ใช่สิ่งที่แยกขาดออกจากกัน ต่างเกื้อกูลและพึ่งพากันเพื่อสร้างความสมดุล ...

วัฒนธรรมเป็นเครื่องมือของมนุษย์ในการปรับตัวเข้ากับธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในขณะเดียวกันธรรมชาติก็กำหนดรูปแบบทางวัฒนธรรม พิธีกรรมและความเชื่อ ที่วางรากฐานแนวทางในการปฏิบัติให้มนุษย์รู้จักเคารพ ปกป้อง รักษาและใช้ประโยชน์จากธรรมชาติอย่างรู้คุณค่าและยั่งยืน.. ความเข้าใจในธรรมชาติต้องการมนุษย์ที่มีความรู้สึกลึกซึ้ง มีความเคารพ มีเมตตา และมีความอ่อนโยนต่อธรรมชาติ เนื่องจากธรรมชาติเป็นสิ่งที่เปราะบาง ซับซ้อน มีจิตวิญญาณ มีความหลากหลายของชีวิตและเต็มไปด้วยพลัง...ดังนั้นธรรมชาติจึงต้องการความเอาใจใส่ การปกป้อง การดูแลรักษาและการพึ่งพาเพื่อการดำรงอยู่ร่วมกันระหว่างกันระหว่างธรรมชาติ สิ่งเหนือธรรมชาติและมนุษย์ด้วยความอ่อนน้อมต่อกัน..
ผู้หญิงในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ โดยเฉพาะในแผ่นดินอุษาคเนย์ ผู้หญิงเป็นผู้ทำหน้าที่ดูแลปกป้องธรรมชาติ เป็นผู้ดูแลคัดเลือกเมล็ดพันธุ์ ดูแลเรื่องการเพาะปลูก เฉกเช่นเดียวกับสิ่งเหนือธรรมชาติที่เป็นเพศหญิง ทั้งความเชื่อและการนับถือแม่คงคา แม่ธรณีและแม่โพสพ ที่สะท้อนความสัมพันธ์ของผู้หญิงในฐานะเป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้างสังคมและวัฒธรรมและอำนาจของธรรมชาติ ผู้หญิงจึงดำรงสถานะเป็นตัวประสานตรงกลางระหว่างพรมแดนของธรรมชาติกับวัฒนธรรม..
ในขณะเดียวกันภาวะด้านอารมณ์ความรู้สึกของผู้หญิง ที่เชื่อมโยงและมีความใกล้ชิดกับภาวะธรรมชาติมากกว่าผู้ชาย ก็ทำให้ผู้หญิงมีความเข้าใจในธรรมชาติได้ไม่น้อยกว่าผู้ชายและอาจจะมากกว่าผู้ชายเสียด้วยซ้ำ ในอีกด้านหนึ่งผู้หญิงก็มีบทบาททางด้านวัฒนธรรมได้เฉกเช่นเดียวกับผู้ชาย ในแง่ของการเป็นตัวกลางระหว่างธรรมชาติกับวัฒนธรรม ดังนั้นผู้หญิงจึงเป็นทั้งผู้พิทักษ์ธรรมชาติและผู้พิทักษ์ทางวัฒนธรรม...เช่นเดียวกับผู้หญิงกะเหรี่ยงโผล่วบ้านพุเม้ยง์ จังหวัดอุทัยธานี
#ผู้หญิงกะเหรี่ยงกับการอนุรักษ์ วัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อม

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

การนอน มานุษยวิทยาและนักมานุษยวิทยา โดย นัฐวุฒิ สิงห์กุล

 เข้านี้หลังจากตื่นนอน อยากเขียนการนอนในมิติทางมานุษยวิทยากับนักมานุษยวิทยา...    ผมเริ่มต้นกับการลองตั้งคำถามเพื่อหาความรู้เกี่ยวกับการนอนว่า อะไรคือการนอน ทำไมต้องนอน นอนที่ไหน นอนเมื่อไหร่ นอนอย่างไร นอนกับใคร นอนเพื่ออะไรและอื่นๆ..เพื่อจะได้รู้ความสัมพันธ์ของการนอนในมิติต่างๆ การนอนของสิ่งมีชีวิตชนิดอื่นๆแตกต่างจากมนุษย์หรือไม่    หากเปรียบเทียบการนอนของ มนุษย์กับสัตว์สปีชี่ส์อื่นมีการนอนต่างกันหรือเหมือนดันอย่างไร ตัวอย่างเช่น ยีราฟจะนอนครั้งละ 10 นาที รวมระยะเวลานอนทั้งหมด 4.6 ชั่วโมงต่อวัน สัตว์จำพวกค้างคาว และเม่นมีการนอนมากกว่าสัตว์อื่นๆเพราะใช้เวลานอน 17-20ชั่วโมงต่อวัน    สำหรับมนุษย์ การนอนคือส่วนสำคัญอย่างหนึ่งในประสบการณ์ของมนุษย์ การสำรวจการนอนข้ามวัฒนธรรมน่าจะทำให้เราเข้าใจความหมายและปฎิบัติการของการนอนที่มีความซับซ้อนมากขึ้น..     การนอนอาจจะเป็นเรื่องของทางเลือก แต่เป็นทางเลือกที่อาจถูกควบคุมบังคับ โดยโครงสร้างทางสังคมวัฒนธรรม นอนเมื่อไหร่ นอนเท่าไหร่ นอนที่ไหน นอนอย่างไร และนอนกับใคร..     ในสังคมตะวันตก อุดมคติเก...

Biomedical Model และ Bio-Psycho-social Mode

(1)        อะไรคือ Biomedical Model และ Bio-Psycho-social Model ? แนวคิดแบบจำลองทางชีวะการแพทย์ ( Biomeaical Model ) เริ่มต้นในช่วงกลางศตวรรษที่ 19 ที่ความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์และการแพทย์มีการพัฒนาอย่างเติบโตรวดเร็วและกว้างขวาง การค้นพบเครื่องมือทางการแพทย์ที่ทันสมัยอย่างกล้องจุลทรรศน์ ทำให้มนุษย์ได้เห็นสิ่งที่ไม่เคยเห็น แม้แต่สิ่งที่เล็กที่สุดในร่างกายของมนุษย์ รวมถึงเชื้อโรคหรือสิ่งแปลกปลอมต่างๆที่เข้าสู่ร่างกายของมนุษย์ ซึ่งเป็นสิ่งที่แพทย์ใช้วินิจฉัยสาเหตุของโรคและความเจ็บป่วย แบบจำลองนี้ ดังนั้นแบบจำลองนี้เสนอว่า โรคหรือความผิดปกติทางกาย( Physiology )ซึ่งเกิดจากการบาดเจ็บ ความผิดปกติของพันธุกรรม ( Abnomal Genetics ) ความไม่สมดุลทางชีวะเคมี ( Biochemistry ) เรื่องของพยาธิวิทยา ( Pathology )   แบคทีเรีย หรือไวรัส หรือสิ่งอื่นๆที่คล้ายคลึงกันที่นำไปสู่การติดเชื้อและความเจ็บป่วยของมนุษย์ ซึ่งแนวคิดดังกล่าวนี้ไม่ได้อธิบายบทบาทของปัจจัยทางสังคม( The role of Social factors )หรือความคิดของปัจเจกบุคคล  ( Individual Subjectivity ) โดยแบบจำลองทางชีวะ...

เฟอร์ดิน็องต์ เดอร์ โซซูร์

เฟอร์ดิน็องต์ เดอร์ โซซูร์ (1857-1923) นักภาษาศาสตร์ชาวสวิสเซอร์แลนด์ เป็นผู้มีบทบาทอย่างสำคัญในประวัติศาสตร์ของพวกโครงสร้างนิยม   ที่มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาสัญวิทยาในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 และช่วงต้นศตวรรษที่ 20 โดยเฉพาะการเคลื่อนไหวของ เลวี่ สเตร๊าท์ (Levi-Strauss) ชาร์ค ลากอง (Jacques Lacan) และ โรล็องต์ บาร์ธ (Roland Barthes) รวมถึง มิเชล ฟูโก้ (Micheal Foucault) ที่ได้กลับมาวางรางฐานและปฎิเสธเกี่ยวกับโครงสร้างนิยม ภายใต้ทิศทางใหม่ของหลังโครงสร้างนิยม (Post-Structuralism) ในคำบรรยายเริ่มแรกของเขาที่มหาวิทยาลัยเจนีวา ในช่วงปี 1906-1911 และการตีพิมพ์โครงร่างงานของเขาที่เขียนไว้ และคำบรรยายของเขาที่ลูกศิษย์ได้รวบรวมไว้ ภายหลังการมรณกรรมของเขาเมื่อปี 1915-1916   ภายใต้ชื่อ Course de linguistique   Generale ซึ่งถูกแปลเป็นภาษาอังกฤษและเผยแพร่ในยุโรป ภายใต้ชื่อ Course in general linguistic ในปี 1960 เขาได้นำเสนอความคิดว่า การศึกษาภาษาศาสตร์ในปัจจุบัน สามารถศึกษาได้อย่างเป็นวิทยาศาสตร์ ซึ่งน่าจะได้รับอิทธิพลจากอีมิล เดอร์ไคม์ (Emile D...