ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ของขวัญ(The Gift) ของMarcel Mauss โดยนัฐวุฒิ สิงห์กุล


งานเรื่อง The Gift ของ Marcel Mauss
                

 




ประวัติของ Marcel Mauss เขาเกิดวันที่10พฤษภาคม 1872 ที่ประเทศฝรั่งเศส และเขาเสียชีวิตที่เมืองปารีส ประเทศฝรั่งเศสในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ปี1950
          มาร์เซล มอสส์ เป็นนักสังคมวิทยาและมานุษยวิทยาชาวฝรั่งเศส (French Sociologist and เขาใช้วิธีทางชาติพันธุ์วิทยา (Ethnology) ในการสศึกษาเปรียบเทียบและวิเคราะห์เกี่ยวกับวัฒนธรรม  มุมมองเชิงทฤษฎีและวิธีวิทยาของเขาเกี่ยวกับวิธีการเชิงชาติพันธุ์วิทยา ที่มีอิทธิพลกับนักมานุษยวิทยาหลายท่าน อาทิ Claude Levi-Strauss ,A.R. Radcliffe-Brown,E.E. Evans-Pritchard และ Melville J. Herskovits เป็นต้น
          มาร์เซล มอสส์ เป็นหลานของของนักสังคมวิทยาชื่อดังอย่าง อีมิล เดอร์ไคม์ ที่สนับสนุนและผลักดันการก่อรูปทางความคิดและภูมิปัญญาทางวิชาการของเขา มอสส์มีส่วนช่วยเหลืออีมิล เดอร์ไคม์ในการเตรียมงานที่สำคัญของเขา ในเรื่องSuicide” ที่เป็นผลงานที่มีชื่อเสียงของเดอร์ไคม์ ในช่วงปี1902 เขาเป็นอาจารย์สอนวิชาศาสนาพื้นเมือง(primitive religion) ที่ the École Pratique des Hautes Études (“Practical School of Higher Studies”) ในปารีส ประเทศฝรั่งเศส  เขาเป็นผู้ก่อตั้งสถาบันชาติพันธุ์วิทยาในมหาวิทยาปารีสในช่วงปี1925 นอกจากนี้เขายังเป็นนักเคลื่อนไหวทางสังคม
งานที่มีชื่อเสียงของ Marcel Mauss 1925 ชื่อ The Gift: The Form and Reason for Exchange in Archaic Societies  ซึ่ง3สนามสำคัญของหนังสือเล่มนี้คือ พันธะผูกพัน(obligation)กับการให้(to give) การได้รับ(, to receive)และการจ่ายกลับคืน(to repay) โดยในประเด็นเรื่องของขวัญ (Gifts)สอดคล้องกับสิ่งที่มาเชล มอสส์ มองว่าไม่ใช่แค่การสร้างความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลเท่านั้น แต่เป็นความสัมพันธ์ระหว่างกลุ่ม ความสัมพันธ์ที่ซึ่งยึดโยงทั้งหมดที่เรียกว่า  “prestations”
อะไรคือ Prestation
Prestation เป็นมากกว่าการแลกเปลี่ยนง่ายๆธรรมดา แต่มันรวมถึงการตอบแทนซึ่งกันและกัน(reciprocity)และพันธะสัญญา(obligations) ทั้งหมดนี้คือปรากฏการณ์ทางสังคม ( social phenomenon) ไม่ใช่แค่เพียงปัจเจกบุคคลเท่านั้นแต่ยังรวมถึงกลุ่มที่กำหนดพันธะสัญญาของการแลกเปลี่ยนและสัญญาที่พึ่งพากับคนอื่นๆหรือสิ่งอื่นๆ ดั้งนั้นสิ่งที่แลกเปลี่ยนไม่ใช่เพียงทรัพย์สมบัติหรือความมั่งคั่งเพียงอย่างเดียว
 ในงานเรื่องของขวัญ (The Gift) เป็นการศึกษารูปแบบของการแลกเปลี่ยนในหมู่เกาะ Melanesia ,Polynesia และ Northwestern Northของ  America ผ่านการสำรวจความเชื่อทางศาสนา เศรษฐกิจและการแลกเปลี่ยน และกฎหมาย รวมถึงตำนานเรื่องเล่าต่างๆ ภายใต้ลักษณะของการให้(Giving) การได้รับ(Receiving)และการจ่ายกลับคืน(Repaying)

                   ในงานเรื่อง The Gift ชี้ให้เห็นตัวอย่างของ ข้อห้ามในเรื่องความสัมพันธ์ของคนเชื้อสายเดียวกัน สายตระกูลเดียวกัน(Incest taboo)คือกฏเกณฑ์ของการตอบแทนซึ่งกันและกัน ซึ่งเป็นกฏเกณฑ์เชิงสังคมมากว่ากฏเกณฑ์ทางชีววิทยาและทางพันธุกรรม หน้าที่ของข้อห้ามดังกล่าว ได้สร้างพื้นที่ของการแลกเปลี่ยนระหว่างกลุ่ม การสร้างพันธมิตรระหว่างกลุ่ม การแลกเปลี่ยนได้สร้างระบบของการติดต่อสื่อสาร( systems of communication)
คำกล่าวที่ว่าถ้าเพื่อนคุณให้ของขวัญคุณต้องให้ของขวัญตอบแทนเพื่อนคุณ “If Friends make gifts, Gifts Make Friends”  ในงานของ Marcel Mauss ที่ชี้ให้เห็นว่าเพื่อการรักษาความสัมพันธ์ทางสังคมให้คงอยู่ เราจะต้องมีการแลกเปลี่ยนบางสิ่งบางอย่างระหว่างกัน  (In order for social relationships to exist, we must exchange something …) การสื่อสารเหมือนการแลกเปลี่ยนทางภาษา เป็นเหมือนการแลกเปลี่ยนสิ่งของในพิธีเฉลิมฉลองและเศรษฐกิจ(the economic and/or ceremonial exchange of goods) รวมทั้งการแลกเปลี่ยนคู่สมรส(the exchange of spouses)
ดังนั้นการแลกเปลี่ยนคือสิ่งที่มีความสำคัญสำหรับการสร้างและการรักษาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ทางสังคม

ความคิดเห็น

  1. ไม่ระบุชื่อ13 เมษายน 2561 เวลา 23:53

    สวัสดีฉัน aM clinton nancy หลังจากที่ได้มีความสัมพันธ์กับแอนเดอร์สันมานานหลายปีแล้วเขาเลิกกับฉันฉันทำทุกอย่างเพื่อให้เขากลับมาได้ แต่ทั้งหมดก็ไร้ผลฉันต้องการให้เขากลับมามากเพราะความรักที่ฉันมีต่อเขา, ฉันขอร้องเขาด้วยทุกสิ่งทุกอย่างฉันทำสัญญา แต่เขาปฏิเสธ ฉันอธิบายปัญหาของฉันกับเพื่อนของฉันและเธอบอกว่าฉันควรจะติดต่อล้อสะกดที่สามารถช่วยฉันโยนคาถาเพื่อนำเขากลับมา แต่ฉันเป็นประเภทที่ไม่เคยเชื่อในการสะกดฉันไม่มีทางเลือกกว่าที่จะลองฉัน ส่งคาถลลวงและเขาบอกผมว่าไม่มีปัญหาใด ๆ ที่ทุกอย่างจะเรียบร้อยก่อนสามวันที่อดีตของฉันจะกลับมาหาฉันก่อนสามวันเขาได้ให้การสะกดและในวันที่สองก็แปลกใจคือประมาณ 4 โมงเย็น อดีตของฉันเรียกฉันว่าฉันประหลาดใจมากฉันตอบสายและสิ่งที่เขาพูดก็คือเขาเสียใจมากสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาต้องการให้ฉันกลับไปเขาว่าเขารักฉันมาก ฉันมีความสุขมาก ๆ และไปหาเขานั่นคือสิ่งที่เราเริ่มใช้ชีวิตร่วมกันอย่างมีความสุขอีกครั้ง ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาฉันได้สัญญาว่าใครที่ฉันรู้ว่ามีปัญหาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ฉันก็จะช่วยคนดังกล่าวโดยการแนะนำให้เขาเป็นครูผู้ชำเถียงในการสะกดเฉพาะที่แท้จริงและทรงพลังที่ช่วยฉันด้วยปัญหาของตัวเอง อีเมล์: drogunduspellcaster@gmail.com คุณสามารถส่งอีเมลถึงเขาได้หากคุณต้องการความช่วยเหลือในความสัมพันธ์หรือกรณีอื่น ๆ

    1) รักคาถา
    2) Lost Love Spells
    3) การหย่าร้าง
    4) เวทมนตร์สมรส
    5) มัดสะกด
    6) คาถา Breakup
    7) ขับไล่คนที่ผ่านมา
    8. ) คุณต้องการได้รับการเลื่อนตำแหน่งในการสะกดของสำนักงาน / สลากกินแบ่งของคุณ
    9) ต้องการที่จะตอบสนองความรักของคุณ
    ติดต่อคนที่ยิ่งใหญ่นี้หากคุณมีปัญหาใด ๆ สำหรับโซลูชันที่ยั่งยืน
    ผ่าน DR ODOGBO34@GMAIL.COM

    ตอบลบ
  2. ฉันต้องการบอกให้โลกรู้อย่างรวดเร็วว่ามีลูกล้อคาถาออนไลน์ที่ทรงพลังและเป็นของแท้มากชื่อของเขาคือดร. edede เขาช่วยให้ฉันรวมตัวกับความสัมพันธ์ของฉันกับ hubby ที่ทิ้งฉันเมื่อไม่นานมานี้เมื่อฉันติดต่อดร. edede เขาได้สะกดความรักให้ฉันและ hubby ของฉันก็โทรหาฉันหลังจากผ่านไป 2 วันและเริ่มขอร้องให้ฉันกลับมาในชีวิต ... เรากลับมาแล้วในตอนนี้ด้วยความรักและการเอาใจใส่มากมาย วันนี้ฉันดีใจที่จะให้คุณทุกคนรู้ว่าลูกล้อสะกดนี้มีอำนาจในการคืนค่าความสัมพันธ์ที่หักกลับมาเพราะตอนนี้ฉันมีความสุขกับ hubby ของฉัน ... หากมีใครออกมีที่อ่านบทความนี้และต้องการความช่วยเหลือใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ ปัญหาด้านล่างนี้ยังสามารถติดต่อดร. edede เพื่อขอความช่วยเหลือในปัญหาดังต่อไปนี้: (1) การรักษาโรคทุกประเภท (2) คดีในศาล (3) คาถาการตั้งครรภ์ (4) การป้องกันทางจิตวิญญาณ (5) การรักษาโรคมะเร็ง (6) สำหรับโรคเริม (7) รักษาโรคเอดส์และอื่น ๆ อีกมากมาย ... คุณสามารถติดต่อเขาทางอีเมลของเขา: ededetemple@gmail.com หรือโทร / WhatsApp ด้วยหมายเลขโทรศัพท์มือถือของเขาที่ +38972751056

    ตอบลบ

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

การนอน มานุษยวิทยาและนักมานุษยวิทยา โดย นัฐวุฒิ สิงห์กุล

 เข้านี้หลังจากตื่นนอน อยากเขียนการนอนในมิติทางมานุษยวิทยากับนักมานุษยวิทยา...    ผมเริ่มต้นกับการลองตั้งคำถามเพื่อหาความรู้เกี่ยวกับการนอนว่า อะไรคือการนอน ทำไมต้องนอน นอนที่ไหน นอนเมื่อไหร่ นอนอย่างไร นอนกับใคร นอนเพื่ออะไรและอื่นๆ..เพื่อจะได้รู้ความสัมพันธ์ของการนอนในมิติต่างๆ การนอนของสิ่งมีชีวิตชนิดอื่นๆแตกต่างจากมนุษย์หรือไม่    หากเปรียบเทียบการนอนของ มนุษย์กับสัตว์สปีชี่ส์อื่นมีการนอนต่างกันหรือเหมือนดันอย่างไร ตัวอย่างเช่น ยีราฟจะนอนครั้งละ 10 นาที รวมระยะเวลานอนทั้งหมด 4.6 ชั่วโมงต่อวัน สัตว์จำพวกค้างคาว และเม่นมีการนอนมากกว่าสัตว์อื่นๆเพราะใช้เวลานอน 17-20ชั่วโมงต่อวัน    สำหรับมนุษย์ การนอนคือส่วนสำคัญอย่างหนึ่งในประสบการณ์ของมนุษย์ การสำรวจการนอนข้ามวัฒนธรรมน่าจะทำให้เราเข้าใจความหมายและปฎิบัติการของการนอนที่มีความซับซ้อนมากขึ้น..     การนอนอาจจะเป็นเรื่องของทางเลือก แต่เป็นทางเลือกที่อาจถูกควบคุมบังคับ โดยโครงสร้างทางสังคมวัฒนธรรม นอนเมื่อไหร่ นอนเท่าไหร่ นอนที่ไหน นอนอย่างไร และนอนกับใคร..     ในสังคมตะวันตก อุดมคติเก...

Biomedical Model และ Bio-Psycho-social Mode

(1)        อะไรคือ Biomedical Model และ Bio-Psycho-social Model ? แนวคิดแบบจำลองทางชีวะการแพทย์ ( Biomeaical Model ) เริ่มต้นในช่วงกลางศตวรรษที่ 19 ที่ความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์และการแพทย์มีการพัฒนาอย่างเติบโตรวดเร็วและกว้างขวาง การค้นพบเครื่องมือทางการแพทย์ที่ทันสมัยอย่างกล้องจุลทรรศน์ ทำให้มนุษย์ได้เห็นสิ่งที่ไม่เคยเห็น แม้แต่สิ่งที่เล็กที่สุดในร่างกายของมนุษย์ รวมถึงเชื้อโรคหรือสิ่งแปลกปลอมต่างๆที่เข้าสู่ร่างกายของมนุษย์ ซึ่งเป็นสิ่งที่แพทย์ใช้วินิจฉัยสาเหตุของโรคและความเจ็บป่วย แบบจำลองนี้ ดังนั้นแบบจำลองนี้เสนอว่า โรคหรือความผิดปกติทางกาย( Physiology )ซึ่งเกิดจากการบาดเจ็บ ความผิดปกติของพันธุกรรม ( Abnomal Genetics ) ความไม่สมดุลทางชีวะเคมี ( Biochemistry ) เรื่องของพยาธิวิทยา ( Pathology )   แบคทีเรีย หรือไวรัส หรือสิ่งอื่นๆที่คล้ายคลึงกันที่นำไปสู่การติดเชื้อและความเจ็บป่วยของมนุษย์ ซึ่งแนวคิดดังกล่าวนี้ไม่ได้อธิบายบทบาทของปัจจัยทางสังคม( The role of Social factors )หรือความคิดของปัจเจกบุคคล  ( Individual Subjectivity ) โดยแบบจำลองทางชีวะ...

เฟอร์ดิน็องต์ เดอร์ โซซูร์

เฟอร์ดิน็องต์ เดอร์ โซซูร์ (1857-1923) นักภาษาศาสตร์ชาวสวิสเซอร์แลนด์ เป็นผู้มีบทบาทอย่างสำคัญในประวัติศาสตร์ของพวกโครงสร้างนิยม   ที่มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาสัญวิทยาในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 และช่วงต้นศตวรรษที่ 20 โดยเฉพาะการเคลื่อนไหวของ เลวี่ สเตร๊าท์ (Levi-Strauss) ชาร์ค ลากอง (Jacques Lacan) และ โรล็องต์ บาร์ธ (Roland Barthes) รวมถึง มิเชล ฟูโก้ (Micheal Foucault) ที่ได้กลับมาวางรางฐานและปฎิเสธเกี่ยวกับโครงสร้างนิยม ภายใต้ทิศทางใหม่ของหลังโครงสร้างนิยม (Post-Structuralism) ในคำบรรยายเริ่มแรกของเขาที่มหาวิทยาลัยเจนีวา ในช่วงปี 1906-1911 และการตีพิมพ์โครงร่างงานของเขาที่เขียนไว้ และคำบรรยายของเขาที่ลูกศิษย์ได้รวบรวมไว้ ภายหลังการมรณกรรมของเขาเมื่อปี 1915-1916   ภายใต้ชื่อ Course de linguistique   Generale ซึ่งถูกแปลเป็นภาษาอังกฤษและเผยแพร่ในยุโรป ภายใต้ชื่อ Course in general linguistic ในปี 1960 เขาได้นำเสนอความคิดว่า การศึกษาภาษาศาสตร์ในปัจจุบัน สามารถศึกษาได้อย่างเป็นวิทยาศาสตร์ ซึ่งน่าจะได้รับอิทธิพลจากอีมิล เดอร์ไคม์ (Emile D...