ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

เรียนมหาวิทยาลัย(7)


เมื่อกลับไปที่มหาวิทยาลัย หนิงหายไปหลายวัน เพื่อนๆบอกผมว่า หนิงไม่สบายเป็นไข้หวัด เนื่องจากผมมาหาหนิงเพื่อจะทำตามสัญญาว่าจะเลี้ยงข้าวหนิงเป็นการตอบแทนที่ลงมาข้างล่างเป็นเพื่อนผมหลายกิโลเมตรเพื่อเอาจดหมายกลับไป แต่ก็ได้ข่าวร้ายว่า หนิงนอนป่วยอยู่ที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์ หมอบอกว่าหนิงเป็นไข้ มาเลเรีย ผมกับปีโป้ไปเยี่ยมหนิงที่โรงพยาบาลผมยกมือไหว้แม่ของหนิง และแนะนำตัวว่าผมไปออกภาคสนามกับหนิง แม่ของหนิงถามผมว่าหนิงจะจบไหมเพราะป่วย ผมตอบแกกลับไปว่า จบแน่นอนแม่ ตอนนี้เหลือแค่การเขียนสารนิพนธ์ ถ้าหนิงหายก็จะกลับไปเขียนและส่งผ่านจบการศึกษาได้
ตอนนั้นหนิงนอนป่วย แต่ยังห่วงเพื่อน พร้อมทั้งชี้ให้ผมกินส้มเขียวหวานที่มีคนเอามาเยี่ยม ผมขอบคุณและบอกว่าหนิงควรจะกินเยอะนะเพราะหนิงป่วย หายเร็วๆ แล้วจะทำอย่างที่คุยกันไว้ ว่าต้องช่วยให้หนิงสวย หนิงยิ้มเล็กน้อยและบอกว่าตอนนี้กินน้ำหรืออะไรไม่ได้แสบคอไปหมด หนิงเล่าว่าตอนแรกนึกว่าเป็นหวัดธรรมดา สองสามวันอาการดีขึ้นนึกว่าไม่เป็นอะไรเลยสระผม เพื่ออกไปกินข้าวกับเพื่อน ต่อมาอาการก็ทรุดลงก็เลยต้องมานอนที่โรงพยาบาล ผมบอกหนิงให้หายเร็วๆและจะมาเยี่ยมใหม่ ผมยกมือไหว้ลาแม่ของหนิงและกลับหอไปด้วยความวิตกเกี่ยวกับอาการของหนิงที่ดูไม่ค่อยดีนัก
จากนั้นไม่กี่วันก็ได้ยินว่าอาการหนิงทรุดหนัก มาเลเรียขึ้นสมอง และหนิงและต้องการยาฉีดควินินซึ่งโรงพยาบาลมีไม่พอเนื่องจากโรคนี้ไม่ค่อยมีคนเป็น รวมถึงเพื่อนคนอื่นๆที่ไปออกภาคสนามด้วยกัน เริ่มมีการติดเชื้อมาเลเรียและป่วยจนต้องเข้าโรงพยาบาลกันโดยเฉพาะอ้อมช่าช่า และจิ๋ม ซึ่งผมต้องติดต่อพ่อแม่ของอ้อมช่าช่าบอกข่าวให้พวกท่านรู้ รวมถึงกรณีของหนิงที่หมอบอกว่าตอนนี้ยาที่มีในโรงพยาบาลกำลังจะหมดต้องไปหาซื้อที่โรงพยาบาลศูนย์ขอนแก่น ผมกับปีโป้รีบขับรถไปที่โรงพยาบาลเพื่อขอซื้อยามาฉีดให้หนิง ผมกับปีโป้ไม่รู้เราต้องเดินไปหลายแผนกและต้องให้แพทย์สั่งยานี้ซึ่งมีอยู่ไม่มาก ผมบอกเภสัชกรว่าขอความกรุณาขอซื้อยาชนิดนี้ด้วย เพราะเพื่อนผมกำลังป่วยหนักต้องการยานี้ จนได้มา 3 หลอด เพื่อให้หมอฉีดให้กับหนิง แม้รู้ว่าอาจจะสายไปเสียแล้ว...

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

การนอน มานุษยวิทยาและนักมานุษยวิทยา โดย นัฐวุฒิ สิงห์กุล

 เข้านี้หลังจากตื่นนอน อยากเขียนการนอนในมิติทางมานุษยวิทยากับนักมานุษยวิทยา...    ผมเริ่มต้นกับการลองตั้งคำถามเพื่อหาความรู้เกี่ยวกับการนอนว่า อะไรคือการนอน ทำไมต้องนอน นอนที่ไหน นอนเมื่อไหร่ นอนอย่างไร นอนกับใคร นอนเพื่ออะไรและอื่นๆ..เพื่อจะได้รู้ความสัมพันธ์ของการนอนในมิติต่างๆ การนอนของสิ่งมีชีวิตชนิดอื่นๆแตกต่างจากมนุษย์หรือไม่    หากเปรียบเทียบการนอนของ มนุษย์กับสัตว์สปีชี่ส์อื่นมีการนอนต่างกันหรือเหมือนดันอย่างไร ตัวอย่างเช่น ยีราฟจะนอนครั้งละ 10 นาที รวมระยะเวลานอนทั้งหมด 4.6 ชั่วโมงต่อวัน สัตว์จำพวกค้างคาว และเม่นมีการนอนมากกว่าสัตว์อื่นๆเพราะใช้เวลานอน 17-20ชั่วโมงต่อวัน    สำหรับมนุษย์ การนอนคือส่วนสำคัญอย่างหนึ่งในประสบการณ์ของมนุษย์ การสำรวจการนอนข้ามวัฒนธรรมน่าจะทำให้เราเข้าใจความหมายและปฎิบัติการของการนอนที่มีความซับซ้อนมากขึ้น..     การนอนอาจจะเป็นเรื่องของทางเลือก แต่เป็นทางเลือกที่อาจถูกควบคุมบังคับ โดยโครงสร้างทางสังคมวัฒนธรรม นอนเมื่อไหร่ นอนเท่าไหร่ นอนที่ไหน นอนอย่างไร และนอนกับใคร..     ในสังคมตะวันตก อุดมคติเก...

เฟอร์ดิน็องต์ เดอร์ โซซูร์

เฟอร์ดิน็องต์ เดอร์ โซซูร์ (1857-1923) นักภาษาศาสตร์ชาวสวิสเซอร์แลนด์ เป็นผู้มีบทบาทอย่างสำคัญในประวัติศาสตร์ของพวกโครงสร้างนิยม   ที่มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาสัญวิทยาในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 และช่วงต้นศตวรรษที่ 20 โดยเฉพาะการเคลื่อนไหวของ เลวี่ สเตร๊าท์ (Levi-Strauss) ชาร์ค ลากอง (Jacques Lacan) และ โรล็องต์ บาร์ธ (Roland Barthes) รวมถึง มิเชล ฟูโก้ (Micheal Foucault) ที่ได้กลับมาวางรางฐานและปฎิเสธเกี่ยวกับโครงสร้างนิยม ภายใต้ทิศทางใหม่ของหลังโครงสร้างนิยม (Post-Structuralism) ในคำบรรยายเริ่มแรกของเขาที่มหาวิทยาลัยเจนีวา ในช่วงปี 1906-1911 และการตีพิมพ์โครงร่างงานของเขาที่เขียนไว้ และคำบรรยายของเขาที่ลูกศิษย์ได้รวบรวมไว้ ภายหลังการมรณกรรมของเขาเมื่อปี 1915-1916   ภายใต้ชื่อ Course de linguistique   Generale ซึ่งถูกแปลเป็นภาษาอังกฤษและเผยแพร่ในยุโรป ภายใต้ชื่อ Course in general linguistic ในปี 1960 เขาได้นำเสนอความคิดว่า การศึกษาภาษาศาสตร์ในปัจจุบัน สามารถศึกษาได้อย่างเป็นวิทยาศาสตร์ ซึ่งน่าจะได้รับอิทธิพลจากอีมิล เดอร์ไคม์ (Emile D...

Biomedical Model และ Bio-Psycho-social Mode

(1)        อะไรคือ Biomedical Model และ Bio-Psycho-social Model ? แนวคิดแบบจำลองทางชีวะการแพทย์ ( Biomeaical Model ) เริ่มต้นในช่วงกลางศตวรรษที่ 19 ที่ความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์และการแพทย์มีการพัฒนาอย่างเติบโตรวดเร็วและกว้างขวาง การค้นพบเครื่องมือทางการแพทย์ที่ทันสมัยอย่างกล้องจุลทรรศน์ ทำให้มนุษย์ได้เห็นสิ่งที่ไม่เคยเห็น แม้แต่สิ่งที่เล็กที่สุดในร่างกายของมนุษย์ รวมถึงเชื้อโรคหรือสิ่งแปลกปลอมต่างๆที่เข้าสู่ร่างกายของมนุษย์ ซึ่งเป็นสิ่งที่แพทย์ใช้วินิจฉัยสาเหตุของโรคและความเจ็บป่วย แบบจำลองนี้ ดังนั้นแบบจำลองนี้เสนอว่า โรคหรือความผิดปกติทางกาย( Physiology )ซึ่งเกิดจากการบาดเจ็บ ความผิดปกติของพันธุกรรม ( Abnomal Genetics ) ความไม่สมดุลทางชีวะเคมี ( Biochemistry ) เรื่องของพยาธิวิทยา ( Pathology )   แบคทีเรีย หรือไวรัส หรือสิ่งอื่นๆที่คล้ายคลึงกันที่นำไปสู่การติดเชื้อและความเจ็บป่วยของมนุษย์ ซึ่งแนวคิดดังกล่าวนี้ไม่ได้อธิบายบทบาทของปัจจัยทางสังคม( The role of Social factors )หรือความคิดของปัจเจกบุคคล  ( Individual Subjectivity ) โดยแบบจำลองทางชีวะ...