ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

เริ่มจากห้องแถว(23)


การเล่นอังกะลุง
“โด เรโด เร มีโด โด ซีโดซีโดมีเร เรมีเรมีโด”เสียงท่อนโน้ตเพลงสรรเสริญพระบารมี รวมถึงเพลงชาติที่ผมท่อง เพื่อเอาไปฝึกซ้อมอังกะลุงกับเพื่อนๆในโรงเรียน  โรงเรียนเราเป็นโรงเรียนเล็กๆ ชื่อชุมชนโนนสูงน้ำคำ เป็นเรือนไม้สองชั้น ที่ทุกเช้าและเย็นผมต้องทำความสะอาดโดยใช้แว็กหรือซื้อน้ำมันก๊าซกับขี้ผึ้งมาต้ม เพื่อทำแว็ก โดยใช้กะลามะพร้าวผ่าครึ่งซีกเอาแว็กจำนวนหนึ่งแต้มที่กาบมะพร้าวแล้วถูพื้นไม้บริเวณอาคารเรียนให้มันขึ้นเงา ซึ่งผมจะสนุกมากเวลาขัดห้องเพราะพื้นจะเป็นแนวยาว เวลาขัดจะกดกะลาลงแล้วใช้มือไสไปตามพื้นกระดาน มันจะเลื่อนเหมือนเล่นสกี ผมทำทุกเช้าเย็นตามเวรที่ได้รับ
การเรียนในโรงเรียนสนุก มีกิจกรรมต่างๆเยอะ ทั้งไหว้ครู สวดมนต์ไหว้พระ มีการทำความสะอาดโรงเรียน รวมถึงการไปทัศนศึกษา กีฬาสีของโรงเรียน ผมเล่นกีฬาไม่เก่ง มีครั้งหนึ่งผมได้เล่นฟุตบอลและพ่อไปดูด้วย ผมเล่นตำแหน่งแบล็ค มีครั้งหนึ่งมีลูกโด่งโยนมา ผมใช้มือปัดบอลด้วยความตกใจ ทำให้ต้องเสียจุดโทษ ซึ่งเป็นความผิดของผม จากนั้นผมก็ไม่เล่นอีกเลย และมาเอาดีทางดนตรี ที่เรียกว่าอังกะลุงซึ่งผมเล่นโน๊ตโดกับเร ผมก็ต้องท่องโน้ตเพื่อจำช่วงที่ผมจะต้องเขย่าให้แม่นเพื่อให้ผสมกันเป็นเพลง โรงเรียนเราเป็นโรงเรียนเล็กๆไม่มีวงโยธวาธิต มีแค่กลองแต๊ก กลองใหญ่ ฉิ่ง ฉาบและอังกะลุง
ผมเป็นเด็กค่อนข้างเรียบร้อย ขี้อาย มีครั้งหนึ่งที่มีกลุ่มเพื่อนผู้หญิงมาหาผมที่บ้าน ผมรีบวิ่งไปหลบที่ท่อน้ำและกลับมาช่วงเย็น พอกลับมาก็โดนพ่อแม่ว่าเสียมารยาท มีเพื่อนมาหากลับหลบหน้าวิ่งหนี ผมเคยเป็นตัวแทนประกวดมารยาทระดับเขตหลายครั้ง เพราะว่าผมได้รางวัลชนะเลิศในระดับโรงเรียนมาตลอดตั้งแต่ป.1-ป.4 ผมต้องฝึกฝนทั้งการเดิน การนั่ง การไหว้ประเภทต่างๆ เช่น ไหว้ผู้ใหญ่ ไหว้คนเสมอกัน ไหว้พระ การกราบแบบเบญจางคประดิษฐ์ การกราบศพ การถวายบังคมและอื่นๆ ซึ่งทำให้ผมรู้ว่าการเรียนนอกจากทฤษฎี ยังมีการปฏิบัติรวมทั้งการปฎิบัติในเรื่องมารยาทอย่างนี้ก็สามารถแข่งขันกันได้ด้วย

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

การนอน มานุษยวิทยาและนักมานุษยวิทยา โดย นัฐวุฒิ สิงห์กุล

 เข้านี้หลังจากตื่นนอน อยากเขียนการนอนในมิติทางมานุษยวิทยากับนักมานุษยวิทยา...    ผมเริ่มต้นกับการลองตั้งคำถามเพื่อหาความรู้เกี่ยวกับการนอนว่า อะไรคือการนอน ทำไมต้องนอน นอนที่ไหน นอนเมื่อไหร่ นอนอย่างไร นอนกับใคร นอนเพื่ออะไรและอื่นๆ..เพื่อจะได้รู้ความสัมพันธ์ของการนอนในมิติต่างๆ การนอนของสิ่งมีชีวิตชนิดอื่นๆแตกต่างจากมนุษย์หรือไม่    หากเปรียบเทียบการนอนของ มนุษย์กับสัตว์สปีชี่ส์อื่นมีการนอนต่างกันหรือเหมือนดันอย่างไร ตัวอย่างเช่น ยีราฟจะนอนครั้งละ 10 นาที รวมระยะเวลานอนทั้งหมด 4.6 ชั่วโมงต่อวัน สัตว์จำพวกค้างคาว และเม่นมีการนอนมากกว่าสัตว์อื่นๆเพราะใช้เวลานอน 17-20ชั่วโมงต่อวัน    สำหรับมนุษย์ การนอนคือส่วนสำคัญอย่างหนึ่งในประสบการณ์ของมนุษย์ การสำรวจการนอนข้ามวัฒนธรรมน่าจะทำให้เราเข้าใจความหมายและปฎิบัติการของการนอนที่มีความซับซ้อนมากขึ้น..     การนอนอาจจะเป็นเรื่องของทางเลือก แต่เป็นทางเลือกที่อาจถูกควบคุมบังคับ โดยโครงสร้างทางสังคมวัฒนธรรม นอนเมื่อไหร่ นอนเท่าไหร่ นอนที่ไหน นอนอย่างไร และนอนกับใคร..     ในสังคมตะวันตก อุดมคติเก...

เฟอร์ดิน็องต์ เดอร์ โซซูร์

เฟอร์ดิน็องต์ เดอร์ โซซูร์ (1857-1923) นักภาษาศาสตร์ชาวสวิสเซอร์แลนด์ เป็นผู้มีบทบาทอย่างสำคัญในประวัติศาสตร์ของพวกโครงสร้างนิยม   ที่มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาสัญวิทยาในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 และช่วงต้นศตวรรษที่ 20 โดยเฉพาะการเคลื่อนไหวของ เลวี่ สเตร๊าท์ (Levi-Strauss) ชาร์ค ลากอง (Jacques Lacan) และ โรล็องต์ บาร์ธ (Roland Barthes) รวมถึง มิเชล ฟูโก้ (Micheal Foucault) ที่ได้กลับมาวางรางฐานและปฎิเสธเกี่ยวกับโครงสร้างนิยม ภายใต้ทิศทางใหม่ของหลังโครงสร้างนิยม (Post-Structuralism) ในคำบรรยายเริ่มแรกของเขาที่มหาวิทยาลัยเจนีวา ในช่วงปี 1906-1911 และการตีพิมพ์โครงร่างงานของเขาที่เขียนไว้ และคำบรรยายของเขาที่ลูกศิษย์ได้รวบรวมไว้ ภายหลังการมรณกรรมของเขาเมื่อปี 1915-1916   ภายใต้ชื่อ Course de linguistique   Generale ซึ่งถูกแปลเป็นภาษาอังกฤษและเผยแพร่ในยุโรป ภายใต้ชื่อ Course in general linguistic ในปี 1960 เขาได้นำเสนอความคิดว่า การศึกษาภาษาศาสตร์ในปัจจุบัน สามารถศึกษาได้อย่างเป็นวิทยาศาสตร์ ซึ่งน่าจะได้รับอิทธิพลจากอีมิล เดอร์ไคม์ (Emile D...

Biomedical Model และ Bio-Psycho-social Mode

(1)        อะไรคือ Biomedical Model และ Bio-Psycho-social Model ? แนวคิดแบบจำลองทางชีวะการแพทย์ ( Biomeaical Model ) เริ่มต้นในช่วงกลางศตวรรษที่ 19 ที่ความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์และการแพทย์มีการพัฒนาอย่างเติบโตรวดเร็วและกว้างขวาง การค้นพบเครื่องมือทางการแพทย์ที่ทันสมัยอย่างกล้องจุลทรรศน์ ทำให้มนุษย์ได้เห็นสิ่งที่ไม่เคยเห็น แม้แต่สิ่งที่เล็กที่สุดในร่างกายของมนุษย์ รวมถึงเชื้อโรคหรือสิ่งแปลกปลอมต่างๆที่เข้าสู่ร่างกายของมนุษย์ ซึ่งเป็นสิ่งที่แพทย์ใช้วินิจฉัยสาเหตุของโรคและความเจ็บป่วย แบบจำลองนี้ ดังนั้นแบบจำลองนี้เสนอว่า โรคหรือความผิดปกติทางกาย( Physiology )ซึ่งเกิดจากการบาดเจ็บ ความผิดปกติของพันธุกรรม ( Abnomal Genetics ) ความไม่สมดุลทางชีวะเคมี ( Biochemistry ) เรื่องของพยาธิวิทยา ( Pathology )   แบคทีเรีย หรือไวรัส หรือสิ่งอื่นๆที่คล้ายคลึงกันที่นำไปสู่การติดเชื้อและความเจ็บป่วยของมนุษย์ ซึ่งแนวคิดดังกล่าวนี้ไม่ได้อธิบายบทบาทของปัจจัยทางสังคม( The role of Social factors )หรือความคิดของปัจเจกบุคคล  ( Individual Subjectivity ) โดยแบบจำลองทางชีวะ...