แนวคิดเรื่อง พื้นที่ (Space) ของ Henri Lefebvre เป็นหนึ่งในทฤษฎีที่สำคัญในการศึกษาสังคมวิทยาและภูมิศาสตร์ โดย Lefebvre เสนอว่าพื้นที่ไม่ใช่สิ่งที่ว่างเปล่าหรือเป็นกลาง แต่เป็นผลลัพธ์ของความสัมพันธ์ทางสังคม เศรษฐกิจ และวัฒนธรรมที่ซับซ้อน พื้นที่ถูกผลิตขึ้นผ่านกระบวนการทางสังคม และการเข้าใจพื้นที่ต้องคำนึงถึงบริบททางสังคมและการเมืองที่เกิดขึ้น แนวคิดของ Lefebvre นี้เรียกว่า The Production of Space ซึ่งประกอบไปด้วย 3 มิติสำคัญ:
1. Perceived Space– พื้นที่ที่รับรู้
Perceived Space คือพื้นที่ที่รับรู้ผ่านการใช้ในชีวิตประจำวัน เป็นพื้นที่ที่คนทั่วไปใช้ทำกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การเดินทาง การทำงาน การอยู่อาศัย Lefebvre มองว่าพื้นที่ที่รับรู้นี้คือพื้นที่ที่สามารถสังเกตได้ง่ายผ่านประสบการณ์และประสาทสัมผัส เช่น อาคาร ถนน สวนสาธารณะ ฯลฯ พื้นที่นี้มักถูกควบคุมโดยกฎระเบียบหรือกฎหมายของสังคม
2. Conceived Space– พื้นที่ที่ถูกออกแบบ
Conceived Space คือพื้นที่ที่ถูกสร้างขึ้นหรือออกแบบโดยผู้มีอำนาจและนักวางแผน เช่น นักผังเมือง สถาปนิก หรือรัฐ พื้นที่นี้สะท้อนถึงอุดมการณ์ ความคิด และบรรทัดฐานทางสังคมของผู้สร้าง Lefebvre มองว่าพื้นที่นี้เป็นภาพสะท้อนของโครงสร้างอำนาจในสังคม เช่น การจัดผังเมืองที่กำหนดว่าพื้นที่ไหนจะถูกใช้สำหรับอะไร หรือการสร้างอาคารที่แสดงถึงอำนาจและอิทธิพลทางเศรษฐกิจและการเมือง
3. Lived Space – พื้นที่ที่ใช้ชีวิตจริง
Lived Space คือพื้นที่ที่มีชีวิตและความหมายส่วนบุคคล เป็นพื้นที่ที่คนแสดงอัตลักษณ์ ความรู้สึก และความทรงจำของตนเอง พื้นที่นี้ไม่สามารถถูกควบคุมได้ง่าย ๆ เพราะมันถูกเติมเต็มด้วยประสบการณ์และการแสดงออกของผู้คน Lived Space มักสะท้อนถึงการต่อสู้เพื่ออิสรภาพและการต่อต้านอำนาจที่ควบคุม Conceived Space เช่น การใช้พื้นที่ในรูปแบบที่ไม่เป็นไปตามการออกแบบเดิม เช่น การใช้พื้นที่สาธารณะสำหรับการประท้วง
การผลิตพื้นที่ทางสังคม Lefebvre เชื่อว่าพื้นที่เป็นผลผลิตทางสังคม (Social Production of Space) ซึ่งเกิดจากกระบวนการที่คนในสังคมมีปฏิสัมพันธ์กับพื้นที่ ไม่ใช่แค่ผลของธรรมชาติหรือการออกแบบทางกายภาพ พื้นที่ไม่ได้เป็นสิ่งที่คงที่ แต่มันถูกผลิตและแปรเปลี่ยนตามบริบททางสังคมและเศรษฐกิจ
พื้นที่และอำนาจ (Space and Power) Lefebvre ยังเน้นว่า พื้นที่เป็นสถานที่ของการต่อสู้ทางอำนาจ โดยผู้มีอำนาจมักใช้พื้นที่เพื่อควบคุมหรือกำหนดกฎเกณฑ์ต่าง ๆ เช่น การจัดโซนนิ่ง การวางผังเมือง การสร้างพื้นที่ส่วนตัวหรือพื้นที่สาธารณะ ขณะเดียวกันกลุ่มคนในสังคมที่ถูกกดดันหรือกลุ่มชนชั้นล่างจะใช้พื้นที่เพื่อท้าทายอำนาจนั้น เช่น การครอบครองพื้นที่สาธารณะเพื่อประท้วงหรือสร้างพื้นที่ที่เป็นที่ยอมรับของกลุ่มชนกลุ่มน้อย
ตัวอย่างการใช้แนวคิด Lefebvre ในเรื่องของเมืองและผังเมือง ผ่านการออกแบบเมืองเป็นตัวอย่างของ Conceived Space ที่มักสะท้อนถึงความคิดและอำนาจของรัฐบาลหรือชนชั้นนำ ขณะที่พื้นที่ในเมืองอาจถูกใช้ในรูปแบบที่ไม่คาดคิดโดยผู้คนในชีวิตประจำวัน เช่น การสร้างตลาดนัด การรวมตัวกันในพื้นที่สาธารณะเพื่อกิจกรรมต่าง ๆ ซึ่งเป็นตัวอย่างของ Lived Space การประท้วงในพื้นที่สาธารณะ พื้นที่สาธารณะ เช่น สวนสาธารณะหรือจัตุรัสกลางเมือง ถูกมองว่าเป็นพื้นที่ที่รัฐควบคุมผ่านกฎหมาย แต่ในเวลาเดียวกันมันยังเป็นพื้นที่ที่ผู้คนสามารถแสดงออกถึงอำนาจและอัตลักษณ์ของตนได้ เช่น การประท้วงทางการเมืองที่เกิดขึ้นในพื้นที่เหล่านี้
สรุปแนวคิดของ Lefebvre
1. พื้นที่ไม่ได้เป็นสิ่งที่เป็นกลาง แต่ถูกสร้างขึ้นผ่านกระบวนการทางสังคม
2. พื้นที่มี 3 มิติ คือพื้นที่ที่ถูกรับรู้ ถูกออกแบบ และถูกใช้ชีวิตจริง
3. พื้นที่เป็นสถานที่ของการต่อสู้และการเจรจาทางอำนาจ
4. พื้นที่ถูกแปรเปลี่ยนได้ตามบริบททางสังคม วัฒนธรรม และการเมือง การนำแนวคิดของ Lefebvre ไปศึกษาเรื่องต่าง ๆ จะช่วยทำให้เราเข้าใจว่า พื้นที่ในทุกบริบทนั้นมีความหมายและความซับซ้อนที่เกี่ยวข้องกับการสร้างความสัมพันธ์ทางอำนาจ การควบคุม และการแสดงออกทางอัตลักษณ์
เข้านี้หลังจากตื่นนอน อยากเขียนการนอนในมิติทางมานุษยวิทยากับนักมานุษยวิทยา... ผมเริ่มต้นกับการลองตั้งคำถามเพื่อหาความรู้เกี่ยวกับการนอนว่า อะไรคือการนอน ทำไมต้องนอน นอนที่ไหน นอนเมื่อไหร่ นอนอย่างไร นอนกับใคร นอนเพื่ออะไรและอื่นๆ..เพื่อจะได้รู้ความสัมพันธ์ของการนอนในมิติต่างๆ การนอนของสิ่งมีชีวิตชนิดอื่นๆแตกต่างจากมนุษย์หรือไม่ หากเปรียบเทียบการนอนของ มนุษย์กับสัตว์สปีชี่ส์อื่นมีการนอนต่างกันหรือเหมือนดันอย่างไร ตัวอย่างเช่น ยีราฟจะนอนครั้งละ 10 นาที รวมระยะเวลานอนทั้งหมด 4.6 ชั่วโมงต่อวัน สัตว์จำพวกค้างคาว และเม่นมีการนอนมากกว่าสัตว์อื่นๆเพราะใช้เวลานอน 17-20ชั่วโมงต่อวัน สำหรับมนุษย์ การนอนคือส่วนสำคัญอย่างหนึ่งในประสบการณ์ของมนุษย์ การสำรวจการนอนข้ามวัฒนธรรมน่าจะทำให้เราเข้าใจความหมายและปฎิบัติการของการนอนที่มีความซับซ้อนมากขึ้น.. การนอนอาจจะเป็นเรื่องของทางเลือก แต่เป็นทางเลือกที่อาจถูกควบคุมบังคับ โดยโครงสร้างทางสังคมวัฒนธรรม นอนเมื่อไหร่ นอนเท่าไหร่ นอนที่ไหน นอนอย่างไร และนอนกับใคร.. ในสังคมตะวันตก อุดมคติเก...
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น