เช้านี้เริ่มกิจกรรมต่อกับการเขียนข้อเสนอโครงการ ….ผมมาย้อนดูตัวเองถ้าเรามีวิธีคิด มีไอเดียในหัว จะอธิบายบางเรื่องผ่านแง่มุมให้มันน่าสนใจอะไรก็ได้ เช่น เรื่องพื้นที่สร้างสรรค์ การมองกิจกรรมที่เกิดขึ้นของเด็กๆ กับแนวคิด The production of space ของ Henry Lefebvre…
แนวคิดของ Henri Lefebvre เกี่ยวกับเวลาและพื้นที่ เช่นแนวคิดเกี่ยวกับการผลิตพื้นที่ทางสังคม (The Production of Space) โดยLefebvre มองว่าพื้นที่ (space) ไม่ใช่แค่พื้นที่ว่างทางกายภาพที่ไม่เกี่ยวข้องกับสังคม แต่เป็นสิ่งที่ถูกผลิตขึ้นโดยกระบวนการทางสังคม ซึ่งมีองค์ประกอบสำคัญดังนี้
1. พื้นที่ที่รับรู้ได้ (Perceived Space)
นี่คือพื้นที่ที่เราเห็นและประสบในชีวิตประจำวัน เป็นพื้นที่ที่เรารับรู้ผ่านประสบการณ์ทางกายภาพ เช่น ถนน อาคาร สวนสาธารณะ บ้าน โรงเรียน พื้นที่นี้เกี่ยวข้องกับการทำงานและการใช้ชีวิตประจำวันของเรา
2. พื้นที่ที่มีการแทนที่ (Representations of Space)
นี่คือพื้นที่ที่ถูกวางแผน ออกแบบ และจัดการโดยผู้มีอำนาจ เช่น นักวางแผนเมือง สถาปนิก และรัฐบาล เป็นพื้นที่ที่ถูกกำหนดโดยแนวคิดทางอุดมการณ์และอำนาจ พื้นที่นี้แสดงถึงการควบคุมและการจัดระเบียบทางสังคม
3. พื้นที่ที่มีชีวิต (Lived Space)
นี่คือพื้นที่ที่ผู้คนใช้ชีวิตจริงและเติมเต็มด้วยความหมายและความรู้สึก พื้นที่นี้เกี่ยวข้องกับประสบการณ์ส่วนบุคคลและความคิดสร้างสรรค์ มักจะเกี่ยวข้องกับวัฒนธรรม ศิลปะ และกิจกรรมที่มีความหมายเชิงสัญลักษณ์
ในหนังสือ The Production of Space ของ Henri Lefebvre มีตัวอย่างรูปธรรมหลายอย่างที่แสดงให้เห็นถึงการผลิตพื้นที่ทางสังคม (Social Production of Space) และการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างอำนาจ สังคม และพื้นที่ ดังนี้
1. การพัฒนาเมืองและการวางผังเมือง
Henry Lefebvre ยกตัวอย่างการพัฒนาเมืองและการวางผังเมืองที่สะท้อนถึงอุดมการณ์และผลประโยชน์ของผู้มีอำนาจ เช่น การสร้างถนน การแบ่งเขตพื้นที่ การสร้างอาคารสูง หรือโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัย การวางผังเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงการจัดการพื้นที่ทางกายภาพ แต่ยังสะท้อนถึงการควบคุมทางสังคมและเศรษฐกิจ
2. พื้นที่สาธารณะและพื้นที่ส่วนตัว
Henry Lefebvre พูดถึงการแบ่งแยกพื้นที่สาธารณะและพื้นที่ส่วนตัว เช่น สวนสาธารณะ, ถนน, และจัตุรัส ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ประชาชนสามารถเข้าถึงได้ กับพื้นที่ส่วนตัว เช่น บ้าน, สำนักงาน ซึ่งถูกควบคุมโดยเจ้าของหรือองค์กร การแบ่งแยกนี้สะท้อนถึงความสัมพันธ์ทางสังคมและอำนาจ
3. ศูนย์การค้าและพื้นที่เชิงพาณิชย์
การสร้างศูนย์การค้าและพื้นที่เชิงพาณิชย์แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงพื้นที่เพื่อผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ ศูนย์การค้าไม่ใช่แค่สถานที่ซื้อขายสินค้า แต่ยังเป็นพื้นที่ที่ส่งเสริมการบริโภคและการใช้ชีวิตตามแบบทุนนิยม
4. การใช้พื้นที่เพื่อการเมืองและการประท้วง
Henry Lefebvre กล่าวถึงการใช้พื้นที่ในการแสดงออกทางการเมืองและการประท้วง เช่น การชุมนุมในจัตุรัสหรือการเดินขบวนบนถนน ซึ่งเป็นตัวอย่างของการต่อสู้เพื่อควบคุมและปรับเปลี่ยนพื้นที่เพื่อสะท้อนอุดมการณ์หรือความต้องการของกลุ่มคน
5. การสร้างพื้นที่วัฒนธรรม
พื้นที่วัฒนธรรม เช่น พิพิธภัณฑ์, โรงละคร, และหอศิลป์ ถูกสร้างขึ้นเพื่อส่งเสริมวัฒนธรรมและอัตลักษณ์ทางสังคม พื้นที่เหล่านี้ไม่เพียงแต่เป็นที่จัดแสดงศิลปะและวัฒนธรรม แต่ยังเป็นพื้นที่ที่สร้างความหมายและคุณค่าทางสังคม
6. พื้นที่อุตสาหกรรมและพื้นที่อยู่อาศัย
การจัดการพื้นที่อุตสาหกรรมและพื้นที่อยู่อาศัยแสดงถึงการจัดระเบียบทางเศรษฐกิจและสังคม พื้นที่อุตสาหกรรมมักถูกจัดให้อยู่ห่างจากพื้นที่อยู่อาศัยเพื่อแยกการผลิตและการใช้ชีวิต แต่ในขณะเดียวกันก็สะท้อนถึงการแยกแยะชนชั้นและบทบาททางเศรษฐกิจ
ประเด็นเรื่องเวลาและพื้นที่ในทุนนิยม Henry Lefebvre เชื่อว่าทุนนิยมมีบทบาทสำคัญในการกำหนดเวลาและพื้นที่ โดยมี 2 ประเด็น คือ 1. การแปรสภาพของพื้นที่ (Spatialization) ในระบบทุนนิยม พื้นที่ถูกใช้เป็นทรัพยากรทางเศรษฐกิจ ซึ่งสามารถซื้อขายและแปรรูปได้ พื้นที่กลายเป็นสินค้าหนึ่งที่สามารถสร้างกำไรและผลประโยชน์ได้ 2. การควบคุมเวลา (Temporal Control) ทุนนิยมยังควบคุมเวลาในลักษณะที่สร้างประสิทธิภาพทางการผลิตและการบริโภค เวลาในที่นี้ไม่ใช่แค่ช่วงเวลาทางกายภาพ แต่รวมถึงการจัดการเวลาในการทำงาน การพักผ่อน และการใช้ชีวิต
นอกจากนี้ Henry Lefebvre ไม่เพียงแต่วิพากษ์ทุนนิยมเท่านั้น แต่ยังเสนอแนวทางในการสร้างสังคมที่ยุติธรรมและเท่าเทียมมากขึ้นด้วย โดยเขาเสนอว่า
1. การเรียกร้องพื้นที่ของประชาชน (Right to the City)
Lefebvre เสนอว่าทุกคนควรมีสิทธิ์ในการเข้าถึงและใช้ประโยชน์จากพื้นที่เมือง พื้นที่เมืองควรเป็นของประชาชนและเปิดโอกาสให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการตัดสินใจและการพัฒนาพื้นที่
2. การปลดปล่อยเวลาและพื้นที่ (Liberation of Space and Time)
Lefebvre เรียกร้องให้มีการปลดปล่อยพื้นที่และเวลาจากการควบคุมของทุนนิยม เพื่อให้ผู้คนสามารถใช้ชีวิตได้อย่างเสรีและสร้างสรรค์มากขึ้น
แนวคิดเหล่านี้ของ Lefebvre มีผลกระทบอย่างมากในหลายสาขาวิชา รวมถึงภูมิศาสตร์ การศึกษาเมือง สถาปัตยกรรม และสังคมวิทยา โดยการทำความเข้าใจและนำแนวคิดเหล่านี้ไปปรับใช้ เราสามารถวิเคราะห์และพัฒนาพื้นที่ในแบบที่ยุติธรรมและเท่าเทียมมากขึ้นได้
Henri Lefebvre มีผลงานหนังสือหลายเล่มที่มีอิทธิพลอย่างมากต่อทฤษฎีทางสังคมศาสตร์ ภูมิศาสตร์ และการศึกษาเมือง นี่คือหนังสือสำคัญบางเล่มของเขา:
หนังสือสำคัญของ Henri Lefebvre อาทิเช่น
1. The Production of Space (1974)
หนังสือเล่มนี้เป็นหนึ่งในผลงานที่มีชื่อเสียงที่สุดของ Lefebvre ซึ่งเขาได้วางแนวคิดเกี่ยวกับการผลิตพื้นที่ทางสังคม และวิพากษ์บทบาทของอำนาจและอุดมการณ์ในกระบวนการผลิตพื้นที่
2. Critique of Everyday Life (1947, 1961, 1981)
ถือเป็นชุดหนังสือสามเล่มที่ Lefebvre วิเคราะห์ชีวิตประจำวันของผู้คนในสังคมทุนนิยม โดยเน้นถึงการทำซ้ำของกิจวัตรและการแสวงหาความหมายในชีวิต
3. The Urban Revolution (1970)
ในหนังสือเล่มนี้ Lefebvre ได้กล่าวถึงการเปลี่ยนแปลงของเมืองในยุคทุนนิยม และวิเคราะห์ผลกระทบทางสังคมและการเมืองที่เกิดขึ้น
4. Rhythmanalysis: Space, Time and Everyday Life (1992) หนังสือเล่มนี้ Lefebvre และ Catherine Régulier ร่วมกันเขียนขึ้น ซึ่งนำเสนอแนวคิดเรื่องการวิเคราะห์จังหวะเวลาในชีวิตประจำวันและวิธีที่จังหวะเหล่านี้มีผลต่อการรับรู้พื้นที่
5. The Survival of Capitalism: Reproduction of the Relations of Production (1973)หนังสือเล่มนี้สำรวจวิธีที่ทุนนิยมยังคงอยู่และปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงทางสังคม โดยการสร้างและคงไว้ซึ่งความสัมพันธ์ทางการผลิต
6. Introduction to Modernity: Twelve Preludes, September 1959-May 1961 (1962)
Lefebvre วิเคราะห์ความเป็นสมัยใหม่ผ่านบทความสิบสองบท ซึ่งเขาสำรวจปัญหาทางปรัชญาและสังคมในยุคหลังสงคราม
ผลงานอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เช่น Everyday Life in the Modern World (1968) โดย Lefebvre วิเคราะห์ชีวิตประจำวันในยุคปัจจุบัน โดยเน้นถึงการเปลี่ยนแปลงและความท้าทายที่ผู้คนต้องเผชิญในสังคมทุนนิยม
State, Space, World: Selected Essays (2009)
หนังสือเล่มนี้เป็นการรวบรวมบทความสำคัญของ Lefebvre ที่กล่าวถึงเรื่องรัฐ พื้นที่ และโลก ซึ่งเป็นการวิเคราะห์ทางการเมืองและภูมิศาสตร์
หนังสือเหล่านี้เป็นแหล่งข้อมูลสำคัญที่ช่วยให้เราเข้าใจทฤษฎีและแนวคิดของ Henri Lefebvre เกี่ยวกับเวลาและพื้นที่ รวมถึงผลกระทบที่มีต่อสังคมในปัจจุบัน
เข้านี้หลังจากตื่นนอน อยากเขียนการนอนในมิติทางมานุษยวิทยากับนักมานุษยวิทยา... ผมเริ่มต้นกับการลองตั้งคำถามเพื่อหาความรู้เกี่ยวกับการนอนว่า อะไรคือการนอน ทำไมต้องนอน นอนที่ไหน นอนเมื่อไหร่ นอนอย่างไร นอนกับใคร นอนเพื่ออะไรและอื่นๆ..เพื่อจะได้รู้ความสัมพันธ์ของการนอนในมิติต่างๆ การนอนของสิ่งมีชีวิตชนิดอื่นๆแตกต่างจากมนุษย์หรือไม่ หากเปรียบเทียบการนอนของ มนุษย์กับสัตว์สปีชี่ส์อื่นมีการนอนต่างกันหรือเหมือนดันอย่างไร ตัวอย่างเช่น ยีราฟจะนอนครั้งละ 10 นาที รวมระยะเวลานอนทั้งหมด 4.6 ชั่วโมงต่อวัน สัตว์จำพวกค้างคาว และเม่นมีการนอนมากกว่าสัตว์อื่นๆเพราะใช้เวลานอน 17-20ชั่วโมงต่อวัน สำหรับมนุษย์ การนอนคือส่วนสำคัญอย่างหนึ่งในประสบการณ์ของมนุษย์ การสำรวจการนอนข้ามวัฒนธรรมน่าจะทำให้เราเข้าใจความหมายและปฎิบัติการของการนอนที่มีความซับซ้อนมากขึ้น.. การนอนอาจจะเป็นเรื่องของทางเลือก แต่เป็นทางเลือกที่อาจถูกควบคุมบังคับ โดยโครงสร้างทางสังคมวัฒนธรรม นอนเมื่อไหร่ นอนเท่าไหร่ นอนที่ไหน นอนอย่างไร และนอนกับใคร.. ในสังคมตะวันตก อุดมคติเก...
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น