ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

อัตลักษณ์ การดำรงอยู่และการเปลี่ยนแปลง

หนังสือเรื่อง Identity, Survival and Change: Exploring Cultural and Social Anthropology (1974) ของ Joseph Aceves เป็นหนังสือที่นำเสนอเรื่องราวและการวิจัยในสาขามานุษยวิทยาวัฒนธรรมและสังคม ที่เกี่ยวโยงกับอัตลักษณ์ การอยู่รอด และการเปลี่ยนแปลง โดยมีเนื้อหาครอบคลุมประเด็นต่างๆที่น่าสนใจ ดังนี้ 1. อัตลักษณ์ การสำรวจว่าอัตลักษณ์ของบุคคลและกลุ่มชนสามารถเปลี่ยนแปลงและคงอยู่ได้อย่างไรในบริบททางสังคมและวัฒนธรรมต่างๆ เช่น อัตลักษณ์ (Identity) ของชนเผ่า Maasai ในแอฟริกา ซึ่งอัตลักษณ์ของชนเผ่า Maasai ถูกกำหนดโดยวิถีชีวิตแบบเลี้ยงสัตว์และการแต่งกายที่เป็นเอกลักษณ์ แต่การปรับตัวเข้าสู่สังคมเมืองทำให้อัตลักษณ์ของพวกเขามีการเปลี่ยนแปลง ขณะที่บางคนยังคงรักษาวัฒนธรรมดั้งเดิมไว้ คนอื่นๆ กลับเริ่มปรับตัวและเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตให้เข้ากับสังคมสมัยใหม่มากขึ้น 2. การอยู่รอด การศึกษาเกี่ยวกับวิธีที่กลุ่มชนต่างๆ พยายามรักษาวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของตนเองท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงทางสังคมและสิ่งแวดล้อม ตัวอย่างเช่น การอยู่รอด (Survival)ของชนเผ่า Inuit ในแถบอาร์กติก ซึ่งการอยู่รอดของชนเผ่า Inuit ขึ้นอยู่กับความสามารถในการล่าสัตว์และการใช้ทรัพยากรธรรมชาติในสภาพแวดล้อมที่ยากลำบาก อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศทำให้วิถีชีวิตแบบดั้งเดิมต้องปรับตัว พวกเขาต้องหาแนวทางใหม่ในการอยู่รอด เช่น การปรับตัวเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจที่มีการพัฒนา 3. การเปลี่ยนแปลง การวิเคราะห์ถึงการเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมและสังคมที่เกิดขึ้น และวิธีที่มนุษย์ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงเหล่านั้นอย่างไร ตัวอย่างเช่น การเปลี่ยนแปลง (Change)ของชุมชนในเมือง Rio de Janeiro ประเทศบราซิล การเปลี่ยนแปลงทางสังคมและเศรษฐกิจในเมือง Rio de Janeiro ส่งผลให้ชุมชนที่เคยมีวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมต้องเผชิญกับความท้าทายใหม่ พวกเขาต้องปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงทั้งในด้านเศรษฐกิจ การศึกษา และสาธารณสุข การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้เกิดการผสมผสานของวัฒนธรรมและการสร้างอัตลักษณ์ใหม่ หนังสือเล่มนี้เหมาะสำหรับนักศึกษา นักวิจัย และผู้สนใจทั่วไปที่ต้องการทำความเข้าใจเกี่ยวกับมานุษยวิทยาวัฒนธรรมและสังคม โดย Joseph Aceves ได้นำเสนอเนื้อหาอย่างละเอียดและชัดเจน เพื่อให้ผู้อ่านได้รับประโยชน์สูงสุดจากการศึกษาทางด้านนี้ ในหนังสือ Identity, Survival and Change: Exploring Cultural and Social Anthropology ของ Joseph Aceves มีตัวอย่างเชิงรูปธรรมที่น่าสนใจหลายเรื่องเกี่ยวกับแนวคิดอัตลักษณ์ การอยู่รอด และการเปลี่ยนแปลง ซึ่งตัวอย่างเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความซับซ้อนของการศึกษาในด้านมานุษยวิทยาวัฒนธรรมและสังคม โดย Joseph Aceves ใช้กรณีศึกษาจริงเหล่านี้เพื่อเน้นย้ำถึงการปรับตัวและความยืดหยุ่นของมนุษย์ในสถานการณ์ต่างๆ โดย มีตัวแปรในการอธิบาย 3 ส่วนคือ บริบท ความท้าทาย และ การปรับตัว ในแง่มุมต่างๆดังนี้ 1. อัตลักษณ์ (Identity) กรณี ชนเผ่า Maasai ในแอฟริกา เมื่ออมองผ่านเรื่องของบริบท พบว่า ชนเผ่า Maasai อาศัยอยู่ในพื้นที่ระหว่างเคนยาและแทนซาเนีย วิถีชีวิตของพวกเขามีความเชื่อมโยงกับการเลี้ยงสัตว์ และการแต่งกายที่เป็นเอกลักษณ์เช่นผ้าคลุมสีแดง (Shúkà) ในมุมมองเรื่องความท้าทายและผลกระทบ เช่น การขยายตัวของสังคมเมืองและเศรษฐกิจแบบทุนนิยมทำให้พื้นที่เลี้ยงสัตว์ลดลง รวมถึงการถูกบังคับให้เข้าโรงเรียนและทำงานในเมือง ในเรื่องของการปรับตัว บางส่วนของชนเผ่า Maasai ยังคงรักษาวิถีชีวิตดั้งเดิม โดยเลือกที่จะเลี้ยงสัตว์และดำเนินพิธีกรรมทางศาสนาแบบดั้งเดิม ในขณะที่อีกส่วนหนึ่งเลือกที่จะผสมผสานวิถีชีวิตแบบใหม่ โดยการทำงานในเมืองและส่งบุตรหลานเข้าโรงเรียน 2. การอยู่รอด (Survival) ตัวอย่างเช่น ชนเผ่า Inuit ในแถบอาร์กติก ในเรื่องของบริบท เช่น ชนเผ่า Inuit อาศัยอยู่ในพื้นที่หนาวเย็นสุดขั้วของแถบอาร์กติก วิถีชีวิตของพวกเขามีความสัมพันธ์กับการล่าสัตว์ เช่น หมีขั้วโลกและแมวน้ำ เพื่อให้ได้อาหารและวัสดุทำเสื้อผ้า ในเรื่องของความท้าทาย เช่น การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศทำให้น้ำแข็งละลายเร็วขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อสัตว์ที่เป็นแหล่งอาหารหลัก การเข้าถึงแหล่งล่าสัตว์ยากขึ้น และการล่าสัตว์แบบดั้งเดิมมีความเสี่ยงมากขึ้น ในเรื่องของการปรับตัว เช่น ชนเผ่า Inuit บางส่วนได้ปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตโดยการเข้าร่วมในกิจกรรมเศรษฐกิจอื่นๆ เช่น การท่องเที่ยวเชิงนิเวศ และการทำงานในอุตสาหกรรมพลังงาน อีกทั้งยังมีการใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อช่วยในการล่าสัตว์และการเก็บรักษาอาหาร 3. การเปลี่ยนแปลง (Change) ตัวอย่างเช่น ชุมชนในเมือง Rio de Janeiro ประเทศบราซิล ในเรื่องของบริบท เช่น เมือง Rio de Janeiro เป็นเมืองใหญ่ในประเทศบราซิลที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม ชุมชนในเมืองนี้ประกอบด้วยผู้คนจากภูมิหลังทางวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน ในเรื่องของความท้าทาย เช่น การเปลี่ยนแปลงทางสังคมและเศรษฐกิจในเมืองนี้ส่งผลให้ชุมชนต้องเผชิญกับปัญหาการกีดกันทางเศรษฐกิจ การขาดการศึกษา และปัญหาสาธารณสุข การย้ายถิ่นฐานจากชนบทสู่เมืองทำให้เกิดการปะทะกันของวัฒนธรรมดั้งเดิมและวัฒนธรรมเมือง ในเรื่องของการปรับตัว เช่น ชุมชนเหล่านี้มีการสร้างอัตลักษณ์ใหม่โดยการผสมผสานวัฒนธรรมต่างๆ เข้าด้วยกัน เช่น การนำดนตรีแบบดั้งเดิมมาผสมกับดนตรีสมัยใหม่ การสร้างกลุ่มชุมชนที่ช่วยเหลือกัน และการพัฒนาศูนย์การเรียนรู้สำหรับเด็กและเยาวชนเพื่อเพิ่มโอกาสทางการศึกษาและการพัฒนาทักษะ 4. อัตลักษณ์ (Identity) - ชาว Hmong ในสหรัฐอเมริกา ในเรื่องของบริบท พบว่า ชาว Hmong เป็นกลุ่มชนที่มีถิ่นกำเนิดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีวัฒนธรรมและภาษาเฉพาะตัว หลังสงครามเวียดนาม หลายครอบครัวได้อพยพมายังสหรัฐอเมริกา ในเรื่องของความท้าทาย พบว่าชาว Hmong ต้องปรับตัวให้เข้ากับสังคมใหม่ที่มีวัฒนธรรมและภาษาแตกต่างอย่างมาก หลายคนเผชิญกับปัญหาด้านภาษาและการหางานทำ ในนเรื่องของการปรับตัว พบว่า ชาว Hmong บางส่วนได้รักษาวัฒนธรรมดั้งเดิมไว้ เช่น การจัดงานพิธีตามประเพณี การใช้ภาษาของตนเองในครอบครัว ในขณะที่บางส่วนได้ปรับตัวเข้าสู่สังคมอเมริกันมากขึ้นโดยการเรียนรู้ภาษาอังกฤษและเข้าร่วมในระบบการศึกษาของสหรัฐอเมริกา 5. การอยู่รอด (Survival) ตัวอย่างใน ชุมชนเกษตรกรรมในอินเดีย ในเรื่องบริบท พบว่าชุมชนเกษตรกรรมในอินเดียมีวิถีชีวิตที่พึ่งพาการเกษตรเป็นหลัก โดยใช้วิธีการเพาะปลูกแบบดั้งเดิมที่สืบทอดกันมา ในเรื่องความท้าทาย พบว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทำให้เกิดภัยแล้งและน้ำท่วมบ่อยครั้ง การเปลี่ยนแปลงนี้ส่งผลกระทบต่อการผลิตทางการเกษตร ทำให้เกิดความไม่มั่นคงทางอาหารและรายได้ ในเรื่องการปรับตัว พบว่า ชุมชนบางส่วนได้เริ่มใช้เทคโนโลยีการเกษตรที่ทันสมัย เช่น การใช้เมล็ดพันธุ์ที่ทนต่อสภาพอากาศ การใช้น้ำอย่างประหยัด และการทำเกษตรอินทรีย์ นอกจากนี้ ยังมีการจัดตั้งกลุ่มสหกรณ์เกษตรเพื่อร่วมมือกันในการผลิตและการตลาด 6. การเปลี่ยนแปลง (Change) ตัวอย่างชาวเมือง Tokyo ในญี่ปุ่น ในเรื่องบริบท พบว่า Tokyo เป็นเมืองใหญ่ที่มีการพัฒนาและการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างรวดเร็ว ความเป็นเมืองนี้นำมาซึ่งวิถีชีวิตที่ทันสมัยและการใช้เทคโนโลยีอย่างแพร่หลายมากขึ้น ในเรื่องของความท้าทาย พบว่าการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วทำให้ชาวเมืองต้องปรับตัวให้เข้ากับวิถีชีวิตที่เร่งรีบและการแข่งขันที่สูง นอกจากนี้ยังมีปัญหาด้านการรักษาวัฒนธรรมดั้งเดิมในบริบทที่ทันสมัย ในเรื่องของการปรับตัว พบว่า ชาวเมือง Tokyo มีการสร้างสมดุลระหว่างวัฒนธรรมดั้งเดิมและวิถีชีวิตสมัยใหม่ เช่น การรักษาพิธีกรรมและเทศกาลทางวัฒนธรรมควบคู่กับการใช้เทคโนโลยีในชีวิตประจำวัน การปรับเปลี่ยนพื้นที่เมืองเพื่อให้เหมาะสมกับการอยู่อาศัยและการทำงาน เช่น การสร้างสวนสาธารณะและพื้นที่สีเขียว 7. อัตลักษณ์ (Identity) ตัวอย่าง กลุ่ม LGBTQ+ ในประเทศที่ไม่ยอมรับ ในเรื่องของบริบท ในหลายประเทศ การยอมรับกลุ่ม LGBTQ+ ยังคงเป็นปัญหา และกลุ่มนี้ต้องเผชิญกับการกีดกันและการถูกทำร้าย ในเรื่องของความท้าทาย พบว่าการแสดงออกและการยืนยันอัตลักษณ์ทางเพศและเพศวิถีเป็นเรื่องที่ยากและเสี่ยงต่อการถูกกีดกันหรือถูกทำร้าย ในเรื่องของการปรับตัว พบว่า กลุ่ม LGBTQ+ บางส่วนได้สร้างเครือข่ายสนับสนุนและกลุ่มชุมชนที่ปลอดภัย เช่น กลุ่มสนับสนุนออนไลน์ การจัดกิจกรรมลับ และการทำงานร่วมกับองค์กรระหว่างประเทศเพื่อสิทธิมนุษยชน เพื่อส่งเสริมความเข้าใจและยอมรับในสังคม ผมว่าผมจะนำ 3 ประเด็น คือ บริบท ความท้าทาย และการปรับตัว มาชวนให้นักศึกษาเขียนและคิด เกี่ยวกับเรื่องอัตลักษณ์ การเปลี่ยนแปลง และการปรับตัว ในวิขาการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและวัฒนธรรม

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

การนอน มานุษยวิทยาและนักมานุษยวิทยา โดย นัฐวุฒิ สิงห์กุล

 เข้านี้หลังจากตื่นนอน อยากเขียนการนอนในมิติทางมานุษยวิทยากับนักมานุษยวิทยา...    ผมเริ่มต้นกับการลองตั้งคำถามเพื่อหาความรู้เกี่ยวกับการนอนว่า อะไรคือการนอน ทำไมต้องนอน นอนที่ไหน นอนเมื่อไหร่ นอนอย่างไร นอนกับใคร นอนเพื่ออะไรและอื่นๆ..เพื่อจะได้รู้ความสัมพันธ์ของการนอนในมิติต่างๆ การนอนของสิ่งมีชีวิตชนิดอื่นๆแตกต่างจากมนุษย์หรือไม่    หากเปรียบเทียบการนอนของ มนุษย์กับสัตว์สปีชี่ส์อื่นมีการนอนต่างกันหรือเหมือนดันอย่างไร ตัวอย่างเช่น ยีราฟจะนอนครั้งละ 10 นาที รวมระยะเวลานอนทั้งหมด 4.6 ชั่วโมงต่อวัน สัตว์จำพวกค้างคาว และเม่นมีการนอนมากกว่าสัตว์อื่นๆเพราะใช้เวลานอน 17-20ชั่วโมงต่อวัน    สำหรับมนุษย์ การนอนคือส่วนสำคัญอย่างหนึ่งในประสบการณ์ของมนุษย์ การสำรวจการนอนข้ามวัฒนธรรมน่าจะทำให้เราเข้าใจความหมายและปฎิบัติการของการนอนที่มีความซับซ้อนมากขึ้น..     การนอนอาจจะเป็นเรื่องของทางเลือก แต่เป็นทางเลือกที่อาจถูกควบคุมบังคับ โดยโครงสร้างทางสังคมวัฒนธรรม นอนเมื่อไหร่ นอนเท่าไหร่ นอนที่ไหน นอนอย่างไร และนอนกับใคร..     ในสังคมตะวันตก อุดมคติเก...

Biomedical Model และ Bio-Psycho-social Mode

(1)        อะไรคือ Biomedical Model และ Bio-Psycho-social Model ? แนวคิดแบบจำลองทางชีวะการแพทย์ ( Biomeaical Model ) เริ่มต้นในช่วงกลางศตวรรษที่ 19 ที่ความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์และการแพทย์มีการพัฒนาอย่างเติบโตรวดเร็วและกว้างขวาง การค้นพบเครื่องมือทางการแพทย์ที่ทันสมัยอย่างกล้องจุลทรรศน์ ทำให้มนุษย์ได้เห็นสิ่งที่ไม่เคยเห็น แม้แต่สิ่งที่เล็กที่สุดในร่างกายของมนุษย์ รวมถึงเชื้อโรคหรือสิ่งแปลกปลอมต่างๆที่เข้าสู่ร่างกายของมนุษย์ ซึ่งเป็นสิ่งที่แพทย์ใช้วินิจฉัยสาเหตุของโรคและความเจ็บป่วย แบบจำลองนี้ ดังนั้นแบบจำลองนี้เสนอว่า โรคหรือความผิดปกติทางกาย( Physiology )ซึ่งเกิดจากการบาดเจ็บ ความผิดปกติของพันธุกรรม ( Abnomal Genetics ) ความไม่สมดุลทางชีวะเคมี ( Biochemistry ) เรื่องของพยาธิวิทยา ( Pathology )   แบคทีเรีย หรือไวรัส หรือสิ่งอื่นๆที่คล้ายคลึงกันที่นำไปสู่การติดเชื้อและความเจ็บป่วยของมนุษย์ ซึ่งแนวคิดดังกล่าวนี้ไม่ได้อธิบายบทบาทของปัจจัยทางสังคม( The role of Social factors )หรือความคิดของปัจเจกบุคคล  ( Individual Subjectivity ) โดยแบบจำลองทางชีวะ...

เฟอร์ดิน็องต์ เดอร์ โซซูร์

เฟอร์ดิน็องต์ เดอร์ โซซูร์ (1857-1923) นักภาษาศาสตร์ชาวสวิสเซอร์แลนด์ เป็นผู้มีบทบาทอย่างสำคัญในประวัติศาสตร์ของพวกโครงสร้างนิยม   ที่มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาสัญวิทยาในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 และช่วงต้นศตวรรษที่ 20 โดยเฉพาะการเคลื่อนไหวของ เลวี่ สเตร๊าท์ (Levi-Strauss) ชาร์ค ลากอง (Jacques Lacan) และ โรล็องต์ บาร์ธ (Roland Barthes) รวมถึง มิเชล ฟูโก้ (Micheal Foucault) ที่ได้กลับมาวางรางฐานและปฎิเสธเกี่ยวกับโครงสร้างนิยม ภายใต้ทิศทางใหม่ของหลังโครงสร้างนิยม (Post-Structuralism) ในคำบรรยายเริ่มแรกของเขาที่มหาวิทยาลัยเจนีวา ในช่วงปี 1906-1911 และการตีพิมพ์โครงร่างงานของเขาที่เขียนไว้ และคำบรรยายของเขาที่ลูกศิษย์ได้รวบรวมไว้ ภายหลังการมรณกรรมของเขาเมื่อปี 1915-1916   ภายใต้ชื่อ Course de linguistique   Generale ซึ่งถูกแปลเป็นภาษาอังกฤษและเผยแพร่ในยุโรป ภายใต้ชื่อ Course in general linguistic ในปี 1960 เขาได้นำเสนอความคิดว่า การศึกษาภาษาศาสตร์ในปัจจุบัน สามารถศึกษาได้อย่างเป็นวิทยาศาสตร์ ซึ่งน่าจะได้รับอิทธิพลจากอีมิล เดอร์ไคม์ (Emile D...