ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

มวยไทยโดยนัฐวุฒิ สิงห์กุล

***จากมวยวัดสู่มวยตู้ จากมวยภูธรสู่เมืองหลวงหรือมวยวัดเจอมวยซุ่ม(มวยดังที่แอบมาชกตามงานวัดเพื่อเอาเงินเดิมพัน)..คือภาพจำของสนามที่เคยทำงานเป็นนักวิจัยที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารีกับท่านอาจารย์สุริยา สมุทคุปติ์และอาจารย์พัฒนา กิติอาษา ..ประสบการณ์ ความทรงจำที่ยังคงงดงามเสมอ จากสนามที่ได้มีโอกาสติดตามตั้งแต่ค่ายมวย ยันเวทีมวย ผมกับพี่ เพื่อน และน้อง ที่เป็นนักวิจัยร่วมกัน (พี่ถา พี่โจอิ เพื่อนต้อมและน้องจิน) พวกเราได้มีโอกาสไปสำรวจและเก็บข้อมูลภาคสนามที่ค่ายมวย ต.ศิลาชัย ที่กองบิน1 และค่ายประปาชนบทที่จอหอ นครราชสีมา ผมได้มีโอกาสไปดูการเปรียบมวยตามหมู่บ้าน ตามงานวัด เปรียบมวยแบบไร้ตาชั่ง ดูตามขนาดร่างกาย ไม่สนใจน้ำหนัก ความหนา มวลกระดูก ..จนถึงเวทีใหญ่ที่ต้องรีดน้ำหนักให้ผ่านตามตาชั่งที่เป็นมาตรฐานในช่วงเช้า นักมวยบางคนต้องเขาตู้อบ ให้เหงื่อออก รีดน้ำหนักให้ผ่านตามน้ำหนักพิกัดรุ่น บางคนต้องถอดเสื้อผ้าอาภรณ์ทุกอย่างออกจนหมด เหลือเพียงร่างกายที่เปล่าเปลือย เพราะไม่งั้นจะเพิ่มน้ำหนักตัวและชั่งไม่ผ่าน นอกจากจะไม่ได้ขี้นชก ต้องแพ้ตั้งแต่ยังไม่ขึ้นสังเวียน แถมยังต้องโดนค่าปรับด้วย ….หลังจากที่พวกเขาชั่งผ่านจึงจะสามารถทานอาหารได้อย่างเต็มที่เพื่อเตรียมชกในตอนหัวค่ำ รวมถึงเรื่องเล่าเกี่ยวกับเครื่องรางของขลัง การสักยันต์ที่สัมพันธ์กับความแข็งแรงและชัยชนะของนักมวยก็น่าสนใจไม่แพ้กัน ผมไปสนามที่ค่ายมวยดูบรรยากาศ การซ้อม ทั้งชกลม ต่อยหรือเตะกระสอบ การจับคู่ปล้ำ ทั้งการวิ่งเช้า-เย็น โดยใส่เสื้อหนาๆเพื่อเรียกเหงื่อในรายของนักมวยที่ควบคุมน้ำหนักเพื่อขะได้ขึ้นชก รวมทั้งกินน้ำอุ่น อาบน้ำอุ่น อีกทั้งยังห้ามการมีกิจกรรมทางเพศก่อนขึ้นชก เพราะจำทำให้แรงตก..ที่ผมชอบอย่างหนึ่งคือความอ่อนช้อยงดงามในมวยไทย เพราะมวยคือศิลปะแห่งเรือนร่างด้วย ไม่ใช่แค่ใช้กำลังร่างกายในการปะทะ นักมวยไทยจะต้องฝึกไหว้ครู ด้วยการก้าวย่าง การยกมือ ยกขา ร่ายรำอย่างอ่อนช้อย การฝึกซ้อมจึงเน้นการมองผ่านกระจกในค่ายมวย ดูมุมที่จะโชว์กล้ามเนื้อ พร้อมขับเน้นกล้ามเนื้อให้ชัดเจนด้วยน้ำมันมวย ก่อนที่จะใช้แม่ไม้มวยไทยที่แสดงออกผ่านร่างกายอย่างหนักหน่วงและเข้มแข็งเมื่อเริ่มต้นเสียงระฆัง ภาพของนักมวยชายที่ใช้ร่างกายในการสะสมทุนไต่เต้าเพื่อสร้างเงินและชื่อเสียง โดยใช้ทุนทางวัฒนธรรม ใช้ร่างกายแปลงเป็นทุนเชิงเศรษฐกิจ ในเรื่องค่าตัว ค่าชก เงินเดิมพัน และทุนเชิงสัญลักษณ์เมื่อมีชื่อเสียง ยกระดับ ตัวเองจากนักมวยภูธร สู่มวยในเวทีเมือง หรือมวยตู้(ถ่ายทอดสดทางทีวี) ในขณะเดียวกัน เราไม่สามารถปฏิเสธขีดจำกัดของร่างกาย หรือธรรมชาติของร่างกาย เราได้ เมื่อร่างกายมีอายุไขและเปลี่ยนแปลงสภาพตามเงื่อนไขของเวลาตามวัฏจักร นักมวยอาจเริ่มต้นชกมวยตั้งแต่อายุยังไม่ถึง 10 ขวบ และเขาสร้างขื่อเสียงเป็นนักมวยเงินแสนตอนอายุ 20 กว่าปี และต่อยมวยมาจนอายุเกิน 30 ปีที่พวกเขากลายเป็นนักมวยแก่ที่พละกำลังน้อยลง เราจึงพบข่าวนักมวยดัง อดีตค่าตัวสูงลิ่ว อดีตแชมป์เวทีต่างๆหลายคนที่ร่วงโรยตามวัย มีความเกี่ยวโยงกับการล้มมวย การค้ายาเสพติด การลักขโมย เป็นต้น ผมชอบคำที่ท่านอาจารย์พัฒนาใช้และเขียนในหนังสือของท่านที่มาจากงานวิจัยเรื่องนี้ว่า Lives of Hunting Dogs ที่คุณสามารถเป็นฮีโร่ ได้รับคำชื่นชมเมื่อคุณชกชนะ ในขณะเดียวกันคุณก็อาจกลายเป็นไอ้ขี้แพ้ พร้อมทั้งเสียงก่นด่า โห่ตะโกนไล่เมื่อลงจากเวทีก็ได้ การศึกษาเมื่อเกือบยี่สิบปี ในยุคนั้นที่พวกเราทำวิจัย ยังไม่มีการเกิดทัวร์นาเม้นต์แบบมวยไทยไฟลท์ มีเพียงการต่อยตามงานวัด ในประเพณีต่างๆของชุมชน และมวยในเวทีราชดำเนิน ลุมพินี อ้อมน้อย หนองแขม และอื่นๆ ผมได้มองเห็นการเชื่อมโยงเรื่องราวของการเปลี่ยนแปลงของวงการมวย จนปัจจุบันที่เราเริ่มเห็นมวยประเภท 3 ยก แทนที่มวย5 ยก ที่ไม่ได้เน้นพละกำลัง แต่ใช้แม่ไม้มวยไทย อย่างเช่นไทยไฟลท์ เราจึงได้เห็นนักมวยรุ่นเก่ากับมาโลดแล่นและชกกับนักมวยวัยหนุ่มชาวต่างชาติ รวมถึงนักมวยหญิง นักมวยเพศทางเลือก ในธุรกิจกีฬาและตลาดเอนเตอร์เทนเม้นต์สปอร์ตที่เติบโตอย่างมากมายในปัจจุบัน ก็เป็นสิ่งที่น่าศึกษายิ่ง เพราะมวยแบบมวย 3 ยก เน้นการต่อสู้แบบรวดเร็ว ใส่กันให้สุด และวาดลวดลายแม่ไม้มวยไทย ที่เราจะเห็นนักมวยหนุ่มชาวต่างชาติที่ยังอ่อนประสบการณ์ มาชกกับนักมวยไทยรุ่นเก๋า ที่อายุมากขึ้นและไม่สามารถต่อยแบบ5 ยกได้เหมือนในอดีต ทำให้เราได้เห็นนักมวยดังในอดีตกลับมาชกมวยในกติกาแบบนี้มากขึ้น มวยไทย จึงสะท้อนให้เห็นความสัมพันธ์ของพื้นที่และอำนาจ พื้นที่ที่หมายถึงทั้งพื้นที่ในสนามมวย พื้นที่ในวงการมวย พื้นที่ของความสัมพันธ์ รวมถึงพื้นที่ทางร่างกาย พื้นที่จึงมีลักษณะเป็นพื้นที่ทางกายภาพ พื้นที่ของการเป็นสินค้า พื้นที่ที่เป็นสิ่งประดิษฐ์ สิ่งสร้างและนำเสนอทางวัฒนธรรม วัฒนธรรมแม่ไม้มวยไทย วัฒนธรรมความเป็นชาย รวมถึง พื้นที่แห่งจินตนาการ จินตนาการแห่งพื้นที่และจินตนาการทางร่างกาย เมื่อมองลงไปที่มวยไทย ร่างกายของนักมวยทำให้เราเห็นความจริงและความซับซ้อนบางอย่างภายใต้วาทกรรมและความรู้แห่งยุคสมัย ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน สังคมจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร มวยไทยก็ยังคงสะท้อน อัตลักษณ์ของผู้ชายไทย ความเป็นชายในสังคมไทยได้เสมอ เพราะอัตลักษณ์ที่ลื่นไหล ยืดหยุ่น เปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา นักมวยล้วนผ่านการใช้ร่างกาย การต่อสู้ดิ้นรน การเป็นส่วนหนึ่งของทุน บริโภคนิยม ของโครงสร้างทางเศรษฐกิจ มวยไม่ใช่แค่กีฬา อาจเป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจ เป็นเรื่องสุขภาพ เป็นเรื่องการเมือง เป็นพื้นที่ของอำนาจ ศักดิ์ศรี บารมีของบรรดาค่ายมวย เจ้าของค่าย ผู้จัดการแข่งขัน และการต่อรอง เป็นการเมืองในเชิงร่างกาย...มวยไทยและนักมวยไทยก็ยังคงสะท้อนภาพของสังคมไทยได้เป็นอย่างดี.. **เห็นหนังสือที่ย้ำเตือนความทรงจำที่เคยทำงานร่วมกันอีกครั้ง ภาพของอาจารย์พี่อู๋ถือสะพายกล้องถ่ายรูป เหน็บสมุดบันทึกสนาม อีกมือถ่ายวีดีโอ อยู่ชิดติดขอบเวทีมวยในทุกครั้ง และภาพอาจารย์สุริยาที่ท่านมักจะถือสมุดโน๊ตสัมภาษณ์คนดูและญาตินักมวยด้วยใบหน้ายิ้มแย้มมีความสุขกับการทำงานสนาม ยังคงชัดเจนเสมอ และท่านทั้งสองเป็นต้นแบบของการทำงานสนามของผม และประสบการณ์ตรงนี้ยังเป็นส่วหนึ่งของการสอนมานุษยวิทยาว่าด้วยร่างกายของผมด้วย..*** ที่มาภาพจาก Wordpress.com

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

การนอน มานุษยวิทยาและนักมานุษยวิทยา โดย นัฐวุฒิ สิงห์กุล

 เข้านี้หลังจากตื่นนอน อยากเขียนการนอนในมิติทางมานุษยวิทยากับนักมานุษยวิทยา...    ผมเริ่มต้นกับการลองตั้งคำถามเพื่อหาความรู้เกี่ยวกับการนอนว่า อะไรคือการนอน ทำไมต้องนอน นอนที่ไหน นอนเมื่อไหร่ นอนอย่างไร นอนกับใคร นอนเพื่ออะไรและอื่นๆ..เพื่อจะได้รู้ความสัมพันธ์ของการนอนในมิติต่างๆ การนอนของสิ่งมีชีวิตชนิดอื่นๆแตกต่างจากมนุษย์หรือไม่    หากเปรียบเทียบการนอนของ มนุษย์กับสัตว์สปีชี่ส์อื่นมีการนอนต่างกันหรือเหมือนดันอย่างไร ตัวอย่างเช่น ยีราฟจะนอนครั้งละ 10 นาที รวมระยะเวลานอนทั้งหมด 4.6 ชั่วโมงต่อวัน สัตว์จำพวกค้างคาว และเม่นมีการนอนมากกว่าสัตว์อื่นๆเพราะใช้เวลานอน 17-20ชั่วโมงต่อวัน    สำหรับมนุษย์ การนอนคือส่วนสำคัญอย่างหนึ่งในประสบการณ์ของมนุษย์ การสำรวจการนอนข้ามวัฒนธรรมน่าจะทำให้เราเข้าใจความหมายและปฎิบัติการของการนอนที่มีความซับซ้อนมากขึ้น..     การนอนอาจจะเป็นเรื่องของทางเลือก แต่เป็นทางเลือกที่อาจถูกควบคุมบังคับ โดยโครงสร้างทางสังคมวัฒนธรรม นอนเมื่อไหร่ นอนเท่าไหร่ นอนที่ไหน นอนอย่างไร และนอนกับใคร..     ในสังคมตะวันตก อุดมคติเก...

เฟอร์ดิน็องต์ เดอร์ โซซูร์

เฟอร์ดิน็องต์ เดอร์ โซซูร์ (1857-1923) นักภาษาศาสตร์ชาวสวิสเซอร์แลนด์ เป็นผู้มีบทบาทอย่างสำคัญในประวัติศาสตร์ของพวกโครงสร้างนิยม   ที่มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาสัญวิทยาในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 และช่วงต้นศตวรรษที่ 20 โดยเฉพาะการเคลื่อนไหวของ เลวี่ สเตร๊าท์ (Levi-Strauss) ชาร์ค ลากอง (Jacques Lacan) และ โรล็องต์ บาร์ธ (Roland Barthes) รวมถึง มิเชล ฟูโก้ (Micheal Foucault) ที่ได้กลับมาวางรางฐานและปฎิเสธเกี่ยวกับโครงสร้างนิยม ภายใต้ทิศทางใหม่ของหลังโครงสร้างนิยม (Post-Structuralism) ในคำบรรยายเริ่มแรกของเขาที่มหาวิทยาลัยเจนีวา ในช่วงปี 1906-1911 และการตีพิมพ์โครงร่างงานของเขาที่เขียนไว้ และคำบรรยายของเขาที่ลูกศิษย์ได้รวบรวมไว้ ภายหลังการมรณกรรมของเขาเมื่อปี 1915-1916   ภายใต้ชื่อ Course de linguistique   Generale ซึ่งถูกแปลเป็นภาษาอังกฤษและเผยแพร่ในยุโรป ภายใต้ชื่อ Course in general linguistic ในปี 1960 เขาได้นำเสนอความคิดว่า การศึกษาภาษาศาสตร์ในปัจจุบัน สามารถศึกษาได้อย่างเป็นวิทยาศาสตร์ ซึ่งน่าจะได้รับอิทธิพลจากอีมิล เดอร์ไคม์ (Emile D...

Biomedical Model และ Bio-Psycho-social Mode

(1)        อะไรคือ Biomedical Model และ Bio-Psycho-social Model ? แนวคิดแบบจำลองทางชีวะการแพทย์ ( Biomeaical Model ) เริ่มต้นในช่วงกลางศตวรรษที่ 19 ที่ความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์และการแพทย์มีการพัฒนาอย่างเติบโตรวดเร็วและกว้างขวาง การค้นพบเครื่องมือทางการแพทย์ที่ทันสมัยอย่างกล้องจุลทรรศน์ ทำให้มนุษย์ได้เห็นสิ่งที่ไม่เคยเห็น แม้แต่สิ่งที่เล็กที่สุดในร่างกายของมนุษย์ รวมถึงเชื้อโรคหรือสิ่งแปลกปลอมต่างๆที่เข้าสู่ร่างกายของมนุษย์ ซึ่งเป็นสิ่งที่แพทย์ใช้วินิจฉัยสาเหตุของโรคและความเจ็บป่วย แบบจำลองนี้ ดังนั้นแบบจำลองนี้เสนอว่า โรคหรือความผิดปกติทางกาย( Physiology )ซึ่งเกิดจากการบาดเจ็บ ความผิดปกติของพันธุกรรม ( Abnomal Genetics ) ความไม่สมดุลทางชีวะเคมี ( Biochemistry ) เรื่องของพยาธิวิทยา ( Pathology )   แบคทีเรีย หรือไวรัส หรือสิ่งอื่นๆที่คล้ายคลึงกันที่นำไปสู่การติดเชื้อและความเจ็บป่วยของมนุษย์ ซึ่งแนวคิดดังกล่าวนี้ไม่ได้อธิบายบทบาทของปัจจัยทางสังคม( The role of Social factors )หรือความคิดของปัจเจกบุคคล  ( Individual Subjectivity ) โดยแบบจำลองทางชีวะ...