Cyborg และ Human Origin : มนุษย์ไซบอร์กและมนุษย์หุ่นยนต์
คำว่า Cyborgs ถูกเชื้อมโยงความสัมพันธ์ระหว่างเทคโนโลยี (Technologies) และอินทรีย์หรือสิ่งมีชีวืต (Organism)
Cyborg ผสมระหว่าง cybernetic (การศึกษาความสัมพันธ์เปรียบเทียบระหว่างระบบควบคุมอัตโนมัติของสมองและระบบประสาท กับระบบควบคุทด้วยกลไกและกระแสไฟฟ้า) กับร่างกายอินทรีย์(Organism) ในความหลากหลาย รูปแบบที่แตกต่าง และวิถีทางที่ซับซ้อน
การปะทะกันภายใต้วิธีคิดแบบคู่แย้ง ที่แบ่งแยกออกเป็น มนุษย์ (Human) ที่หมายถึงมนุษย์โฮโมเซเปี้ยนเซเปี้ยน กับสิ่งที่ไม่ใช่มนุษย์ ทั้งวัตถุไร้ชีวิต พืช สัตว์ สัตว์ประหลาด ผี หรือมนุษย์ต่างดาว ทั้งหมดนี้ได้นำไปสู่การตั้งคำถามสำคัญว่า “มนุษย์คืออะไรกันแน่ อะไรคือความเป็นมนุษย์”
สิ่งที่เรามองเห็นได้จากเทคโนโลยีแบะพวกไซบอร์ก ( Cyborgian technologies) คือส่วนหนึ่งของการจัดประเภทของมนุษย์ หรือพวกเขาเป็นสิ่งที่มากกว่าหรือเหนือกว่ามนุษย์หรือสิ่งที่ไม่ใช่มนุษย์ (เพราะพวกเขาผสมผสานกัน) ดังนั้นคำถามที่น่าสนใจคือเราควรจะรู้สึกกลัว (fear) หรือมีความหวัง (Hope) ต่อความก้าวหน้านี้ เนื่องจากมันทำให้เรากลายเป็น (Became) หรือ พสกเราก็รู้สึกและเข้าใจเกี่ยวกับ Cyborg ไปเรียบร้อยแล้วในโลกของความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ความเป็นพลเมืองในยุคดิจิทัลที่เขื่อมโยงกับผลลัพธ์ของความก้าวหน้าเหล่านี้มากขึ้น
มานุษยวิทยาที่ศึกษาประเด็นทางศาสนาหรือเทววิทยาโดยเฉพาะความเชื่อแบบคริสเตียนตะวันตก ที่เกี่ยวโยงกับการกำเนิดมนุษย์บนสวนของอีเดน(Eden and Genesis) แต่สำหรับ Donna Harawey นั้น สิ่งที่เรียกว่า Cyborg นั้นไม่ได้ถูกสร้างในสวนของอีเดน คำถามสำคัญก็คือ วิธีคิดแบบ Cyborg กำลังท้าทายรากฐานเชิงเทววิทยาและแนวคิดเทววิทยาที่เกี่ยวกับความเชื่อที่ว่าอะไรคือสิ่งที่มนุษย์เป็นและถูกสร้างโดยพระเจ้า ....
ดังนั้นไซบอร์ก ควรที่จะถูกพิจารณาว่าเป็นวัตถุแห่งความกลัว ในอำนาจและความไม่รู้ของเราเกี่ยวกับมัน และความหวัง มันคือสิ่งที่จำเป็นสำหรับอนาคตของเราหรือเป็นสิ่งสร้างสรรค์สูงสุดของมนุษย์...
ในแง่ของการศึกษาทางมานุษยวิทยา มันคือ การตั้งคำถามต่อความเป็นศูนย์กลางของมนุษย์ที่มีรากฐานหรือมรดกจากคริสเตียน รวมทั้งความต้องการเอาชนะหรือพิชิตธรรมชาติ ภายใต้ความไม่มั่นคง ไม่ต่อเนื่องในสิ่งที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีและสิ่งประดิษฐ์คิดค้น คำถามเหล่านี้ท้าทายกับขอบเขตของระเบียบวิธี ที่นำไปสู่การท้าทายด้าภววิทยาของมนุษย์(ธรรมชาติของสิ่งที่ศึกษา)เช่น หมูที่มี DNA ของมนุษย์หรือการโคลนนิ่ง เป็นต้น ...
ในขณะเดียวกัน มุมมองที่จะต้องสลัดทิ้งมโนทัศน์เกี่ยวกับคู่ตรงกันข้าม เทคโนโลยีอาจไม่ได้แยกขาดหรือตรงกันข้ามกับธรรมชาติ เพราะว่าทั้งเทคโนโลยีและธรรมชาติมีหลากหลายความหมายและถูกนำไปใช้ในบริบทที่แตกต่างกัน บางครั้งเรายังพบคำว่า Nature of technology หรือธรรมชาติแห่งเทคโนโลยี หรือมนุษย์ก็ไม่ได้แยกออกจากสิ่งที่ไม่ใช่มนุษย์ มนุษย์ก็คือสัตว์จำพวกหนึ่ง คือสัตว์โลกเป็นต้น...
เราไม่อาจปฏิเสธได้ว่า Cyborg เป็นลูกหลานหรือผลผลิตของยุคสงครามเย็น (Cold War) เป็นส่วนหนึ่งของการทหาร(Militarism)หรือการพัฒนามนุษย์อวกาศ(astronautics) ในยุคเริ่มต้น คำว่า Posthuman หรือหลังจากมนุษย์ ได้กลายเป็นวิถีใหม่ของการให้ชื่อ(naming) และความเป็นไปได้อื่นๆที่เราไม่รู้ ( unknow possible) การบอกเล่าเรื่องราวอื่นๆ ภายใต้อัตลักษณ์ที่เปลี่ยนแปลงลื่นไหลของมนุษย์ที่เราสามารถประกอบสร้างหรือผนวกรวมกับเทคโนโลยีที่เชื่อมโยงกับร่างกายและตัวตนของพวกเขา ไซบอร์กคือเรื่องของการผสมผสาน (hybridity) เรื่องแต่ง (fiction) และไม่ใช่เรื่องแต่ง (non-fiction) ที่มีอิทธิพลต่อการรับรู้เกี่ยวกับความจริง ความจริงที่เป็นการผสมผสานส่วนประกอบของเรื่องเล่า เรื่องราวที่หลากหลาย..
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น