ร่างกายคลาสสิค (CLASSIC
BODIES)
ในยุคเริ่มต้นของการศึกษาร่างกายในทางสังคมศาสตร์
แนวคิดร่างกายภายใต้อยู่ภายใต้อิทธิพลของนักคิดทางสังคมศาสตร์ที่สำคัญคือ
คาร์ลมาร์กและเดอร์ไคม์ โดยเดอร์ไคม์มองว่าร่างกายเป็นเช่นเดียวกับแหล่งกำเนิด(Source)หรือผู้รับ(Recipient)ของสัญลักษณ์ร่วม(Collective
Symbolism)ทางสังคม
ที่สะท้อนให้เห็นการการรวมปัจเจกบุคคลไปยังชีวิตแห่งศีลธรรม(Moral life)ของกลุ่ม ในขณะที่คาร์ล มาร์กมองว่าร่างกายเป็นแหล่งกำเนิดความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ(Sourcee
of economic relation)และเกี่ยวข้องอย่างลึกซึ้งกับผลกระทบที่เกิดขึ้นภายใต้การลดทอนร่างกายในระบบทุนนิยม(Chris
Shilling,2005) เมื่อร่างกายกลายเป็นสินค้าและบริการ
ดังนั้นเมื่อวิเคราะห์แนวคิดเกี่ยวกับร่างกายสามารถสรุปได้เป็น3แบบคือ
1.ร่างกายสามารถมีคุณสมบัติของการเป็นแหล่งทรัพยากรหรือแหล่งกำเนิด(Source)ของการสร้างสรรค์ชีวิตทางสังคม(Creation of Social life)ซึ่งตรงกันข้ามกับแนวคิดแบบหลังโครงสร้างนิยม(post structuralist)ที่มองว่าภาวะความเป็นองค์ประธานของมนุษย์ถูกบ่มเพาะหรือปลูกฝังภายใต้สิ่งประดิษฐ์ทางวัฒนธรรม(cultural
artifact) โดยแนวคิดดังกล่าวมองว่าร่างกายของมนุษย์เป็นผู้ผลิต
เป็นผู้กระทำมากกว่าที่จะมองว่าเป็นสิ่งที่ถูกกำหนดโดยสังคม
แต่ร่างกายเป็นแหล่งให้กำเนิดทางสังคม
2.ร่างกายมีคุณสมบัติของการเป็นพื้นที่ตั้ง(location)สำหรับคุณสมบัติเชิงโครงสร้างของสังคม ดังเช่นที่มาร์กซ์
เน้นย้ำอยู่บนคุณสมบัติเชิงโครงสร้างของเศรษฐกิจที่สัมพันธ์กับการทำงาน
การสร้างวัตถุ ความเป็นวัตถุ(material)และเทคโนโลยี
ในขณะที่เดอร์ไคม์มองคุณสมบัติเชิงโครงสร้างของวัฒนธรรมในเชิงของพิธีกรรมและระบบสัญลักษณ์
เช่นเดียวกับที่Simmel ก็มองคุณสมบัติเชิงโครงสร้างของรูปแบบทางสังคม(Social
Forms)
3.ร่างกายมีคุณสมบัติของการเป็นสิ่งที่เชื่อมโยงกันระหว่างความสามารถในการผลิตของร่างกายและสะท้อนให้เห็นการดำรงอยู่หรือมีอยู่ของโครงสร้างทางสังคมด้วย
ดังนั้นปัจเจกบุคคลจึงเป็นสิ่งที่ถูกจัดวางอยู่ภายในขอบเขตและปรับตัวให้สอดคล้องกับสังคม
ดังนั้นอาจกล่าวได้ว่าอิทธิพลของมาร์กซ์และเดอร์ไคม์มีผลต่อวิธีคิดเกี่ยวกับเรื่องของร่างกายทั้งการมองว่าร่างกายเป็นสิ่งเริ่มต้นของการผลิตหรือการสร้างสรรค์ของมนุษย์
ดังเช่น มาร์กซ์พูดถึงความสัมพันธ์ของร่างกายที่เป็นสิ่งธรรมชาติ(natural)ที่สัมพันธ์กับความต้องการของสังคม(Social need)
ดังเช่นมือเป็นอวัยวะของแรงงาน(hand as the organ of labor)
ที่มีความสำคัญต่อการปรับตัวและการพัฒนาสิ่งแวดล้อมรอบตัวของมนุษย์เพื่อนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อตัวเองและสังคม
โดยเฉพาะความสามารถในการผลิต(productive capacities)
ที่นำไปสู่การประดิษฐ์คิดค้นและการพัฒนาเครื่งมือเครื่องใช้ที่มีควาซับซ้อนเพื่อการดำรงอยู่และใช้ในการดำรงชีวิตทางเศรษฐกิจของมนุษย์
ปัญหาเกี่ยวกับจิตใจและร่างกาย (MIND-BODY
PROBLEM)
ภายใต้มรกดกของแนวคิดแบบทวิลักษณ์(Dualism) คู่แย้ง(dichotomous pairs)หรือผู้ที่นิยมเดการ์ต
(The Cartesian Legacy) ความคิดเกี่ยวกับจิตใจและร่างกาย คือสิ่งที่สัมพันธ์กับแนวความคิดอื่นๆที่อยู่ตรงกันข้ามกับญาณวิทยาแบบตะวันตก
เช่นความสัมพันธ์ระหว่างธรรมชาติกับวัฒนธรรม(nature and culture) ธรรมชาติและเหตุผล(passion and reason) มีเหตุผลกับไร้เหตุผล
(rationality and irrationality)ปัจเจกบุคคลกับสังคม(individual
and society) ดังเช่น
การจัดลำดับชั้นในเรื่องเพศสภาพ สามารถเป็นสิ่งที่สนุบสนุนกับความเป็นผู้ชายและความเป็นผู้ใหญ่ซึ่งเป็นสิ่งที่สอดคล้องกับขอบเขตของวัฒนธรรม ความคิด เหตุผลและความมีเหตุผล
ในขณะที่ผู้หญิงและเด็กเป็นสิ่งที่ถูกกำหนดภายใต้ขอบเขตของธรรมชาติ ร่างกาย
ความไร้เหตุผลและอารมณ์ความรู้สึก (Lloyd 1984; MacCormack and Strathern
1980)
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น