ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

Ecosophy ภูมิปัญญานิเวศวิทยา ของ Felix Guattari โดย นัฐวุฒิ สิงห์กุล

Ecosophy (หรือ ภูมิปัญญานิเวศวิทยา) เป็นแนวคิดที่ผสานปรัชญาและนิเวศวิทยาเข้าด้วยกัน โดยมุ่งเน้นการพิจารณาความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ ธรรมชาติ และโลกในภาพรวม แนวคิดนี้เกิดขึ้นเพื่อตอบสนองต่อปัญหาสิ่งแวดล้อมและวิกฤตทางนิเวศน์ที่เกิดจากกิจกรรมของมนุษย์ โดยพยายามสร้างกรอบความคิดที่สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ในเชิงลึก ทั้งในระดับบุคคล สังคม และระบบนิเวศ ดังนั้น“Ecosophy” (ภูมิปัญญานิเวศวิทยา) ซึ่งหมายถึงการคิดและปฏิบัติอย่างบูรณาการในทุกมิติ โดยดเฉพาะมิติทางสังคม ทางจิตวิญญาณ และสิ่งแวดล้อม “It is the relationship between subjectivity and its exteriority – be it social, animal, vegetable, cosmic – that constitutes the foundation of an authentic ecology. ” Guattari เน้นว่าความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับโลกภายนอก (ทั้งในมิติทางสังคมและธรรมชาติ) เป็นพื้นฐานของนิเวศที่แท้จริง “Integrated world capitalism tends to reduce the three ecologies to a single dimension – the profit-driven exploitation of resources.” ระบบทุนนิยมแบบรวมศูนย์ทำลายความสมดุลของสามมิติ โดยมุ่งเน้นแต่ผลกำไร The earth is undergoing a period of intense techno-scientific transformations. These should not be reduced to their techno-economic aspect but should be rethought in terms of their impact on society, culture, and subjectivity.” Guattari กล่าวว่าความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีควรพิจารณาในแง่มุมที่ลึกซึ้งกว่าเศรษฐกิจ เช่น ผลกระทบต่อสังคม วัฒนธรรม และจิตใจ หนังสือ “The Three Ecologies” (1989) ของ Félix Guattari เป็นงานเขียนที่สำคัญในเชิงปรัชญาและสังคมศาสตร์ โดย Guattari เสนอแนวคิดว่าปัญหาสิ่งแวดล้อมไม่สามารถแยกออกจากปัญหาทางจิตใจและสังคมได้ หนังสือเล่มนี้ชี้ให้เห็นถึงความจำเป็นในการสร้าง “ระบบนิเวศ” ใหม่ในสามมิติหลัก ซึ่งเป็นการแก้ไขปัญหาเชิงองค์รวม Félix Guattari ได้นำเสนอแนวคิด Ecosophy ในมุมมองของ Three Ecologies (นิเวศสามมิติ) ซึ่งมุ่งเน้นความสัมพันธ์ในสามมิติ ได้แก่ นิเวศภายใน (Inner Ecology หรือ Mental Ecology)) ความสมดุลทางจิตใจและอารมณ์ของมนุษย์ เป็นแนวคิดว่าด้วยจิตใจของมนุษย์ การรับรู้ และวิธีที่บุคคลเข้าใจตนเองและโลก ที่เชื่อมโยงกับปัญหาเช่นความโดดเดี่ยวและการบริโภคที่เกินจำเป็นสะท้อนถึงความเสื่อมของ “จิตวิญญาณ” Guattar ยังพูดถึงผลกระทบของ การโฆษณาและสื่อมวลชน ที่ทำให้ผู้คนบริโภคเกินความจำเป็น ซึ่งเชื่อมโยงกับปัญหาความขัดแย้งทางจิตใจ นิเวศทางสังคม (Social Ecology) ความสัมพันธ์ในสังคมและระบบการเมือง ดังนั้นระบบทุนนิยมแบบโลกาภิวัตน์สร้างความไม่เท่าเทียมและกดขี่ Guattari ยกตัวอย่างว่า การตัดไม้ทำลายป่า ในมิติสิ่งแวดล้อม ไม่ได้เป็นเพียงปัญหาธรรมชาติที่ถูกทำลาย แต่ยังส่งผลต่อชุมชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่นั้น (นิเวศสังคม) และวิธีที่คนในพื้นที่รับมือกับการสูญเสียทางวัฒนธรรมและจิตใจ (นิเวศภายใน) นิเวศสิ่งแวดล้อม (Environmental Ecology) ความสัมพันธ์กับธรรมชาติและระบบนิเวศ ดังนั้นการทำลายสิ่งแวดล้อมนั้นเกิดจากระบบทุนนิยมที่มุ่งเน้นผลกำไรเพียงอย่างเดียว Guattari เชื่อว่าการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมต้องรวมถึงการแก้ปัญหาในด้านจิตใจและสังคม ดังเช่น การแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม เช่น การปลูกป่าหรือการฟื้นฟูธรรมชาติ ควรรวมถึงการสร้างความเข้าใจทางสังคมและการดูแลจิตใจของผู้ที่ได้รับผลกระทบ หรือการปฏิรูปสังคมต้องมองข้ามมิติทางเศรษฐกิจ และสร้างความยั่งยืนทั้งในด้านวัฒนธรรมและจิตวิทยาของผู้คน หลักการสำคัญของ Ecosophy 1. Holism มองโลกและธรรมชาติในมุมมององค์รวม (Holistic View 2. Interconnectedness ยอมรับว่าทุกสิ่งเชื่อมโยงถึงกันอย่างซับซ้อน 3. Ethic สร้างจริยธรรมที่เคารพและให้ความสำคัญต่อธรรมชาติ 4. Sustainability มุ่งเน้นการใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืน

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

การนอน มานุษยวิทยาและนักมานุษยวิทยา โดย นัฐวุฒิ สิงห์กุล

 เข้านี้หลังจากตื่นนอน อยากเขียนการนอนในมิติทางมานุษยวิทยากับนักมานุษยวิทยา...    ผมเริ่มต้นกับการลองตั้งคำถามเพื่อหาความรู้เกี่ยวกับการนอนว่า อะไรคือการนอน ทำไมต้องนอน นอนที่ไหน นอนเมื่อไหร่ นอนอย่างไร นอนกับใคร นอนเพื่ออะไรและอื่นๆ..เพื่อจะได้รู้ความสัมพันธ์ของการนอนในมิติต่างๆ การนอนของสิ่งมีชีวิตชนิดอื่นๆแตกต่างจากมนุษย์หรือไม่    หากเปรียบเทียบการนอนของ มนุษย์กับสัตว์สปีชี่ส์อื่นมีการนอนต่างกันหรือเหมือนดันอย่างไร ตัวอย่างเช่น ยีราฟจะนอนครั้งละ 10 นาที รวมระยะเวลานอนทั้งหมด 4.6 ชั่วโมงต่อวัน สัตว์จำพวกค้างคาว และเม่นมีการนอนมากกว่าสัตว์อื่นๆเพราะใช้เวลานอน 17-20ชั่วโมงต่อวัน    สำหรับมนุษย์ การนอนคือส่วนสำคัญอย่างหนึ่งในประสบการณ์ของมนุษย์ การสำรวจการนอนข้ามวัฒนธรรมน่าจะทำให้เราเข้าใจความหมายและปฎิบัติการของการนอนที่มีความซับซ้อนมากขึ้น..     การนอนอาจจะเป็นเรื่องของทางเลือก แต่เป็นทางเลือกที่อาจถูกควบคุมบังคับ โดยโครงสร้างทางสังคมวัฒนธรรม นอนเมื่อไหร่ นอนเท่าไหร่ นอนที่ไหน นอนอย่างไร และนอนกับใคร..     ในสังคมตะวันตก อุดมคติเก...

Biomedical Model และ Bio-Psycho-social Mode

(1)        อะไรคือ Biomedical Model และ Bio-Psycho-social Model ? แนวคิดแบบจำลองทางชีวะการแพทย์ ( Biomeaical Model ) เริ่มต้นในช่วงกลางศตวรรษที่ 19 ที่ความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์และการแพทย์มีการพัฒนาอย่างเติบโตรวดเร็วและกว้างขวาง การค้นพบเครื่องมือทางการแพทย์ที่ทันสมัยอย่างกล้องจุลทรรศน์ ทำให้มนุษย์ได้เห็นสิ่งที่ไม่เคยเห็น แม้แต่สิ่งที่เล็กที่สุดในร่างกายของมนุษย์ รวมถึงเชื้อโรคหรือสิ่งแปลกปลอมต่างๆที่เข้าสู่ร่างกายของมนุษย์ ซึ่งเป็นสิ่งที่แพทย์ใช้วินิจฉัยสาเหตุของโรคและความเจ็บป่วย แบบจำลองนี้ ดังนั้นแบบจำลองนี้เสนอว่า โรคหรือความผิดปกติทางกาย( Physiology )ซึ่งเกิดจากการบาดเจ็บ ความผิดปกติของพันธุกรรม ( Abnomal Genetics ) ความไม่สมดุลทางชีวะเคมี ( Biochemistry ) เรื่องของพยาธิวิทยา ( Pathology )   แบคทีเรีย หรือไวรัส หรือสิ่งอื่นๆที่คล้ายคลึงกันที่นำไปสู่การติดเชื้อและความเจ็บป่วยของมนุษย์ ซึ่งแนวคิดดังกล่าวนี้ไม่ได้อธิบายบทบาทของปัจจัยทางสังคม( The role of Social factors )หรือความคิดของปัจเจกบุคคล  ( Individual Subjectivity ) โดยแบบจำลองทางชีวะ...

เฟอร์ดิน็องต์ เดอร์ โซซูร์

เฟอร์ดิน็องต์ เดอร์ โซซูร์ (1857-1923) นักภาษาศาสตร์ชาวสวิสเซอร์แลนด์ เป็นผู้มีบทบาทอย่างสำคัญในประวัติศาสตร์ของพวกโครงสร้างนิยม   ที่มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาสัญวิทยาในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 และช่วงต้นศตวรรษที่ 20 โดยเฉพาะการเคลื่อนไหวของ เลวี่ สเตร๊าท์ (Levi-Strauss) ชาร์ค ลากอง (Jacques Lacan) และ โรล็องต์ บาร์ธ (Roland Barthes) รวมถึง มิเชล ฟูโก้ (Micheal Foucault) ที่ได้กลับมาวางรางฐานและปฎิเสธเกี่ยวกับโครงสร้างนิยม ภายใต้ทิศทางใหม่ของหลังโครงสร้างนิยม (Post-Structuralism) ในคำบรรยายเริ่มแรกของเขาที่มหาวิทยาลัยเจนีวา ในช่วงปี 1906-1911 และการตีพิมพ์โครงร่างงานของเขาที่เขียนไว้ และคำบรรยายของเขาที่ลูกศิษย์ได้รวบรวมไว้ ภายหลังการมรณกรรมของเขาเมื่อปี 1915-1916   ภายใต้ชื่อ Course de linguistique   Generale ซึ่งถูกแปลเป็นภาษาอังกฤษและเผยแพร่ในยุโรป ภายใต้ชื่อ Course in general linguistic ในปี 1960 เขาได้นำเสนอความคิดว่า การศึกษาภาษาศาสตร์ในปัจจุบัน สามารถศึกษาได้อย่างเป็นวิทยาศาสตร์ ซึ่งน่าจะได้รับอิทธิพลจากอีมิล เดอร์ไคม์ (Emile D...