ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

วิวัฒนาการทางพันธุกรรม และวิวัฒนาการทางวัฒนธรรม โดย นัฐวุฒิ สิงห์กุล

Inheritance คือ การสืบทอดทางพันธุกรรมและวิวัฒนาการ ที่มีผลกระทบต่อสังคมสมัยใหม่ หนังสือเล่มนี้สำรวจว่ากระบวนการทางชีววิทยาและการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมส่งผลต่อวิวัฒนาการของสังคมมนุษย์อย่างไร โดยนำแนวคิดจากทฤษฎีวิวัฒนาการมาประยุกต์ใช้ในการทำความเข้าใจการเปลี่ยนแปลงทางประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และเทคโนโลยี ตัวอย่างที่น่าสนใจเช่น 1. ผลกระทบของวิวัฒนาการต่อสังคม หนังสืออธิบายว่าการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมและการเลือกสรรตามธรรมชาติมีบทบาทสำคัญในประวัติศาสตร์ของมนุษย์ โดยผลกระทบเหล่านี้ไม่ใช่แค่ทางชีววิทยาเท่านั้น แต่ยังครอบคลุมถึงความสามารถทางปัญญาและการจัดการสังคมด้วย 2. การถ่ายทอดมรดกทางวัฒนธรรมและชีววิทยา มรดกทางวัฒนธรรม เช่น ภาษา ความเชื่อ และความรู้ สามารถถ่ายทอดต่อจากรุ่นสู่รุ่นคล้ายกับลักษณะทางพันธุกรรม และการที่สังคมมนุษย์สืบทอดวัฒนธรรมส่งผลให้เกิดการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง 3. วิวัฒนาการและสภาพแวดล้อม มนุษย์วิวัฒนาการมาพร้อมกับการปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อม และสิ่งแวดล้อมนั้นส่งผลกระทบต่อการพัฒนาทั้งทางสังคมและเทคโนโลยี เช่น การเกษตร การขยายตัวของประชากร และการเกิดขึ้นของอารยธรรม แนวคิดหลักที่อาจจะใช้เป็นมุมมองพิจารณาเรื่องนี้ เช่น 1. การสืบทอดทางพันธุกรรมและวัฒนธรรม การเชื่อมโยงระหว่างการถ่ายทอดทางพันธุกรรมและการถ่ายทอดความรู้ทางวัฒนธรรม โดยอธิบายว่ามนุษย์ไม่เพียงแต่พึ่งพาการถ่ายทอดลักษณะทางชีวภาพ แต่ยังสร้างความสามารถในการถ่ายทอดข้อมูลและแนวคิดจากรุ่นสู่รุ่นด้วย 2. ความเชื่อมโยงระหว่างวิวัฒนาการและประวัติศาสตร์ การศึกษาวิวัฒนาการของมนุษย์สามารถอธิบายกระบวนการทางประวัติศาสตร์ได้ เช่น การขยายตัวของประชากรมนุษย์ การสร้างเทคโนโลยี และการเติบโตของสังคมเมือง 3. วิวัฒนาการของการเป็นสังคมสมัยใหม่ การผสมผสานระหว่างวิวัฒนาการทางชีววิทยาและวัฒนธรรมทำให้สังคมมนุษย์สามารถเปลี่ยนแปลงและเติบโตสู่ความซับซ้อนมากขึ้น ซึ่งส่งผลให้เกิดการพัฒนาสังคมสมัยใหม่ในปัจจุบัน ดังนั้น Inheritance เป็นการผสมผสานระหว่างทฤษฎีทางชีววิทยาวิวัฒนาการและการศึกษาทางสังคม เพื่อแสดงให้เห็นว่ามนุษย์พัฒนามาจากการสืบทอดลักษณะทางพันธุกรรมและวัฒนธรรมที่เชื่อมโยงกัน โดยหนังสือเล่มนี้เน้นถึงการถ่ายทอดทั้งทางชีวภาพและวัฒนธรรมที่มีผลกระทบต่อการก่อตัวของโลกสมัยใหม่ ตัวอย่างผลกระทบของวิวัฒนาการและการถ่ายทอดทางพันธุกรรมและวัฒนธรรมต่อการพัฒนาสังคมสมัยใหม่ โดยมีตัวอย่างที่โดดเด่นดังนี้: 1. การพัฒนาเทคโนโลยีการเกษตร ่ตัวอย่างเชิงรูปธรรมที่น่าสนใจคือการปรับตัวของมนุษย์ต่อการเปลี่ยนแปลงสิ่งแวดล้อมผ่านการพัฒนาเทคโนโลยีการเกษตร มนุษย์สามารถใช้ความรู้และนวัตกรรมที่สืบทอดผ่านรุ่นต่าง ๆ เพื่อเปลี่ยนแปลงวิธีการทำเกษตรจากการเก็บหาอาหารแบบดั้งเดิมสู่การปลูกพืชและเลี้ยงสัตว์ ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มการผลิตอาหาร แต่ยังสนับสนุนการขยายตัวของประชากรและการตั้งถิ่นฐานที่เป็นถาวรมากขึ้น ตัวอย่างนี้แสดงให้เห็นถึงการที่การสืบทอดทางวัฒนธรรมและเทคโนโลยีเข้ามาแทนที่การคัดเลือกทางธรรมชาติ และกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่กำหนดความสำเร็จในการปรับตัวของมนุษย์ในยุคสมัยใหม่ 2. การปรับตัวต่อโรคระบาด ในบางภูมิภาค มนุษย์ได้พัฒนาการต้านทานต่อโรคบางอย่างเนื่องจากการสืบทอดทางพันธุกรรม ตัวอย่างเช่น การแพร่ระบาดของโรคมาลาเรียในแอฟริกา ทำให้คนในภูมิภาคนี้บางกลุ่มพัฒนาลักษณะทางพันธุกรรมที่เรียกว่า "เซลล์รูปเคียว" (Sickle Cell Trait) ซึ่งช่วยลดโอกาสที่จะติดเชื้อมาลาเรีย แม้ว่าจะมีข้อเสียในด้านการทำให้เกิดภาวะโลหิตจาง (Anemia) ก็ตาม การเปลี่ยนแปลงนี้เป็นตัวอย่างที่ดีของการคัดเลือกทางธรรมชาติที่มีผลต่อการสืบทอดทางพันธุกรรมและความสามารถในการอยู่รอดในสิ่งแวดล้อมที่เฉพาะเจาะจง 3. การขยายตัวของภาษา การวิวัฒนาการของภาษาก็เป็นอีกตัวอย่างที่ชัดเจนของการสืบทอดทางวัฒนธรรม มนุษย์ใช้ภาษาในการถ่ายทอดความรู้จากรุ่นสู่รุ่น และภาษาที่มีการพัฒนาอย่างรวดเร็วช่วยส่งเสริมความสามารถในการปรับตัวและการอยู่ร่วมกันในสังคมขนาดใหญ่ ตัวอย่างเชิงรูปธรรมคือ การที่ภาษาอังกฤษกลายเป็นภาษาสากลที่มีการใช้ทั่วโลก แม้ว่าจะไม่ใช่ภาษาแม่ของคนส่วนใหญ่ แต่การสืบทอดภาษาในเชิงวัฒนธรรมผ่านระบบการศึกษา การสื่อสาร และเทคโนโลยี ทำให้ภาษาอังกฤษมีบทบาทสำคัญในเศรษฐกิจและการเมืองของโลก 4. การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการกิน วิวัฒนาการของการบริโภคอาหารเป็นอีกตัวอย่างหนึ่งที่สะท้อนถึงการถ่ายทอดทางวัฒนธรรมที่เชื่อมโยงกับวิวัฒนาการทางชีววิทยา มนุษย์ได้พัฒนาพฤติกรรมการกินอาหารตามสภาพแวดล้อม เช่น การพัฒนาเครื่องมือในการล่าสัตว์ การเก็บเกี่ยวพืช และการเลี้ยงสัตว์ เมื่อเวลาผ่านไป การพัฒนาการทำอาหารและวิธีการปรุงอาหารทำให้สามารถบริโภคอาหารที่หลากหลายมากขึ้น ซึ่งทำให้สมองมีพัฒนาการและสามารถอยู่รอดได้ในสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกันไป ตัวอย่างที่ดีคือ การใช้ไฟในการปรุงอาหาร ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยลดพลังงานที่ต้องใช้ในการย่อยอาหาร และทำให้มนุษย์มีพลังงานมากขึ้นในการพัฒนากิจกรรมทางสังคมและปัญญา 5. การสร้างสังคมเมือง การขยายตัวของประชากรและการพัฒนาทางเทคโนโลยีและการเกษตรทำให้เกิดการตั้งถิ่นฐานถาวรและการพัฒนาสังคมเมือง การถ่ายทอดความรู้ด้านการจัดการทรัพยากร และการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมและเทคโนโลยีในสังคมเมืองช่วยส่งเสริมการเติบโตของอารยธรรม เช่น การพัฒนาการก่อสร้างเมือง ระบบการปกครอง และการค้าระหว่างประเทศ ตัวอย่างคือ การขยายตัวของจักรวรรดิโรมันที่นำไปสู่การพัฒนาเมืองใหญ่ ระบบกฎหมาย การปกครอง และเทคโนโลยีที่มีอิทธิพลต่อโลกจนถึงทุกวันนี้ ตัวอย่างเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงบทบาทของการถ่ายทอดทางพันธุกรรมและวัฒนธรรมที่มีผลกระทบต่อการพัฒนาและการปรับตัวของมนุษย์ในโลกสมัยใหม่ ทั้งหมดคือความเชื่อมโยงแนวคิดเรื่องวิวัฒนาการกับวัฒนธรรมในปัจจุบัน

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

การนอน มานุษยวิทยาและนักมานุษยวิทยา โดย นัฐวุฒิ สิงห์กุล

 เข้านี้หลังจากตื่นนอน อยากเขียนการนอนในมิติทางมานุษยวิทยากับนักมานุษยวิทยา...    ผมเริ่มต้นกับการลองตั้งคำถามเพื่อหาความรู้เกี่ยวกับการนอนว่า อะไรคือการนอน ทำไมต้องนอน นอนที่ไหน นอนเมื่อไหร่ นอนอย่างไร นอนกับใคร นอนเพื่ออะไรและอื่นๆ..เพื่อจะได้รู้ความสัมพันธ์ของการนอนในมิติต่างๆ การนอนของสิ่งมีชีวิตชนิดอื่นๆแตกต่างจากมนุษย์หรือไม่    หากเปรียบเทียบการนอนของ มนุษย์กับสัตว์สปีชี่ส์อื่นมีการนอนต่างกันหรือเหมือนดันอย่างไร ตัวอย่างเช่น ยีราฟจะนอนครั้งละ 10 นาที รวมระยะเวลานอนทั้งหมด 4.6 ชั่วโมงต่อวัน สัตว์จำพวกค้างคาว และเม่นมีการนอนมากกว่าสัตว์อื่นๆเพราะใช้เวลานอน 17-20ชั่วโมงต่อวัน    สำหรับมนุษย์ การนอนคือส่วนสำคัญอย่างหนึ่งในประสบการณ์ของมนุษย์ การสำรวจการนอนข้ามวัฒนธรรมน่าจะทำให้เราเข้าใจความหมายและปฎิบัติการของการนอนที่มีความซับซ้อนมากขึ้น..     การนอนอาจจะเป็นเรื่องของทางเลือก แต่เป็นทางเลือกที่อาจถูกควบคุมบังคับ โดยโครงสร้างทางสังคมวัฒนธรรม นอนเมื่อไหร่ นอนเท่าไหร่ นอนที่ไหน นอนอย่างไร และนอนกับใคร..     ในสังคมตะวันตก อุดมคติเก...

Biomedical Model และ Bio-Psycho-social Mode

(1)        อะไรคือ Biomedical Model และ Bio-Psycho-social Model ? แนวคิดแบบจำลองทางชีวะการแพทย์ ( Biomeaical Model ) เริ่มต้นในช่วงกลางศตวรรษที่ 19 ที่ความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์และการแพทย์มีการพัฒนาอย่างเติบโตรวดเร็วและกว้างขวาง การค้นพบเครื่องมือทางการแพทย์ที่ทันสมัยอย่างกล้องจุลทรรศน์ ทำให้มนุษย์ได้เห็นสิ่งที่ไม่เคยเห็น แม้แต่สิ่งที่เล็กที่สุดในร่างกายของมนุษย์ รวมถึงเชื้อโรคหรือสิ่งแปลกปลอมต่างๆที่เข้าสู่ร่างกายของมนุษย์ ซึ่งเป็นสิ่งที่แพทย์ใช้วินิจฉัยสาเหตุของโรคและความเจ็บป่วย แบบจำลองนี้ ดังนั้นแบบจำลองนี้เสนอว่า โรคหรือความผิดปกติทางกาย( Physiology )ซึ่งเกิดจากการบาดเจ็บ ความผิดปกติของพันธุกรรม ( Abnomal Genetics ) ความไม่สมดุลทางชีวะเคมี ( Biochemistry ) เรื่องของพยาธิวิทยา ( Pathology )   แบคทีเรีย หรือไวรัส หรือสิ่งอื่นๆที่คล้ายคลึงกันที่นำไปสู่การติดเชื้อและความเจ็บป่วยของมนุษย์ ซึ่งแนวคิดดังกล่าวนี้ไม่ได้อธิบายบทบาทของปัจจัยทางสังคม( The role of Social factors )หรือความคิดของปัจเจกบุคคล  ( Individual Subjectivity ) โดยแบบจำลองทางชีวะ...

เฟอร์ดิน็องต์ เดอร์ โซซูร์

เฟอร์ดิน็องต์ เดอร์ โซซูร์ (1857-1923) นักภาษาศาสตร์ชาวสวิสเซอร์แลนด์ เป็นผู้มีบทบาทอย่างสำคัญในประวัติศาสตร์ของพวกโครงสร้างนิยม   ที่มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาสัญวิทยาในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 และช่วงต้นศตวรรษที่ 20 โดยเฉพาะการเคลื่อนไหวของ เลวี่ สเตร๊าท์ (Levi-Strauss) ชาร์ค ลากอง (Jacques Lacan) และ โรล็องต์ บาร์ธ (Roland Barthes) รวมถึง มิเชล ฟูโก้ (Micheal Foucault) ที่ได้กลับมาวางรางฐานและปฎิเสธเกี่ยวกับโครงสร้างนิยม ภายใต้ทิศทางใหม่ของหลังโครงสร้างนิยม (Post-Structuralism) ในคำบรรยายเริ่มแรกของเขาที่มหาวิทยาลัยเจนีวา ในช่วงปี 1906-1911 และการตีพิมพ์โครงร่างงานของเขาที่เขียนไว้ และคำบรรยายของเขาที่ลูกศิษย์ได้รวบรวมไว้ ภายหลังการมรณกรรมของเขาเมื่อปี 1915-1916   ภายใต้ชื่อ Course de linguistique   Generale ซึ่งถูกแปลเป็นภาษาอังกฤษและเผยแพร่ในยุโรป ภายใต้ชื่อ Course in general linguistic ในปี 1960 เขาได้นำเสนอความคิดว่า การศึกษาภาษาศาสตร์ในปัจจุบัน สามารถศึกษาได้อย่างเป็นวิทยาศาสตร์ ซึ่งน่าจะได้รับอิทธิพลจากอีมิล เดอร์ไคม์ (Emile D...