ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

เซ็กส์และไซเบอร์ : ผลประโยชน์ ความพึงพอใจและเพศวิถีบนชุมชนออนไลน์ นัฐวุฒิ สิงห์กุล

สำหรับผมการนั่งเขียนงานบทความคือความสุขและใช้เวลา พละกำลังเยอะมากในระยะเวลาหลายเดือน ผมมีร่างบทความเก็บไว้เยอะจำนวนหนึ่ง บางร่างยังไม่สมบูรณ์ บางร่างหยุดนิ่ง บางร่างเกือบเสร็จ แต่ผมไม่ลืมจะนำมาขัดเกลาและอัพเดทข้อมูลใหม่ๆเสมอ .. ณ จุดหนึ่งการรอคอยการตีพิมพ์ในวารสารใช้เวลานานมากไม่ว่าจะtci หรือ scopus บางครั้งสิ่งที่ผมคิด ผมอยากถ่ายทอดให้ทันช่วงเวลาที่ทันสมัย. ..Blog จึงเป็นพื้นที่หนึ่ง ที่ผมใช้ลงสิ่งที่อยากเขียน ในวงกว้างและเนื้อหาในนี้ก็ถูกใช้อ้างอิงในวารสาร งานวิจัย ในชุดแบบเรียนของคนอื่นๆเยอะเสียด้วย มีคนเริ่มติดตามอ่านมากขึ้น ทำให้ผมมีแรงที่จะพัฒนาและเกลาบทความเพื่อส่งตีพิมพ์อย่างเป็นทางการเพื่อความก้าวหน้าในอาชีพของตัวเอง..อย่างบางส่วนของร่างบทความชิ้นนี้ที่เคยนำเสนอในเวทีมนุษย์ในโลกดิจิทัล ด้วยระบบความก้าวหน้าทางวิชาการที่ถูกใครบางคนกำหนดทำให้ผมไม่มีทางเลือกมากนักในการเติบโตวิชาการในแนวทางของตัวเอง.. ****เซ็กส์และไซเบอร์ : ผลประโยชน์ ความพึงพอใจและเพศวิถีบนชุมชนออนไลน์*** ภายใต้กระแสโลกาภิวัตน์ที่ทำให้เกิดการไหลเวียนของผู้คน สื่อ เทคโนโลยี การเงินและความคิด รวมถึงสิ่งที่เรียกว่าภูมิทัศน์แห่งเซ็กส์ (Sexscapes) ได้สร้างพื้นที่ของความลื่นไหลในเรื่องของเพศสภาพและเพศวิถี ในฐานที่เป็นส่วนหนึ่งของงานบริการทางเพศ ในอีกด้านหนึ่งของทำให้เห็นภาวะอัตวิสัยและความปรารถนาของผู้คนที่ใช้เพศสภาพและเพศวิถีในการดิ้นรนต่อสูงต่อรองเพื่อความอยู่รอด ในขณะเดียวกันปรากฏการณ์ดังกล่าวก็สะท้อนให้เห็นโอกาสและความเสี่ยง การเกิดขึ้นของพื้นที่ที่เรียกว่าภูมิทัศน์แห่งเซ็กส์ จึงเชื่อมโยงให้เห็นปฏิบัติการของผู้หญิงขายบริการทางเพศที่เกี่ยวข้องกับพลังอำนาจทางเศรษฐกิจของโลก การเชื่อมโยงร่างกายให้เป็นสินค้าของความแปลกตา(Exotic)เพื่อนำไปสู่พื้นที่ของกามรมณ์(Erotic)ในธุรกิจเพศเชิงพาณิชย์(Jankowick, 2008) ​ เทคโนโลยีการสื่อสารทางสังคม ดังเช่น ทวิสเตอร์ ไลน์ เฟสบุ๊คและยูทูป เป็นพื้นที่และเครื่องมือของการอำนวยความสะดวกในการติดต่อสื่อสารระหว่างมนุษย์และสะท้อนให้เห็นเพศวิถีของคนในยุคปัจจุบันCorrell​(1995) ชี้ให้เห็นว่าเพศวถีออนไลน์(Online Sexuality) เป็นสิ่งที่ถูกบ่มเพาะและมีพลังอำนาจในทางสังคมมากว่า2ทศวรรษแล้ว ที่เริ่มต้นจากคอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะ (desktop computer) และเครือข่ายคอมพิวเตอร์สาธารณะ (Public computer network) ในช่วงกลางปี1990 ที่ทำให้ความนิยมในการใช้อินเตอร์เน็ตเกิดขึ้นอย่างแพร่หลาย โดยชุดคำของคำว่า เพศวิถีทางอินเตอร์เน็ต(Internet sexuality)หรือ กิจกรรมทางเพศออนไลน์(Online Sexual Activitiesหรือ OSA) ได้อ้างถึงเนื้อหาสาระและกิจกรรมที่สัมพันธ์กับเรื่องเพศที่พบได้ในพื้นที่ออนไลน์(Adam, Oye, & Parker,2003; Cooper, McLoughlin, & Campbell,2000) พื้นที่เหล่านี้ได้ออกแบบกิจกรรมและรูปแบบทางเพศที่หลากหลาย เช่น ภาพโป๊เปลือย ความรู้เรื่องเพศศึกษา การติดต่อซื้อขายกันในประเด็นเรื่องทางเพศ เป็นต้น ​ เช่นเดียวกับ Nicola M. Doring (2009) ได้รวบรวมประเด็นที่เกี่ยวกับพื้นที่อินเตอร์เน็ตกับผลกระทบต่อเรื่องเพศวิถี โดยชี้ให้เห็นว่าพื้นที่ของออนไลน์กับลักษณะของกิจกรรมที่เรียกว่า เพศวิถีออนไลน์ มี 6 ลักษณะคือ ​1. ภาพโป๊เปลือยบนอินเตอร์เน็ต (Pornograohy on the internet) ในเรื่องของการผลิต การแลกเปลี่ยน การแจกจ่าย การอธิบายบรรยายเกี่ยวกับเรื่องเพศ ทั้งในเชิงการค้าและไม่ใช่การค้าเกี่ยวกับสิ่งที่เรียกว่าสิ่งลามกอนาจารทางออนไลน์ (online pornography) ทั้งการเสนอขายภาพโป๊เปลือย การไลฟ์สดโชว์หวิว คลิป วีดีโอ ภาพยนตร์ การ์ตูน ข้อความหรือเรื่องราว ที่ถูดกจัดหาผ่านทางเว็ปไซต์ทั้งที่ให้ฟรีและเสียเงิน เป็นต้น ​2. ร้านค้าสินค้าทางเพศบนอินเตอร์เน็ต (Sex shop on the internet) เกี่ยวกับการแสดงสินค้า บริการเกี่ยวกับเรื่องเพศ การแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการทางเพศ ทั้งเซ็กส์ทอยประเภทต่างๆ ยาไวอาก้า ตุ๊กตายาง หนังสือโป๊ เป็นต้น ร้านค้าสินค้าทางเพศในออนไลน์อาจจะดำรงอยู่ในพื้นที่ร้านทางกายภาพด้วยแต่ใช้การพึ่งพาจากร้านค้าออนไลน์ (online sex shop) ในการซื้อขายสินค้าทางเพศ ​3. การขายบริการทางเพศบนอินเตอร์เน็ต (Sex work on the internet) การโฆษณาผ่านอินเตอร์เน็ต การใช้รายละเอียดข้อมูล ข้อมูลเกี่ยวกับรูปร่าง เพศ ราคา สถานที่นัดหมายเพื่อกิจกรรมทางเพศ รวมถึงกิจกรรมทางเพศต่างๆที่สามารถทำได้ ที่ทำให้เห็นการเปลี่ยนแปลงจากการขายบริการทางเพศแบบออฟไลน์(offline sex work) มาสู่การขายบริการทางเพศรูปแบบใหม่บนพื้นที่ออนไลน์(online sex work) ทั้งการไลฟ์สด โชว์หวิว ผ่านเว๊ปแคม การโพสต์รับงานผ่านเว๊ปไซต์ การส่งรูปและพูดคุยผ่านไลน์ เป็นต้น ที่สร้างรูปแบบการติดต่อซื้อขายกับกลุ่มคนที่ใช้อินเตอร์เน็ตอย่างกว้างขวาง การคัดเลือกลูกค้า การติดต่อส่วนบุคคลและการนัดเจอกันบนสถานที่จริงระหว่างผู้ขายบริการกับลูกค้า ​4. เพศศึกษาบนอินเตอร์เน็ต (Sexual Education on the internet) อินเตอร์เน็ตได้เปิดพื้นที่สำหรับ การสืบค้น การแสวงหาความรู้และการให้คำแนะนำเรื่องเพศ ที่ส่งผลต่อทัศนคติ การตระหนักรู้และพฤติกรรมทางเพศของผู้คน การเรียนรู้เรื่องเพศผ่านสื่อต่างๆที่สามารถเข้าถึงกันได้ง่ายมากกว่าการพูดคุยกันในพื้นที่ประจำวันทั่วไปซึ่งเรื่องเพศยังเป็นสิ่งที่คนไม่ชอบพูดคุยกันในพื้นที่สาธารณะ แต่ได้กลายเป็นสิ่งที่ปัจเจกบนสามารถเข้าไปมีส่วนร่วมในกิจกรรมได้อย่างกระตือรือร้น รวดเร็วและง่ายดายผ่านพื้นที่ออนไลน์ ​5. การติดต่อในเรื่องเพศบนอินเตอร์เน็ต (Sexual contact on internet) การสร้างความสัมพันธ์ การทำความรู้จัก การค้นหา การคัดเลือก นัดหมายเพื่อพบเจอ การแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร จินตนาการ ความปรารถนาในทางเพศที่เรียกว่า online sex หรือ Cybersex ที่นำไปสู่สิ่งที่เรียกว่า คู่ความสัมพันธ์ทางเพศที่เกิดขึ้นในโลกไซเบอร์ (Cybersex partner) ซึ่งนำไปสู่ความสัมพันธ์และกิจกรรมทางเพศกันโนโลกที่แท้จริงหรือโลกออฟไลน์ (offline sex) ดังนั้นเซ็กส์ในพื้นที่ออนไลน์สะท้อนให้เห็นการพัฒนารูปแบบใหม่ของการเผชิญหน้าหริการพบปะกันทางเพศของผู้คนในสังคมสมัยใหม่ ​6. วัฒนธรรมย่อยทางเพศบนอินเตอร์เน็ต(Sexual subculture on the internet) การสร้างเครือข่ายของความสัมพันธ์ในกลุ่มคนที่มีอัตลักษณ์ รสนิยม ความชื่นชอบทางเพศวิถีที่คล้ายคลึงกัน เพื่อใช้ในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร แชร์ประสบการณ์และการทำกิจกรรมร่วมกันโลกของออนไลน์และออฟไลน์ เช่นกลุ่มสวิงกิ้ง กลุ่มเกย์ เลสเบี้ยน เป็นต้น ที่สะท้อนให้เห็นเครือข่าย การสนับสนุนทางสังคมและการเคลื่อนไหวทางสังคมของกลุ่มคนเหล่านี้ รวมทั้งสะท้อนให้เห็นตัวตนที่หลากหลายของผู้คนเกี่ยวกับเรื่องทางเพศ การอ้างอิงอัตลักษณ์กับกลุ่มที่มีความชื่นชอบหรือมีความสนใจในเรื่องเดียวกัน ​ ดังนั้นพื้นที่ออนไลน์จึงกลายเป็นพื้นที่สำคัญที่แสดงออกซึ่งความปรารถนาความต้องการในเรื่องของเพศวิถีของผู้คนในยุคปัจจุบันมากขึ้น เช่นเดียวกับ Anthony Gidden (1992) ได้กล่าวถึงความสัมพันธ์ของวัฒนธรรมของผู้บริโภคที่สัมพันธ์กับกระบวนการทำให้เรื่องของเพศกลายเป็นส่วนหนึ่งของระบบวัฒนธรรมในสังคม โดยเฉพาะระบบทุนนิยมในช่วงยุคปลายที่เกิดการเปลี่ยนแปลงพื้นฐานของการผลิตไปสู่พื้นฐานของการบริโภค(Production base to consumption base)ที่ได้สร้างพลังการขับเคลื่อนของผู้บริโภคให้มีลักษณะวิถีชีวิตของความเป็นปัจเจกชนที่มีความลื่นไหล(Flexible individualistic lifestyles) ซึ่งความพึงพอใจทางเพศวิถี(Pleasure sexuality) และเรื่องของกามรมณ์( erotic) กลายเป็นศูนย์กลางที่สำคัญของระบบทุนนิยมช่วงปลาย การเป็นส่วนหนึ่งของงานภายใต้กระแสของโลกาภิวัตน์และวัฒนธรรมการใช้เวลาว่าง(leisure culture)ที่กำลังเติบโตอย่างกว้างขวาง (Gidden,1992:13) อ้างอิงที่มาของข้อมูล Adam, M. S., Oye, J.,& Parker, T. S. (2003). Sexuality of older adults and the internet: From sex education to cybersex. Sexual and Relationship Therapy, 18(3), 405-415. Cooper, A., Delmonico, D.L., & Burg, R. (2000). Cybersex users, abusers, and compulsives: New findings and implications. Sexual Addiction & Compulsivity: The Journal of Treatment and Prevention, 7:51–67. Cooper, A., Mcloughlin, I. P.,&Campbell, K. M. (2000). Sexuality in cyberspace: Update for the 21st century. CyberPsychology and Behavior, 3(4), 521-536. Jankowiak R. William. (2008). Intimacies : Love + Sex Across Culture. USA : Columbia University Press. Nicola M. Doring (2009). The Internet’s impact on sexuality: A critical review of 15 years of research. Computers in Human Behavior 25 (2009) 1089–1101.

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

พิธีกรรม สัญลักษณ์ และ Victor Turner โดยนัฐวุฒิ สิงห์กุล

  พิธีกรรมวิเคราะห์แบบ  Victor turner  ที่ได้รับอิทธิพลทางความคิดจาก  Arnold Van Gennep  ที่มองภาวะภายในของจักรวาลที่ถูกจัดการให้มีลักษณะของการเปลี่ยนผ่านหมุนเวียนของช่วงเวลา  (Periodicity)  ที่จะส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตของมนุษย์   จะทำอะไร   จะปลูกอะไร   ชีวิตของมนุษย์ก็เหมือนกับภาวะของธรรมชาติ   ทั้งตัวปัจเจกชนและกลุ่มสังคม ล้วนแล้วแต่เชื่อมโยงสัมพันธ์ไม่มีส่วนใดที่สามารถแยกขาดได้อย่างอิสระ   โดยพิธีกรรมดังกล่าวจะแบ่งออกเป็น  3  ระยะคือ 1.rite of separation  หรือขั้นของการแยกตัว   ถือว่าเป็นส่วนของพิธีกรรมที่เกี่ยวข้องกับการแยกตัวเองจากสถานภาพเดิม   ผ่านพิธีกรรมที่ทำให้บริสุทธิ์  (purification rites)  เช่น   การโกนผม   การกรีดบนเนื้อตัวร่างกาย   รวมถึงการตัด   การสร้างรอยแผลเป็น   การขลิบ  (scarification or cutting)  ที่เกิดขึ้นกับอวัยวะส่วนใดส่วนหนึ่ง 2.rite of transition  เป็นส่วนของพิธีกรรมที่ว่าด้วยการเปลี่ยนสภาพ   โดยบุคคลที่ร่วมในพิธีกรรมจะมีก...

เฟอร์ดิน็องต์ เดอร์ โซซูร์

เฟอร์ดิน็องต์ เดอร์ โซซูร์ (1857-1923) นักภาษาศาสตร์ชาวสวิสเซอร์แลนด์ เป็นผู้มีบทบาทอย่างสำคัญในประวัติศาสตร์ของพวกโครงสร้างนิยม   ที่มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาสัญวิทยาในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 และช่วงต้นศตวรรษที่ 20 โดยเฉพาะการเคลื่อนไหวของ เลวี่ สเตร๊าท์ (Levi-Strauss) ชาร์ค ลากอง (Jacques Lacan) และ โรล็องต์ บาร์ธ (Roland Barthes) รวมถึง มิเชล ฟูโก้ (Micheal Foucault) ที่ได้กลับมาวางรางฐานและปฎิเสธเกี่ยวกับโครงสร้างนิยม ภายใต้ทิศทางใหม่ของหลังโครงสร้างนิยม (Post-Structuralism) ในคำบรรยายเริ่มแรกของเขาที่มหาวิทยาลัยเจนีวา ในช่วงปี 1906-1911 และการตีพิมพ์โครงร่างงานของเขาที่เขียนไว้ และคำบรรยายของเขาที่ลูกศิษย์ได้รวบรวมไว้ ภายหลังการมรณกรรมของเขาเมื่อปี 1915-1916   ภายใต้ชื่อ Course de linguistique   Generale ซึ่งถูกแปลเป็นภาษาอังกฤษและเผยแพร่ในยุโรป ภายใต้ชื่อ Course in general linguistic ในปี 1960 เขาได้นำเสนอความคิดว่า การศึกษาภาษาศาสตร์ในปัจจุบัน สามารถศึกษาได้อย่างเป็นวิทยาศาสตร์ ซึ่งน่าจะได้รับอิทธิพลจากอีมิล เดอร์ไคม์ (Emile D...

การนอน มานุษยวิทยาและนักมานุษยวิทยา โดย นัฐวุฒิ สิงห์กุล

 เข้านี้หลังจากตื่นนอน อยากเขียนการนอนในมิติทางมานุษยวิทยากับนักมานุษยวิทยา...    ผมเริ่มต้นกับการลองตั้งคำถามเพื่อหาความรู้เกี่ยวกับการนอนว่า อะไรคือการนอน ทำไมต้องนอน นอนที่ไหน นอนเมื่อไหร่ นอนอย่างไร นอนกับใคร นอนเพื่ออะไรและอื่นๆ..เพื่อจะได้รู้ความสัมพันธ์ของการนอนในมิติต่างๆ การนอนของสิ่งมีชีวิตชนิดอื่นๆแตกต่างจากมนุษย์หรือไม่    หากเปรียบเทียบการนอนของ มนุษย์กับสัตว์สปีชี่ส์อื่นมีการนอนต่างกันหรือเหมือนดันอย่างไร ตัวอย่างเช่น ยีราฟจะนอนครั้งละ 10 นาที รวมระยะเวลานอนทั้งหมด 4.6 ชั่วโมงต่อวัน สัตว์จำพวกค้างคาว และเม่นมีการนอนมากกว่าสัตว์อื่นๆเพราะใช้เวลานอน 17-20ชั่วโมงต่อวัน    สำหรับมนุษย์ การนอนคือส่วนสำคัญอย่างหนึ่งในประสบการณ์ของมนุษย์ การสำรวจการนอนข้ามวัฒนธรรมน่าจะทำให้เราเข้าใจความหมายและปฎิบัติการของการนอนที่มีความซับซ้อนมากขึ้น..     การนอนอาจจะเป็นเรื่องของทางเลือก แต่เป็นทางเลือกที่อาจถูกควบคุมบังคับ โดยโครงสร้างทางสังคมวัฒนธรรม นอนเมื่อไหร่ นอนเท่าไหร่ นอนที่ไหน นอนอย่างไร และนอนกับใคร..     ในสังคมตะวันตก อุดมคติเก...