ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

แนวคิดหลังโครงสร้างนิยม โดย นัฐวุฒิ สิงห์กุล

แนวคิดหลังโครงสร้างนิยม
NAME OF THE PERSPECTIVE : แนวคิดหลังโครงสร้างนิยม  (Post-Structuralism )
SUBJECT MATTER :  วาทกรรม (Discourse)  และ ปฏิบัติการของวาทกรรม (Discursive Practice) ความเป็นชายขอบ (Marginalization) ความรู้ (Knowledge) อำนาจ (Power) มายาคติ (Mythology)

LOGIC OF THINKING :  วาทกรรมคือชุดของความรู้ ความจริงและอำนาจที่ทำงานผ่านโครงสร้างของภาษาที่กำหนด ควบคุม ครอบงำ ความคิดและการกระทำของเราอย่างเป็นธรรมชาติ (Normalization)  โดยแนวความคิดหลังโครงสร้างนิยมพัฒนามาจากแนวความคิดโครงสร้างนิยมที่ได้รับอิทธิพลจากนักภาษาศาสตร์ชาวสวิสฯชื่อ Ferdinance De Saussure และนักมานุษยวิทยาอย่าง Clude Levi-Straussที่มองว่า ภาษาเป็นตัวกำหนดและควบคุมโครงสร้างความคิดและพฤติกรรมของคนและทำให้คนกระทำตามโครงสร้างทางภาษานั้น ซึ่งต่อมาแนวคิดดังกล่าวได้พัฒนามาสู่การเชื่อมโยงกับเรื่องของอำนาจ เพราะภาษาเข้ามาครอบงำความคิดและการกระทำของมนุษย์ในสังคม ในแนวคิดเรื่องวาทกรรมของมิเชล ฟูโก (Michel Foucault) และการวิเคราะห์ของฟูโกเกี่ยวข้องกับเรื่องของความรู้และอำนาจ ในการมองอำนาจในลักษณะเชิงลบ ที่อำนาจเป็นประเด็นเกี่ยวกับการกีดกัน บังคับ สกัดกั้น ควบคุม  ตัดตอน ปิดบัง สัมพันธภาพทางอำนาจจึงอยู่ในแนวตั้งฉาก จากจุดหนึ่งไปสู่จุดหนึ่ง จากบนลงล่าง โดยก้าวไปสู่แนวความคิดเรื่องอำนาจที่ปรากฏในรูปของอำนาจในลักษณะเชิงบวก มองอำนาจในลักษณะแนวระนาบ ที่สำคัญก็คือการมองอำนาจในเชิงบวกที่เป็นเรื่องของความมีประสิทธิภาพของความจริงที่ปรากฏอยู่อำนาจผลิตความจริง(ความรู้)ก่อนที่จะบีบบังคับควบคุม (อ้างจาก Deluze Gilles :1988 :39) อำนาจจึงอยู่ทุกหนแห่ง และขับเคลื่อนตัวเองผ่านวาทกรรมในแต่ละชุด เพื่อเข้ามาควบคุม ครอบครอง เหนือชีวิตของผู้คน ความรู้เป็นเพียงผลผลิตของอำนาจ ที่เบียดบัง สกัดกลั้น หรือเบียดขับ ความรู้ย่อยอื่นๆให้อยู่ภายในขอบเขตของความไม่น่าเชื่อถือ และการไม่ถูกยอมรับ รวมทั้งกระบวนการทำให้วาทกรรมกระแสหลักนั้นกลายเป็นเรื่องปกติธรรมดาจนได้รับการยอมรับและเชื่อกันในสังคม   ดังนั้นวาทกรรมของความรู้และความจริงที่ทำงานผ่านภาษา อาจจะสร้างมายาคติ อัตลักษณ์ตัวตนภายใต้วาทกรรม เบียดขับและควบคุมให้คนบางกลุ่มตกอยู่ภายใต้วาทกรรมแห่งอำนาจและการกลายเป็นคนชายขอบที่นำมาสู่ปัญหาในสังคมหรือสร้างให้พวกเขากลายเป็นปัญหาแน

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

การนอน มานุษยวิทยาและนักมานุษยวิทยา โดย นัฐวุฒิ สิงห์กุล

 เข้านี้หลังจากตื่นนอน อยากเขียนการนอนในมิติทางมานุษยวิทยากับนักมานุษยวิทยา...    ผมเริ่มต้นกับการลองตั้งคำถามเพื่อหาความรู้เกี่ยวกับการนอนว่า อะไรคือการนอน ทำไมต้องนอน นอนที่ไหน นอนเมื่อไหร่ นอนอย่างไร นอนกับใคร นอนเพื่ออะไรและอื่นๆ..เพื่อจะได้รู้ความสัมพันธ์ของการนอนในมิติต่างๆ การนอนของสิ่งมีชีวิตชนิดอื่นๆแตกต่างจากมนุษย์หรือไม่    หากเปรียบเทียบการนอนของ มนุษย์กับสัตว์สปีชี่ส์อื่นมีการนอนต่างกันหรือเหมือนดันอย่างไร ตัวอย่างเช่น ยีราฟจะนอนครั้งละ 10 นาที รวมระยะเวลานอนทั้งหมด 4.6 ชั่วโมงต่อวัน สัตว์จำพวกค้างคาว และเม่นมีการนอนมากกว่าสัตว์อื่นๆเพราะใช้เวลานอน 17-20ชั่วโมงต่อวัน    สำหรับมนุษย์ การนอนคือส่วนสำคัญอย่างหนึ่งในประสบการณ์ของมนุษย์ การสำรวจการนอนข้ามวัฒนธรรมน่าจะทำให้เราเข้าใจความหมายและปฎิบัติการของการนอนที่มีความซับซ้อนมากขึ้น..     การนอนอาจจะเป็นเรื่องของทางเลือก แต่เป็นทางเลือกที่อาจถูกควบคุมบังคับ โดยโครงสร้างทางสังคมวัฒนธรรม นอนเมื่อไหร่ นอนเท่าไหร่ นอนที่ไหน นอนอย่างไร และนอนกับใคร..     ในสังคมตะวันตก อุดมคติเก...

พิธีกรรม สัญลักษณ์ และ Victor Turner โดยนัฐวุฒิ สิงห์กุล

  พิธีกรรมวิเคราะห์แบบ  Victor turner  ที่ได้รับอิทธิพลทางความคิดจาก  Arnold Van Gennep  ที่มองภาวะภายในของจักรวาลที่ถูกจัดการให้มีลักษณะของการเปลี่ยนผ่านหมุนเวียนของช่วงเวลา  (Periodicity)  ที่จะส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตของมนุษย์   จะทำอะไร   จะปลูกอะไร   ชีวิตของมนุษย์ก็เหมือนกับภาวะของธรรมชาติ   ทั้งตัวปัจเจกชนและกลุ่มสังคม ล้วนแล้วแต่เชื่อมโยงสัมพันธ์ไม่มีส่วนใดที่สามารถแยกขาดได้อย่างอิสระ   โดยพิธีกรรมดังกล่าวจะแบ่งออกเป็น  3  ระยะคือ 1.rite of separation  หรือขั้นของการแยกตัว   ถือว่าเป็นส่วนของพิธีกรรมที่เกี่ยวข้องกับการแยกตัวเองจากสถานภาพเดิม   ผ่านพิธีกรรมที่ทำให้บริสุทธิ์  (purification rites)  เช่น   การโกนผม   การกรีดบนเนื้อตัวร่างกาย   รวมถึงการตัด   การสร้างรอยแผลเป็น   การขลิบ  (scarification or cutting)  ที่เกิดขึ้นกับอวัยวะส่วนใดส่วนหนึ่ง 2.rite of transition  เป็นส่วนของพิธีกรรมที่ว่าด้วยการเปลี่ยนสภาพ   โดยบุคคลที่ร่วมในพิธีกรรมจะมีก...

เฟอร์ดิน็องต์ เดอร์ โซซูร์

เฟอร์ดิน็องต์ เดอร์ โซซูร์ (1857-1923) นักภาษาศาสตร์ชาวสวิสเซอร์แลนด์ เป็นผู้มีบทบาทอย่างสำคัญในประวัติศาสตร์ของพวกโครงสร้างนิยม   ที่มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาสัญวิทยาในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 และช่วงต้นศตวรรษที่ 20 โดยเฉพาะการเคลื่อนไหวของ เลวี่ สเตร๊าท์ (Levi-Strauss) ชาร์ค ลากอง (Jacques Lacan) และ โรล็องต์ บาร์ธ (Roland Barthes) รวมถึง มิเชล ฟูโก้ (Micheal Foucault) ที่ได้กลับมาวางรางฐานและปฎิเสธเกี่ยวกับโครงสร้างนิยม ภายใต้ทิศทางใหม่ของหลังโครงสร้างนิยม (Post-Structuralism) ในคำบรรยายเริ่มแรกของเขาที่มหาวิทยาลัยเจนีวา ในช่วงปี 1906-1911 และการตีพิมพ์โครงร่างงานของเขาที่เขียนไว้ และคำบรรยายของเขาที่ลูกศิษย์ได้รวบรวมไว้ ภายหลังการมรณกรรมของเขาเมื่อปี 1915-1916   ภายใต้ชื่อ Course de linguistique   Generale ซึ่งถูกแปลเป็นภาษาอังกฤษและเผยแพร่ในยุโรป ภายใต้ชื่อ Course in general linguistic ในปี 1960 เขาได้นำเสนอความคิดว่า การศึกษาภาษาศาสตร์ในปัจจุบัน สามารถศึกษาได้อย่างเป็นวิทยาศาสตร์ ซึ่งน่าจะได้รับอิทธิพลจากอีมิล เดอร์ไคม์ (Emile D...