Positivism
|
Interpretive
|
Critical
|
|
1.เหตุผลในการวิจัย
|
หากฏเกณฑ์ทั่วไปเพื่อให้คนสามารถทำนายและควบคุมสถานการณ์ได้
|
เข้าใจและอธิบาย Social Action
|
ทำลายความเชื่อเดิมและเสริมอำนาจให้ผู้คน
เพื่อเปลี่ยนสังคมอย่างถอนรากถอนโคน
|
2.ธรรมชาติของความเป็นจริงทางสังคม
|
ความเป็นจริงคงที่และอยู่กันอย่างมีระบบ
สามารถไปค้นหาได้
|
ความเป็นจริง
เป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงได้เพราะเกิดขึ้นจากการที่คนมีปฏิสัมพันธ์กัน
|
ในความเป็นจริงสังคมมีความขัดแย้งที่เกิดจากโครงสร้าง
|
3.ธรรมชาติของมนุษย์
|
ปัจจัยภายนอกทำให้คนมีความเป็นเหตุเป็นผล
|
มนุษย์สร้างความหมายและทำความเข้าใจโลก
|
มนุษย์ที่สร้างสรรค์
ปรับตัวได้ถูกมายาคติที่เกิดจากการขี่บดบังไม่ให้เห็นความสามารถของตน
|
4.บทบาทของสามัญสำนึก
|
สามัญสำนึกต่างกับวิทยาศาสตร์และมีความน่าเชื่อถือน้อยกว่าวิทยาศาสตร์
|
สามัญสำนึกคือทฤษฎีที่มีพลังซึ่งสร้างขึ้นโดยสามัญชน
|
สามัญสำนึกคือ
ความเชื่อผิดๆที่ทำให้คนมองไม่เห็นถึงอำนาจและเงื่อนไขทางสังคมที่สร้างสำนึกนี้ขึ้นมา
|
5.โครงสร้างของทฤษฎี
|
ประกอบด้วยตรรกะ
เชื่อมโยงสิ่งต่างๆโดยอาศัยทฤษฎี (ใช้ระบบDeductive)
|
อธิบายว่า
ระบบการให้ความหมายต่อสิ่งต่างๆของคนกลุ่มต่างๆ เผยแพร่ไปยังคนอื่นได้อย่างไร
และได้รับการยอมรับได้อย่างไร
|
บทวิพากษ์ที่เปิดเผยให้เห็นการกดขี่
และเห็นถึงวิถีทางไปสู่สังคมสมัยใหม่ที่ดีกว่า
|
6.การแสดงว่าสิ่งที่ค้นพบเป็นจริง
|
สร้างกฏทั่วไปเพื่ออธิบายความเป็นจริง
|
อธิบายว่ารู้สึกว่าผู้ให้ข้อมูลเป็นคนที่รู้เรื่องนั้นๆดี
|
อธิบายว่าเป็นการให้อาวุธ
แก่ผู้ที่จะเอาไปเปลี่ยนแปลงโลก
|
7. การหาหลักฐานอ้างอิงที่ดี
|
ต้องสังเกตอย่างละเอียด
เพื่อว่าผลที่ได้จะสามารถเอาไปอธิบายที่อื่นๆได้
|
หลักฐานจะอยู่ในบริบททางสังคมของการปฏิสัมพันธ์
|
ใช้ทฤษฎีที่เผยมายาคติ
|
8 ค่านิยมของผู้ศึกษากับการวิจัย
|
ไม่มีค่านิยม ของผู้วิจัย
เข้ามาเกี่ยวข้อง นอกจากการเลือกเรื่องวิจัย
|
ค่านิยมเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตางสังคม
ไม่มีค่านิยมใดถูก-ผิด เพียงแต่มันต่างกันเท่านั้น
|
ศาสตร์ทั้งหลายเริ่มจากค่านิยม
บางค่านิยมก็ผิด บางค่านิยมก็ถูก
|
ตารางเปรียบเทียบ
แนวคิดหลักที่มีอิทธิพลต่อการวิจัยทางสังคมศาสตร์
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น