วันอังคารที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

ประเด้นที่น่าสนใจจากบทความเรื่อง THE HEART OF WHAT'S THE MATTER : The Semantics of Illness in Iran ของ Byron J. Good โดยอ. นัฐวุฒิ สิงห์กุล

บทความเรื่อง THE HEART OF WHAT'S THE MATTER : The Semantics of Illness in Iran ของ Byron J. Good แปลโดยอ. นัฐวุฒิ สิงห์กุล
โรคหัวใจสั่นของผู้หญิงอิหร่าน  วัฒนธรรมชายเป็นใหญ่ เพศวิถีของผู้หญิง: ภาพสทะท้อนความมีอำนาจและความไร้อำนาจ
ในศตวรรษที่ 11 อิทธิพลของ Islamic scholar สอดคลองกับสิ่งที่ Ghazali ไดอธิบายประสบการณความ วิตกกังวลและวิกฤตสวนตัวของเขาวา มีทางแกไขเพียงอยางเดียวเทานั้นโดยการหันเขาหาเวทมนตคาถา ผูคนใน Maragheh ในปจจุบันสะทอนสิ่งที่ Ghazali กลาวถึงเปนอยางดี สําหรับพวกเขาแลวประสบการณที่วิกฤตและนา กังวลที่เปน อาการปวยจากหัวใจ’ (narahatiye qalb) ยังคงมีอยูอยางชัดเจน ผูหญิงรูสึกติดอยูในบานที่แออัด หลังกําแพงสูงตามตรอกซอยที่คดเคี้ยวใน Maragheh ผูชายก็รูสึกกังวลที่ตองตอสูกับแม หรือภรรยาของพวกเขา ผูหญิงที่ตองกินยาคุมกําเนิด หรือที่คลอดลูก  โดยทุกคนจะบนวาหัวใจของพวกเขาเตนผิดปกติ และเนนย้ำวา พวกเขาปวย (maris) และก็จะนําไปสูการไปหาแพทยทองถิ่นเพื่อทําการรักษาความเจ็บปวยดังกลาว ในบทความชิ้นนี้ไดกลาวถึงตัวอยางกรณีของ Mrs  B และ Mrs Z ที่มีความเหมือนกันคือ ทั้งคูแตงงานแลว แตสิ่งที่แตกตางกันคือ นางซี มีสถานะทางสังคม เศรษฐกิจและระดับการศึกษาที่ต่ำกวานางบีมาก เนื่องจากนาง ซี ไมไดเรียนหนังสือ อานไมออก ภูมิหลังของครอบครัวคอนขางยากจนและแตงงานกับสามีที่เปนชางทําเตาอบ ในตลาดนัด ในขณะที่นางบี จะตรงกันขามในแงของมีการศึกษาดีระดับมหาวิทยาลัย และมีตําแหนงหนาที่การ งานในระดับผูบริหาร และแตงงานกับขาราชการในเมือง เรียนจบปริญญาเชนเดียวกันและมีพื้นฐานครอบครัว มาจากคนที่มีฐานะมั่งคั่งเปนครอบครัวพอคาในเมือง Maragheh  ใหเธอใชชีวิตคอนขางหรูหรามีบานที่ใหญโต สวยงามและมีลูก 2 คน ชีวิตของนางบี ใชชีวิตกับการทํางานในออฟฟศมากกวาอยูบาน แตก็ยังตองดูแลเรื่อง อาหารสําหรับลูกและแมสามีที่สูงอายุและมีอาการปวยจากโรคหัวใจและเสนเลือดในสมองอุดตัน ในเรื่องของการถูกกดขี่ ควบคุมการใชชีวิต กรณีของนางซีที่สัมพันธกับการไมรูหนังสือ การนับเงินไมได ทําใหเวลาไปจายตลาดก็ตองถูกควบคุมจากสามีและแมสามี การมีลูกถึง 5 คน ทําใหเธอถูกจํากัดในพื้นที่เฉพาะ กับลูกๆ ในขณะที่หองอื่นๆก็จะถูกครอบครอง โดยแมสามี พอสามี และนองสาวของสามี 2 คน โดยมีการใช ครัวรวมกัน การใชชีวิตถูกจํากัดโดยหนาที่ เชนการทําความสะอาดบาน สวนการออกไปทํากิจกรรมทางสังคม นอกบานนอยมาก เชน การไปรวมงานแตงงานหรือรวมพิธีกรรมความตายทางศาสนาหรือแมแตการเดินทางไป พบหมอในเรื่องของสุขภาพก็ตาม ดังนั้นชีวิตของนางซี คอนขางถูกจํากัดและคุมขังไวภายใตกําแพงอิฐของบาน ในทางตรงกันขามชีวิตของนางบีไมไดถูกจํากัดเชน นางซี แตสัมพันธกับเรื่องพฤติกรรมของสามีที่ใชเงิน ฟุมเฟอยกับการสังสรรคกับเพื่อน มีการดื่มเหลา  สูบบุหรี่ สูบฝน รวมทั้งปญหาเหตุการณตางๆที่เกิดขึ้นในชีวิต ของเธอ เชน  ความตกใจกลัวจากการไดรับขาวอุบัติเหตุที่มีลูกของเธอเดินทางไปดวย การสูญเสียแมสามี รวมทั้งพี่สาวของสามีที่ประสบอุบัติเหตุและตองนอนในโรงพยาบาล
          นางซีอายุ 27 ปี หล่อนมีลูก 5 คน ได้แก่ ลูกสาว 3 คน ลูกชาย 2 คน มีตั้งแต่อายุ 6 เดือน จนถึง 12 ขวบ หล่อนอาศัยอยู่กับสามีของหล่อน (ช่างทำเตาอบในตลาด) และลูกทั้งห้าคน ในบ้านของพ่อของสามี สมาชิกคนอื่นได้แก่ พ่อแม่ของสามี และพี่สาว,น้องสาวสามีอีก 2 คน พวกเขาทั้งหมดใช้ครัวเดี่ยวร่วมกัน บ้านของพวกเขาเป็นบ้านเดี่ยวที่ใช้อิฐบล็อกเป็นบ้านที่มีไฟฟ้าแต่ไม่มีน้ำใช้ เป็นครอบครัวทีมีรายได้เฉลี่ย 100 ดอลล่าร์ต่อเดือน บวกกับรายได้อีกเล็กน้อยจากพี่สะใภ้ของ Mrs. Z. ที่ทำงานเป็นช่างตัดเย็บ ครอบครัวนี้ใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย รายได้ของพวกเขาจะหามาให้เพียงพอกับอาหาร มีเพียงน้อยครั้งที่จะใช้ไปในทางที่พิเศษไปกว่านั้น
นางซีไม่เคยเรียนหนังสือ หล่อนไม่สามารถอ่านและเขียนหนังสือได้ หล่อนไม่รู้วิธีการนับเงิน และทุกครั้งของการจ่ายตลาด(น้อยครั้ง) จะมีสามีหรือพี่สะใภ้ของหล่อนตามไปด้วยทุกครั้ง หล่อนจะไปเยี่ยมพ่อแม่ของหล่อน ซึ่งมีฐานะยากจนกว่าครอบครัวของสามี สัปดาห์ละครั้ง เพื่อไปทำความสะอาดบ้านให้พวกเขา ส่วนทริปอื่นๆก็มีเพียงไม่มาก อาทิ เช่น งานแต่งงานเป็นบางครั้ง งานพิธีกรรมไว้อาลัยทางศาสนาน้อยครั้ง และการเดินทางที่เป็นโอกาสพิเศษ คือ การไปพบหมอ ที่คลินิกสุขภาพ ดังนั้น  นางซีใช้เวลาเกือบทั้งหมดในแต่ละวัน อยู่เพียงภายในบ้าน รอบสนามบ้านของหล่อน และล้อมรอบด้วยลูกๆของหล่อนและครอบครัวของสามี
นางซีมีปัญหาเกี่ยวกับหัวใจ สุขภาพของหล่อนอ่อนแอ หล่อนไร้เรี่ยวแรง ขาดเลือด  และผอมแห้ง(กระดูกไม่มีเนื้อ) หล่อนมักบ่นเกี่ยวกับการเต้นของหัวใจ เส้นประสาทผิดปกติ ประสาทสัมผัสของหัวใจบีบรัดและลดต่ำลง อาการเหล่านี้เป็นต่อเนื่องมา 18 เดือน โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในอาการของหล่อน หล่อนมักบ่นให้คนอื่นฟัง อาทิเช่น สามี คนในครอบครัว เพื่อนบ้าน และนักมานุษยวิทยา มีอยู่ครั้งหนึ่งหล่อนบอกกับภรรยาของผมว่า หล่อนรู้สึกอยากกรีดร้อง หล่อนโทษว่า ความจริงหล่อนอายุ 27 มีลูกห้าคน อาศัยอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมคับแคบจนรู้สึกหายใจไม่ออก และอาศัยอยู่กับแม่ยาย ที่เปรียบเสมือนผู้นำของครอบครัว หล่อนพูดว่าฉันรู้สึกอยากกรีดร้อง แต่ถ้าคุณได้ยินเรื่องราวจากฉัน คุณจะตกใจ ฉันรู้สึกอยากกรีดร้องออกมาให้ดังๆความต้องการของหล่อนที่อยากกรีดร้องออกมา จะถูกปลดปล่อยออกมาเมื่อหล่อนต้องทะเลาะกับแม่ยาย ที่ถูกสะสมทีเล็กทีละน้อยในทุกสัปดาห์ ด้วยการทะเลาะที่เสียงดัง กรีดร้องโหยหวน และร้องไห้เสียงดังมากไปทั่วท้องถนน
ภายใต้ข้อจำกัดของครอบครัวหล่อน  นางซีจึงต้องกินยาเม็ดเพื่อคุม ในระยะเวลาสั้น(น้อยกว่าหนึ่งเดือน) แต่เมื่อหล่อนกินยา หล่อนบอกว่า หัวใจเต้นเร็ว ไม่สม่ำเสมอ มือสั่น ระบบประสาทผิดปกติ อาการทั้งหมดเกิดขึ้นก่อน แต่หล่อนเชื่อว่า อาการยิ่งแย่ลงเพราะยา ก่อนหน้านี้หล่อนกินยาเพื่อคุมกำเนิด ครั้งหนึ่งหล่อนเคยทานยาเพื่อพยายามทำให้แท้งลูกคนสุดท้อง (หล่อนใช้ยากับการทำแท้งและป้องกันการตั้งครรภ์)
บางครั้ง Mrs. ใช้ยาสมุนไพรในการรักษาอาการอ่อนเพลียและความผิดปกติเกี่ยวกับหัวใจ หล่อนไปพบหมอหลายครั้งเพื่อไปปรึกษาเกี่ยวกับอาการอ่อนเพลียและปัญหาเกี่ยวกับหัวใจของหล่อน และจะได้รับยาบำรุงวิตามินบี หล่อนไม่เคยได้รับการบรรเทาจากความเจ็บปวดที่ยาวนาน หล่อนโทษว่าความเจ็บป่วยของหล่อน ขณะมีลูกหลายคน , สภาพแวดล้อมอาศัยที่คับแคบ ความยากจนของครอบครัว และโรคเรื้อรังของน้อยชายหล่อน (ซึ่งเป็นโรคหัวใจ) การใช้ยาคุมกำเนิดในอดีต และความขัดแย้งที่ทำให้เพิ่มความต้องการที่จะหลีกเลี่ยงการตั้งครรภ์และสามารถสร้างความพึงพอใจให้แก่สามีได้ ดังนั้นความเจ็บป่วยทังหมดยังคงดำเนินในร่างกายของพวกเธอต่อเนื่อง
ผู้หญิงในอิหร่าน บอกว่ายาเม็ดคุมกำเนิดทำให้พวกเธอเป็นทุกข์ เพราะกินแล้วใจสั่น (heart palpitation) และรู้สึกกลัดกลุ้ม ไม่สบายใจ (heart distress) แล้วยังเชื่อว่า จะทำให้เกิดจุดช่วงมีประจำเดือน หรือขัดขวางการไหลของประจำเดือน รวมถึงทำให้รู้สึกอ่อนเพลีย และเลือดจาง ที่ต้องจับมือ หรือมีปัญหาเรื่องเสียประสาท (upset nerves) น้ำนมแห้ง (ดังนั้นจึงควรเลี่ยงไปในช่วงการดูแลลูกอ่อน) ซึ่งลามต่อทำให้มดลูกแห้ง และการตกไข่น้อยลง ดังจะเห็นว่า ยาเม็ดคุมกำเนิดมีส่วนเกี่ยวข้องกับหลายปัจจัยที่เป็นสาเหตุของความกลัดกลุ้ม ซึ่งมีความหมายสัมพันธ์อย่างต่อเนื่องกัน
 ยาเม็ดคุมกำเนิด เลือดประจำเดือน และความสกปรก นั่นคือ เลือดประจำเดือนเป็นสิ่งสกปรก ยาที่ใช้ระหว่างเดือนถือศีลอด หรือเดือนฮัจญี เพื่อป้องกันประจำเดือนและความสกปรกที่จะแปดเปื้อนความบริสุทธ์ช่วงถือศีลอด หรือช่วงฮัจญี จุด/รอยจ้ำที่เกิดขึ้นเป็นผลข้างเคียงที่ซีเรียสเพราะแสดงถึงความสกปรก ไม่สามารถสวดมนต์ หรือมีเพศสัมพันธ์ได้ ยาเม็ดคุมกำเนิด ความอ่อนแอ ประจำเดือน ผู้หญิงบอกว่ากินยาทำให้รู้สึกอ่อนเพลีย และการมีประจำเดือนทำให้อ่อนเพลียด้วย เธอมองว่าประจำเดือนเป็นธรรมชาติของผู้หญิง และเราถูกบอกมาอย่างนั้น เพราะเราต้องเสียเลือดจากการมีประจำเดือน
 การทำแท้งและการคลอดก่อนกำหนด การท้องและการคลอด (delivery) จะได้รับผลจาก heart distress และเกี่ยวข้องกับยาเพราะแต่ละเรื่องล้วนเกี่ยวข้องกับเลือดในท่อที่ไม่สะอาด หลังจากที่ผู้หญิงคลอดลูกแล้วถือว่าไม่สะอาด จะต้องมีการล้างออกในวันที่สิบ และอาบต่อเนื่องไปถึงวันที่สี่สิบ เช่นเดียวกับเลือดที่ออกมาช่วงคลอดบุตร หรือเลือดออกเพราะแท้ง เป็นหนึ่งในสิบหรือสิบสองของ nejasat ถือว่าเป็นสิ่งแปดเปื้อน และไม่สะอาด รวมอยู่กับปัสสาวะ อุจจาระ และ the sweat of sexual exertion
ความเชื่อเรื่องประจำเดือนเป็นสิ่งสกปรก เป็นเลือดสกปรก (dirty-blood) ทำให้ผิวคล้ำและมีรังแค ต้องบรรเทาด้วยการกรีดออก (scarification) หรือการดูด (leeching) ออก (เลือดสกปรกจะแสดงออกมาทางผิวหนัง) ซึ่งยาคุมกำเนิดจะขวางการไหลของประจำเดือน ความเจ็บป่วยจึงมาจากเลือดสกปรก การมีผิวขาวและสวยสัมพันธ์กับการขับประจำเดือน เลือดสกปรกทำให้หน้าดำอีกด้วย เลือดสกปรกยังถูกย้ำด้วยจารีตเก่าของการตกเลือดระหว่างช่วงเดือนแรกๆ หลังการคลอดลูก การเล็มผมบนหัว เพื่อกำจัดเลือดสกปรก ซึ่งเชื่อว่า มาจากในมดลูกของแม่ ดังนั้นจะเห็นว่า การตั้งครรภ์และการคลอด ความอ่อนแอ และยาเม็ดคุมกำเนิด มีความหมายเชื่อมโยงกัน และอยู่ในประสบการณ์เลือดสกปรกกับความเจ็บป่วย รวมถึงเลือดประจำเดือน กับการแปดเปื้อนหรือมีมลทิน
การใช้ยาคุมกำเนิดเสี่ยงต่อการเจริญพันธุ์และการให้นมบุตร เนื่องจากยาคุมป้องกันการตั้งครรภ์ และการทำแท้ง จึงอาจเสี่ยงและเป็นอันตรายต่อการเจริญพันธุ์ ผู้หญิงที่ต้องการมีบุตรจะเลี่ยงใช้ยาคุม ความรู้เรื่องอนามัยเจริญพันธุ์ ในกลุ่มผู้หญิงที่ได้รับการศึกษาน้อย จะไม่รู้เลยว่า การปฏิสนธิและการตั้งครรภ์เกิดขึ้นอย่างไร แล้วยาคุมกำเนิดไปขัดขวางการฝังตัวของไข่ที่ได้รับการผสมแล้วอย่างไร เธอจะรู้ว่ามีสเปริ์มหลุดเข้าไปในท่อนำไปสู่รังไข่ ซึ่งสเปริ์มจะเติบโตขึ้นกลายเป็นตัวอ่อนในมดลูกของผู้หญิง ดังนั้นยาคุมกำเนิดจะอันตรายต่อมดลูก แล้วการเชื่อมโยงเข้ากับความแข็งแกร่งและการเจริญพันธุ์ ผู้หญิงคิดว่า การกินยาจะทำให้แก่เร็ว เร่งการเข้าสู่วัยทอง เพราะทำให้มดลูกแห้งและเย็น เป็นช่วงเวลาที่ผู้หญิงกังวลว่าสามีจะไม่สนใจ ถึงขั้นหย่าร้างได้ ดังที่ผู้หญิงคนหนึ่งเล่าว่า “หากเลือด (ประจำเดือน) น้อยลง จะทำให้แก่เร็ว และหน้ากับมือจะดูคล้ายผู้ชายมากขึ้น” Heart Distress สะท้อนความเครียดที่ซับซ้อนของผู้หญิงในอิหร่าน จากร่างกายที่เปี่ยมพลังและดึงดูดผู้ชายที่เป็นอันตราย และต้องควบคุม กับการเผชิญร่างกายที่มีความสกปรก และความชราของตนเอง ประเด็นทางเพศวิถีเป็นเงื่อนไขให้ผู้หญิงเกิดความเครียด และสร้างภาวะใจสั่น heart distress ขึ้น การมองเชิงสังคมจะเห็นถึงความเครียดที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างทางสังคมวัฒนธรรมในอิหร่านแตกต่างไปจากความเครียดอื่นๆ
เพศวิถีของผู้หญิงล้อมรอบด้วยความสับสนในอิหร่าน ผู้หญิงถูกมองว่าเป็นผู้ที่มีพลังมหัศจรรย์และดึงดูดผู้ชาย จากความเชื่อพื้นบ้านแถบเปอร์เซีย แต่พลังเช่นนี้เองจะต้องควบคุม และปกปิดไว้ เพื่อป้องกันมิให้ไปกระตุ้นเร้าจนเกิดความวุ่นวาย ผู้หญิงต้องลดสายลงต่ำตลอดเวลา ห้ามสบตากับผู้ชายที่ไม่ใช่ญาติใกล้ชิดตนเอง ขณะที่ความดึงดูดของผู้หญิง ทำให้เธอเป็นที่ต้องการ กระตุ้นแรงปรารถนา และความรักแก่สามี ซึ่งจะได้ความซื่อสัตย์ ความรัก และทองคำเป็นสิ่งตอบแทน แต่สิ่งกระตุ้นนี้ก็เป็นอันตรายต่อความดีงาม และความสงบเรียบร้อย เมื่อผู้หญิงออกจากบ้านลำพังไม่ได้ จะต้องถูกควบคุม อยู่ภายใต้การดูแลของพ่อ สามี ญาติ หรือไปไหนมาไหนกับเด็กๆ มีข้อห้ามผู้ชายเข้าบ้านผู้ชายคนอื่นในระหว่างที่ภรรยาอยู่บ้านตามลำพัง
การควบคุมเพศวิถีของผู้หญิงยังมาจาก black-hearted ซึ่งเป็นการแสดงออกของผู้ชายต่อผู้หญิง ด้วยการกีดกันและกักเก็บเธอไว้แยกจากสังคม แสดงความหวาดระแวงทุกครั้งที่เห็นการติดต่อกับผู้ชาย แสดงอาการหึงหวงอย่างออกหน้า ผู้เขียนเล่าถึงเพื่อนที่เป็นข้าราชการ เธอถูกสามีกักไว้ไม่ให้ออกมาข้างนอกบ้านในช่วงที่สามีต้องเดินทางไปทำธุระหลายวันในหมู่บ้านอื่น ซึ่งเขาถือกุญแจที่มีเพียงดอกเดียวติดไปด้วย แต่การจำกัดและควบคุมอย่างเข้มงวดนี้ ถูกมองเชิงบวกว่าเป็นการแสดงถึงความรักความห่วงใยผู้หญิงอย่างสุดซึ้ง และสุดแสนจะโรแมนติก เพศวิถีของผู้หญิงยังสะท้อนความกำกวมทางวัฒนธรรมในเรื่องการมีลูก โดยเฉพาะต้องเป็นลูกชาย แต่ผู้ชายซื่อสัตย์อาจถูกทำลายโดยง่าย เพราะความไร้ยางอาย/พฤติกรรมไม่เหมาะสมของผู้หญิง เพราะการแสดงความเป็นชายชาตรี และดำรงไว้ซึ่งสายเลือดของตนเอง ต้องกระทำผ่านการเจริญพันธุ์ของผู้หญิง ทำให้ก่อนแต่งงาน ญาติฝ่ายเจ้าบ่าวต้องมั่นใจว่า ผู้หญิงที่แต่งงานด้วย “บริสุทธิ์” เพราะเป็นการยากที่จะพิสูจน์ได้ว่า ลูกที่เกิดขึ้นเป็นของฝ่ายชายหรือไม่ จึงต้องแน่ใจว่าผู้หญิงบริสุทธิ์ ผู้หญิงต้องรักษาชื่อเสียง เกียรติยศ จึงถูกควบคุมความประพฤติให้เหมาะสม หากปราศจากสิ่งนี้ จะสร้างความอับอายขายหน้ามาถึงครอบครัวและเครือญาติด้วย ดังนั้นในชุมชนที่อนุรักษ์นิยม จะมีระเบียบควบคุมพฤติกรรมของผู้หญิงที่เข้มงวดมาก เธอต้องไม่เป็นที่สะดุดตา พรางตัวอยู่ในผ้าคลุม และต้องคอยระมัดระวังกริยาตนเองตลอดเวลา เช่น การห้ามผู้หญิงตะโกน ไม่ว่าจะอยู่ในสถานะใด การตะโกนเป็นพฤติกรรมไม่สุภาพ ผู้หญิงที่ดีไม่ควรทำ
ผู้หญิงใน Meragheh จะถูกควบคุมด้วยความเหมาะสม (ผู้หญิงดี) กับความบริสุทธิ์ ดังนั้นภาวะการแปดเปื้อนจึงเป็นสิ่งที่คุกคามความเป็นผู้หญิงดี และความบริสุทธิ์ส่วนตัว รวมถึงครอบครัวด้วย ช่วงวันสำคัญทางศาสนาที่มีการเทศน์ และในบทสนทนาของผู้หญิงจะย้ำถึง “ความบริสุทธิ์” ได้แก่การคลุมผ้า การอาบน้ำ และการละหมาด ทำให้ความเหมาะสม ความบริสุทธิ์ และหลักปฏิบัติทางศาสนาเชื่อมโยงกันและกัน กลายเป็นเสาหลักของชีวิตที่ดีของผู้หญิง สะท้อนโครงสร้างวัฒนธรรมที่มาของความเครียดที่ซับซ้อนของผู้หญิง
อย่างไรก็ตามที่มาเหล่านี้ ขึ้นอยู่กับบุคคล ชนชั้น และสถานภาพที่หลากหลาย นำมาซึ่งคามขัดแย้งและความเครียดที่แตกต่างกันในกลุ่มผู้หญิง ซึ่งโครงสร้างทางวัฒนธรรมที่ส่งผลต่อความเครียดสัมพันธ์กับความหมายความเข้าใจเรื่องยาคุมกับร่างกายของผู้หญิงที่กล่าวมาแล้วข้างต้น เมื่อวิเคราะห์ heart distress กับความต้องการอยากตะโกนของผู้หญิงคือการพยายามประท้วงเพราะการถูกกีดกัน หรือการถูกจำกัดให้อยู่แค่ลานบ้าน ซึ่งผู้หญิงอยากจะ “หลบหนี” ให้พ้นจากสภาพที่ดำรงอยู่ ทั้งนี้ย่อมไม่ใช่แค่การต้องการออกไปให้พ้นกำแพงบ้าน แต่ปรารถนาที่อยากจะไปให้พ้นจากกรอบ/ระเบียบที่ควบคุมพฤติกรรมผู้หญิงอย่างเข้มงวด ภาวะ heart distress เป็นการพูดถึงสิ่งที่พูดไม่ได้ในสังคมอิหร่านเพราะถูกจำกัด ตีกรอบและควบคุมเอาไว้
ดังนั้นความสัมพันธของผูหญิงในสังคมอิหรานมีความเกี่ยวพันกับอํานาจของศาสนาและผูชายเปนอยางมากและสัมพันธกับอาการที่เรียกวาในสั่น Heart Distress สะทอนความเครียดที่ซับซอนของผูหญิงในอิหราน จาก รางกายที่เปยมพลังและดึงดูดผูชายที่เปนอันตราย และตองควบคุม กับการเผชิญรางกายที่มีความสกปรก และ ความชราของตนเอง ประเด็นทางเพศวิถีเปนเงื่อนไขใหผูหญิงเกิดความเครียด และสรางheart distress ขึ้น หาก มองเชิงสังคมจะเห็นถึงความเครียดที่เกี่ยวของกับโครงสรางทางสังคมวัฒนธรรมในอิหรานแตกตางไปจาก ความเครียดอื่นๆ   โดยเฉพาะเรื่องของการมีประจําเดือน ที่เชื่อมโยงกับโลกทัศนความเชื่อในทางศาสนา ความศักดิ์สิทธิ์ ทางศาสนาและมลทินของการมีประจําเดือน โดยเฉพาะในชวงของการถือศีลอดและประกอบพิธีฮัลจ ที่จะตอง ใชยาเม็ดคุมกําเนิดเพื่อปองกันการมีประจําเดือน ที่จะนําไปสูการแปดเปอน ความสกปรกที่จะนําไปสู ความเครียดของผูหญิงที่จะไมสามารถทองบบทสวดตามความเชื่อทางศาสนาหรือมีเพศสัมพันธได รวมทั้งเรื่อง อื่นๆเชน การคลอดกอนกําหนด การแทง รางกายที่ออนแอ การใชยาคุมกําเนิด  สิ่งเหลานี้เกี่ยวของกับประสบการณของความเครียดที่มีอยูรวมกันในสังคมของผูหญิงชาวอิหราน ที่มี ความดึงดูด ยั่วยวนตอเพศตรงกันขามโดยเฉพาะผูชาย เสนหที่ดึงดูดเยายวนใจคือสิ่งที่อันตรายและตองถูก แยกตัวหรือเก็บตัว ความอุดมสมบูรณ การสามารถใหกําเนิดสมาชิกและความดึงดูดใจ เปนสิ่งถูกแทรกแซงหรือ ขัดขวางโดยสภาวะของความสกปรก การมีมลทิน และการคุกคามอยางสมบูรณโดยจารีตอันเกาแก สิ่งเหลานี้ได สรางชุดของความเครียดที่เชื่อมโยงระหวางประสบการณของผูหญิงกับความเจ็บปวยที่เรียกวา Heart Distress ที่ เกี่ยวของกับศูนยกลางทางวัฒนธรรมและโครงสรางทางสังคมของอิหราน  เพศวิถีของผูหญิงลอมรอบดวยบรรยากาศความสับสนในสังคมอิหราน ผูหญิงถูกมองวาเปนผูที่มีพลัง มหัศจรรยและดึงดูดผูชาย จากความเชื่อพื้นบานแถบเปอรเซีย แตพลังเชนนี้เองจะตองควบคุม และปกปดไว เพื่อ ปองกันมิใหไปกระตุนเราจนเกิดความวุนวาย ผูหญิงตองลดสายลงในระดับต่ำตลอดเวลา หามสบตากับผูชายที่ ไมใชญาติใกลชิดตนเอง ขณะที่ความดึงดูดของผูหญิง ทําใหเธอเปนที่ตองการ กระตุนแรงปรารถนา และความ รักแกสามี ซึ่งจะไดความซื่อสัตย ความรัก และทองคําเปนสิ่งตอบแทน แตสิ่งกระตุนนี้ก็เปนอันตรายตอความดี งาม และความสงบเรียบรอย เมื่อผูหญิงออกจากบานลําพังไมได จะตองถูกควบคุม อยูภายใตการดูแลของพอ สามี ญาติ หรือไปไหนมาไหนกับเด็กๆ มีขอหามผูชายเขาบานผูชายคนอื่นในระหวางที่ภรรยาอยูบานตามลําพัง การควบคุมเพศวิถีของผูหญิงยังมาจากสิ่งที่เรียกวา  black-hearted ซึ่งเปนการแสดงออกของผูชายตอผูหญิง ดวย การกีดกันและแยกเธอออกจากสังคม ความรูสึกหวาดระแวงและหึงหวงเมื่อเธอติดตอหรือพูดคุยกับผูชายคนอื่น ดังกรณีที่ผูเขียนเลาถึงเพื่อนที่เปน  ขาราชการ เธอถูกสามีกักไวไมใหออกมาขางนอกบานในชวงที่สามีตองออกไปทำงาน
ความหมายของใจสั่น Heart Distress ในสังคมของชาวอิหรานจึงไมใชลักษณะของโรคที่สมบูรณในโลกที่แทจริง แตมันคือจินตนาการที่เชื่อมโยงเครือขายของสัญลักษณ สถานการณ การกระตุน ความรูสึกและความ ตึงเครียดเขาไวดวยกัน ที่ซึ่งเปนรากฐานในโครงสรางที่ถูกสรางในวิถีชีวิตของชาว Maragheh ที่มีความเปน สาธารณะ เปนแบบแผนรวมกัน เปนตัวแทนรวม ในสนามของการใหความหมายที่แผอาณาบริเวณกวางและอยู เลยจากขอบเขตของการสํานึกรูของปจเจกชนจํานวนมากในการกําหนดของชวงเวลาที่หลากหลาย โดย ความหมายของHeart Distress  ของผูหญิงอิหรานมีมากมายหลายสาเหตุ เชนการใชเปนขออางในการออกจาก โครงการทางการแพทยที่เกี่ยวของกับการรับยาคุมกําเนิด โดยเชื่อมโยงกับลักษณะทางกายภาพ เชน หัวใจสั่น หรือความรูสึกทางกายภาพที่มีความสัมพันธกับความรูสึกเกี่ยวกับความกังวล ความออนแอ หรือการอางอิง หัวใจกับองคประธานของประสบการณ (Subject of experience) เชน ความรูสึกไมสบายที่เปนประสบการณ และความรูสึกทางกายภาพที่นําไปสูขั้นตอนของความเจ็บปวยที่นําไปสูโรคหัวใจในที่สุด   ดังนั้นแนวคิดในการอธิบายปรากฏการณของโรคหัวใจในบทความชิ้นนี้จึงมีความแตกตางจากแนวคิด ทางการแพทยที่มองแคประเด็นของกายภาพและชีวเคมีของรางกายเทานั้น แตไมไดอธิบายเชื่อมโยงกับมิติทาง สังคมวัฒนธรรม วิถีชีวิต ความเครียด ความขัดแยง อารมณความรูสึก รวมถึงโครงสรางเชิงสัญลักษณของ ชุมชนที่เชื่อมโยงภาษาและคําอธิบายเกี่ยวกับความเจ็บปวยที่มีความซับซอนและมีความเฉพาะในบริบท


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

สตรีนิยมกับสิ่งแวดล้อม โดย นัฐวุฒิ สิงห์กุล

Aldo Leopold(1994) เขียนหนังสือที่รวบรวมบทความของเขาชื่อ Sand Country Almanac เขาได้อธิบายถึงปรัชญาของนักสตรีนิยมสิ่งแวดล้อมว่า ผู้หญิงมีควา...