วันอังคารที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

ร่างกายในทางการแพทย์และการดูแลด้านสุขภาพ (The Body in Medicine and Health Care)และการเติบโตของธุรกิจด้านอวัยวะ นัฐวุฒิ สิงห์กุล

ร่างกายในทางการแพทย์และการดูแลด้านสุขภาพ (The Body in Medicine and Health Care)

          ร่างกายไม่ได้เป็นสิ่งที่มีความเกี่ยวข้องเฉพาะเรื่องของการรักษา(treatment)และการจัดการ(management)เกี่ยวกับร่างกายเท่านั้น แต่เป็นสิ่งที่ถูกแสดงในเรื่องราวทั้งหมดในทางกายแพทย์ (the whole subject of medicine) ทั้งมิติของการตีความ(interpretation)เกี่ยวกับร่างกายและการประกอบสร้างของร่างกาย(Construction) ภายใต้มิตินทางประวัติศาสตร์การเกิดขึ้นของมโมทัศน์หรือความคิด(paradigsm) ของการแพทย์สมัยใหม่(Modern Medicine) ที่ซึ่งทำให้เกิดการดำรงอยู่ของกระบวนการทางความคิดเกี่ยวกับร่างกายโดยเฉพาะการศึกษาทางด้านกายวิภาค(anatomy)และการเติบโตของการชำแหละหรือผ่าศพ (dissection)ในทางการแพทย์ ที่นำไปสู่การทำความเข้าใจร่างกายและการรักษาโรคในช่วงศตวรรษที่18-19 ภายใต้ข้อจำกัดและความดดันในกระบวนการจัดหาร่างกายเพื่อการศึกษา(supply of body) ร่างกายของนักโทษ(prisoner body)และร่างกายของคนยากจน(poor body)คือร่างกายที่สำคัญในการจัดหาเพื่อพัฒนาองค์ความรู้ในทางกายแพทย์ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ภายใต้ประเด็นของความเปราะบางอ่อนไหว ประเด็นจริยธรรมและความไม่เท่าเทียมกัน รวมถึงนโยบายทางเศราฐกิจและการค้า การลงทุนในกระแสสุขภาพ ที่สร้างความเชื่อมโยงระหว่างรัฐ เอกชนและผู้คน  ที่นำไปสู่ปัญหาของการค้ามนุษย์ การขายอวัยวะ ที่เชื่อมโยงระหว่างประเทศโลกที่สามกับประเทศที่พัฒนาแล้ว คนผิวสี คนผิวดำในประเทศยากจนกับคนผิวขาวที่ร่ำรวย
การค้าขายอวัยวะ : ร่างกายที่ต้องการในตลาดสุขภาพ
          การเติบโตของการค้าการลงทุนภายใต้กระแสของโลกาภิวัตน์ที่การค้าการลงทุนเชื่อมโยงระดับท้องถิ่น ประเทศ ระหว่างประเทศ ภูมิภาคจนถึงระดับโลก ภายใต้รูปแบบวิธีการของการแลกเปลี่ยนซื้อขายอวัยวะของร่างกายที่เป็นเครือข่ายความสัมพันธ์ระหว่างกลุ่มทุน โรงพยาบาล บริษัทเอกชนจนถึงประชาชนธรรมดาที่มีฐานะร่ำรวย  ดังเช่นคนไข้(patients)บางคนได้เดินทางไปในบางประเทศ โดยเฉพาะประเทศที่กำลังพัฒนาหรือด้อยพัฒนาที่เป็นแหล่งของการแลกเปลี่ยนซื้อขายอวัยวะ (Cohen,2001; scheper – Hughes,2001,Twigg,2006)
          ตัวอย่างเช่น Cohen(2001)ได้อธิบายถึงการเติบโตของอุตสาหกรรมทางการแพทย์(Medical -Tourism) ในอินเดีย ที่สัมพันธ์กับการลงทุนของประเทศในโลกที่1(First World)หรือประเทศที่พัฒนาแล้วในเรื่องของการคมนาคมขนส่ง สนามบินนานาชาติ การลงทุนทางการแพทย์ การสร้างโรงพยาบาล ที่เชื่อมโยงกับประเทศโลกที่3 (third World) ซึ่งเป็นสถานที่ของการจัดหาอัวยวะสำหรับใช้ในทางการแพทย์ โดยที่ปัจเจกบุคคล deperate enough กับการขายชิ้นส่วนของอวัยวะ(Sell body part) ที่สัมพันธ์กับการKidneyและการบริจาค(donation)ที่หลีกเลี่ยงนัยยะทางกฎหมาย แม้ว่าในบางประเทศจะมีกฏหมายควบคุมเกี่ยวกับการซื้อขายอวัยวะ แต่ก็ยังคงมีการลักลอบซื้อขายอวัยวะในตลาดมืด (black Market)  โดยเฉพาะการติดต่อซื้อขายอวัยวะในชนบทกับผู้ขายชาวชนบท(rural seller)ที่ห่างไกลกลายเป็นสิ่งที่ถูกทำให้มืดบอด มองไม่เห็นและเงียบเชียบไร้เสียงของผู้คนในประเทศเหล่านั้น และกลายเป็นสิ่งที่คนเหล่านี้เต็มใจที่จะซื้อขายภายใต้ภาวะของความยากจน การเป็นหนี้สิน ความต้องการช่วยเหลือครอบครัวและค่านิยมความกตัญญู เป็นต้น
          ในขณะที่บางประเทศรัฐมีส่วนเกี่ยวข้องกับการซื้อขายอวัยวะโดยตรง เช่นการติดต่อประสานงานให้กับผู้ต้องการอวัยวะ(Commandeering)กับหน่วยงานที่ทำหน้าที่ซื้อขายอวัยวะที่เชื่อมโยงกับเรื่องของสิทธิและอาชญากรรมข้ามประเทศ ในประเทศจีนระบบการเมืองการปกครองของประเทศทำให้เกิดการยึดเอาอวัยวะของนักโทษ ทีอวัยวะเหล่านี้จะถูกทำให้เป็นสินค้าและขายให้กับคนไข้ในประเทศฮ่องกง ไต้หวันและสิงคโปร์(scheper – Hughes,2001)
scheper – Hughes มองว่าการค้าอวัยวะคือสิ่งที่บ่งชี้พลังของการกัดเซาะของระบบทุนนิยมโลก ที่ซึ่งชีวิตถูกลดทอนกับสถานภาพของการเป็นสินค้าของตลาด(Market Commodities) การค้าอวัยวะ(Traffic in organ) เคลื่อนตามการเชื่อมต่อของโลกและการไหลเวียนของแรงงาน และการปรับให้สอดคล้องกับแนวทางที่ได้วางเอาไว้ของสังคมและเศรษฐกิจที่ขยายตัว องค์ประกอบทางด้านเชื้อชาติ(race)ก็รวมอยู่ในนี้ด้วย ดังเช่นการผ่าตัดเปลี่ยนอวัยวะในแอฟริกา ความจริงสำคัญก็คือ หัวใจที่มาจากคนจน ผู้ชายผิวดำในเมืองเล็กๆ ที่ปลูกถ่ายไปยังร่างกายของคนรวย คนผิวขาว วันนี้การปลูกถ่ายอวัยวะ(Transplant)เคลื่อนย้ายไหลเวียนจากทางใต้ไปสู่ทางเหนือ จากคนจนไปสู่คนรวย จากคนผิวดำ ผิวสีน้ำตาลไปสู่คนผิวขาวและจากผู้หญิงไปสู่ผู้ชาย(scheper – Hughes,2000)
ชุดของคำว่า การทำให้เป็นการแพทย์ (medicalization) เริ่มถูกใช้ครั้งแรกในช่วงปี1970 เมื่อนักสังคมวิทยาชาวอเมริกันชื่อ Irving K. Zola (1972) ที่ได้ชี้ให้เห็นอิทธิพลของการแพทย์(the influence of medicine) เช่นเดียวกับสถาบันของการควบคุมทางสังคมและอิทธิพลที่เพิ่มขึ้นกับการใช้ชีวิตประจำวันของปัจเจกบุคคล โดยกระบวนการทำให้เป็นประเด็นทางกานแพทย์สามารถเกิดขึ้นได้ใน3ระดับ 1ในระดับแนวคิด(conceptual level)โดยใช้ชุดคำหรือการอธิบายทางการแพทย์(medical terminology)ที่ซึ่งสามารถอธิบายหรือพรรณนาถึงปัญหา(describe a problem) 2.ในระดับของสถาบัน(institutional level)โดยการใช้วิธีการทางการแพทย์ที่เป็นมาตรฐานที่นำไปสู่การสำรวจปัญหา(explore a problem) 3.ระดับของปฏิสัมพันธ์(an interactional level) ที่เป็นปฏิสัมพันธ์ระหว่างหมอและผู้ป่วย(doctor-patient interaction) ภายใต้ปัญหาที่ถูกบ่งชี้โดยแพทย์ เช่นเดียวกับการแพทย์และการรักษา
Conrad and Barker (2010: 74) อ้างว่า การทำให้เป็นกระบวนการทางการแพทย์มีการแผ่กว้างเลยไปจากเรื่องของความเชี่ยวชาญทางการแพทย์(medical professionals) การเคลื่อนไหวทางสังคมและการจัดระเบียบที่เชื่อมโยงกับเทคโนโลยีทางชีวะ(biotechnology) การบริโภค(consumers)และอุตสาหกรรมประกันภัย(insurance industry) ที่สะท้อนผ่านอุตสาหกรรมเกี่ยวกับยาและเวชภัณฑ์(pharmaceutical industry) ที่แสดงบทบาทและตอกย้ำให้เห็นว่ากระบวนการของการทำให้เป็นประเด็นทางการแพทย์ได้แผ่ขยายไปสู่เรื่องของผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์(medical professionals)การเคลื่อนไหวทางสังคมและกระบวนการจัดระเบียบ(social movements and organizations)ที่นำไปสู่ไบโอเทคโนโลยี(biotechnology) การบริโภค(consumers)และอุตสาหกรรมประกันภัย(the insurance industry)นี่คือสิ่งที่เป็นหลักฐานชี้ให้เห็นว่าอุตสาหกรรมทางเวชภัณฑ์(pharmaceutical industry)ได้แสดงบทบาทสำคัญในการให้โครงร่างและเผยแพร่เกี่ยวกับความรู้ทางการแพทย์(medical knowledge)เพื่อการสนับสนุนและส่งเสริมผลิตภัณฑ์ของพวกเขา(Williams and Calnan, 1996; Conrad and Leiter, 2004; Bezenšek and Barle, 2007; Conrad and Barker, 2010)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

สตรีนิยมกับสิ่งแวดล้อม โดย นัฐวุฒิ สิงห์กุล

Aldo Leopold(1994) เขียนหนังสือที่รวบรวมบทความของเขาชื่อ Sand Country Almanac เขาได้อธิบายถึงปรัชญาของนักสตรีนิยมสิ่งแวดล้อมว่า ผู้หญิงมีควา...