วันพฤหัสบดีที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2554

เรียนมหาวิทยาลัย(6)


ผมสังเกตเห็นหนิงแต่งตัวเป็นผู้หญิงมากขึ้น เธอสลัดกางเกงยีนส์แต่หันมานุ่งผ้าถุงแทน ทำกับข้าวน้ำพริก ฝักแม้วลวกให้ผมกิน ในช่วงที่ลงมาเยี่ยมเพื่อนนั่นคือความแปลกที่ผมไม่เคยเห็นหนิงทำ นอกจากจับกีตาร์เล่นดนตรีที่ซุ้มไผ่ชนพ.จนกระทั่งวันหนึ่งที่เรากลับจากมหาวิทยาลัยและจะกลับเข้าไปในหมู่บ้าน วันนั้นไม่มีรถสักคันที่เราจะโบกเพื่อขอติดรถขึ้นข้างบน เราเดินไปเรื่อยๆจนเกือบจะถึงบ้านดงสะคร่าน หนิงเล่าว่าเมื่อคืนก่อน ฝันว่าเธอเคยเป็นคนบ้านนี้และอยู่ที่นี่ ผมยังแซวหนิงว่า หนิงคงจะรักที่นี่มากเลยอยากอยู่ที่นี่ เราไม่เคยคิดและไม่รู้ว่าคำพูดนี้จะเป็นลางอะไรบางอย่างกับชีวิตของหนิง เราเดินไปจนถึงหมู่บ้านที่เราพักซึ่งก็เกือบเย็น ผมเหนื่อยหล้าแต่ก็ไม่เบื่อที่จะต้องเดินอย่างนี้ประจำ
หลังจากที่เราฝึกครบสามเดือนและต้องจากที่นี่ ผมรู้สึกเศร้ามาก ตอนค่ำคืนนั้นพ่อผู้ช่วยฯและแม่และลูกของแก ก่อไฟเผามันใต้ทุนบ้าน พวกเรานั่งล้อมวงกินมันเผา จิบน้ำชาและคุยกัน แกรู้ว่าผมจะต้องกลับไปเรียนและเขียนรายงานฉบับสุดท้ายก่อนจบการศึกษาแล้ว แกก็เอาสายสินจ์มาผูกข้อมือให้ผมอวยพรให้ผมประสบความสำเร็จ ผมขอบคุณพวกท่านที่ดูแลผมเป็นอย่างดี ผมรู้สึกเศร้าใจและใจหายบอกไม่ถกและรู้ว่าคงยากที่จะได้มีโอกาสกลับมาที่นี่อีก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

สตรีนิยมกับสิ่งแวดล้อม โดย นัฐวุฒิ สิงห์กุล

Aldo Leopold(1994) เขียนหนังสือที่รวบรวมบทความของเขาชื่อ Sand Country Almanac เขาได้อธิบายถึงปรัชญาของนักสตรีนิยมสิ่งแวดล้อมว่า ผู้หญิงมีควา...